……………………..
กลอนที่ 1
…………………….
นอนหายใจ รวยริน สิ้นสติ
นึกดำริ สิ่งใด ไม่เป็นผล
แม้หายใจ ก็ลำบาก ยากเหลือทน
หวังให้คน หายใจช่วย ก็ป่วยการ
ได้แต่นอน ทอดถอนใจ ไร้ความหวัง
หมากสตางค์ จ่ายค่ายา ค่าอาหาร
จ่ายคุณหมอ หมดไป ตั้งหลายวัน
ได้แต่ฝัน ว่าบุญส่ง คงไม่ตาย
อาศัยถัง ออกซิเจน เป็นผู้ช่วย
ถึงหายใจ รวยริน กินทางสาย
แต่แรงใจ ยังอยู่ มิรู้คลาย
หวังสุดท้าย คือกุศล ดลบันดาล
หมดเงินก็ หมดหวัง หมดทางรอด
คุณหมอถอด ออกซิเจน เข็นกลับบ้าน
หวังไว้ว่า ถ้ากุศล ดลบันดาล
คงหายวัน หายคืน ฟื้นเป็นคน
อยากจะกลับ ไปทำงาน เหมือนก่อนเก่า
ครอบครัวเรา มีเงินใช้ ไม่ขัดสน
ใช้เงินกู้ พร้อมดอกได้ ไม่อับจน
สร้างกุศล ไว้ก่อนตาย วายชีวา
แต่ความหวัง ไม่เป็น เช่นที่คิด
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ห่างหาย ไม่มาหา
บุญกุศล ผลบุญ ไม่หนุนพา
เหล่านางฟ้า ก็หายแห้ว ไม่แพ้วพาน
ได้แต่ทอด ถอนใจ ไร้ความหวัง
สติสตัง เตลิดไป ไม่ประสาน
หวังเพียงแค่ สูดลม หายใจทัน
เรื่องอื่นนั้น ทิ้งไป ไม่คำนึง
………………………
กลอนที่ 2
…………………….
ชีวิตของ คนป่วย ชวยย่ำแย่
ต้องนอนแผ่ บนเตียงหมอ รอความหวัง
ให้หมอช่วย ชีพฟี้น คืนพลัง
ใช้สตังค์ เท่าไหร่ ถวายเลย
ขายไร่นา เรือนชาน ทั้งบ้านรถ
ขายมาหมด ทรัพย์สิน ถิ่นอาศัย
แลกยาดี หมอช่วย ด้วยจริงใจ
ถ้าไม่ตาย คงหาใหม่ ได้เหมือนเดิม
นอนเหม่อมอง น้ำเกลือหยด จนหมดขวด
หมอมาตรวจ เปลี่ยนใหม่ ให้มาเสริม
แถมฉีดยา ให้ยาไว้ ใช้เพิ่มเติม
ใจชักเริ่ม หวั่นไหว ไปตามมาร
(ยังมีต่อ)
นอนหายใจ รวยริน กินทางสาย
ไม่อาจจะ หยิบจับ ขยับกาย
ลมหายใจ