สามารถปรับแต่งร้องหมอลำและแหล่ได้
…………………….
กลอนที่ 1
…………………..
เดือนสี่ขึ่น เป็นบุญใหญ่ไทยอีสาน
สืบทอดมายาวนาน สองพันปีเลยแล้ว
ยึดตามแนวคำเว้า พระอาจารย์บอกเล่า
ถึงเรื่องราวพระพุทธเจ้า ก่อนสิเข่าสู่นิพพาน
ว่าชาติสุดท้ายนั้น พระองค์เกิดเป็นกษัตริย์
ปกครองรัฐสีพี อยู่อินเดียโบราณพุ้น
เพิ่นใจบุญทานให่ คนไปขอบ่ขี่ถี่
เงินคำมีมากล้น ทานจนเกลี้ยงบ่ยัง
จนพระคลังแปนแห่ง งัวควายเกลี้ยงคอก
ช้างและม้า ทานสิ้นคู่โต
ชาวเมืองโมโหฮ้าย ไล่หนีไปอยู่ป่า
พระองค์พามัทรีอุ้มลูกน้อย หนีไปซ้นอยู่ป่าเขา
นับแต่พระบาทเจ้า ออกจากสีพี
ฝนบ่ตกเจ็ดปี เฮ็ดนากะบ่ได้
เมฆฝนไหลมาแล้ว เวินไปต๊กหม่องใหม่
ฝูงงัวควายช้างม้า เหงาหง่อยจ่อยผอม
ชาวเมืองตรอมใจเศร้า โสกันจนอิ้ดอ่อน
บ่เห็นบ่อนแก้ได้ ไห่ฮ้องก่องน้ำตา
จึงพากันไปเฝ้า องค์สญชัยให่เพิ่นซอย
เชิญพระเหวดกับหลานน้อย มัทรีพร้อมต่าวคืน
พ่อสญชัยฝืนบ่ได้ แต่ดีใจสุดสิกล่าว
ที่ชาวเมืองอภัยให่ ลูกชายไท้ได้ต่าวคืน
จึงทรงมีบัญชาให่ ไพร่พลสีพีราช
พากันยุรยาตรขึ่น เขาวงกตพร้อมกล่าวขอ
พ่อพระเหวดฝืนบ่ได้ ต้องลาเพศพระฤาษี
พาลูกน้อยกับมัทรี ต่าวคืนเมืองบ้าน
อัศจรรย์เกิดขึ่น ท้องฟ้ามืดมัวฝน
ชลธารินตก เป็นละอองไอน้ำ
ยามตกถืกเสื้อผ้า บ่เปียกเลยจั๊กสะนอย
ฝนตกค่อยเจ็ดมื้อ จั่งฟ้าแจ้งดั่งเดิม
ฝนฟ้าเริ่ม ไหลหลั่งรินตก
ปกติดังเดิม คือเป็นมาแต่ก่อนกี้
ชาวสีพีมีเงินใช้ หมู่เสนาหาเงินง่าย
คนว่างงานมีรายได้ คนบอดใบ้กะเล่าหาย
ชาวอิสานทั้งหลายได้ ฟังเรื่องราวพระเพิ่นเล่า
จึงได้เอาเรื่องนี้ มาเป็นต้นก่อบุญ
หนุนนำให่ ฝนตกมาทุกหนแห่ง
อีสานเคยแห่งแล้ง เกิดฝนฟ้าซุ่มเย็น
เป็นประเพณีส่งให่ ไทยอีสานสืบต่อ
พอฮอดเดือนสี่ขึ่น บุญพระเหวดเริ่มทั่วแดน ซั้นแหล่ว พี่น้องเอย
……………………
กลอนที่ 2
…………………….
เดือนสี่ขึ่น เริ่มบุญใหญ่ไทยอีสาน
สืบทอดแต่โบราณ ฮอดลูกหลานสู่มื้อนี้
เป็นวิถีไทยบ้าน คนอีสานทุกท้องถิ่น
ต่างยินดีสละให่ ปัจจัยพร้อมซ่อยกัน
เตรียมงานไว้ล่วงหน่า หนึ่งปีเปลี่ยนผ่าน
งานบุญจั่งสิพร้อม อานิสงส์ได้ดั่งหมาย
เชิญผะเหวดเข้าเมืองได้ ฝนใหญ่สิฮวยฮำ
ข้าวน้ำบริบูรณ์ งัวควายบ่อึ้ดหญ้า
หมูหมากะสิอ้วน ไก่กาบ่ตายห่า
ชาวบ้านหาเงินได้ บ่ป่วยไข้จ่อยโซ
โสลุบกลายเป็นได้ ความจังไฮสิหนีห่าง
ทางชีวิตข้างหน้า สิมีโชคคู่สู่คน
ความทุกข์จนสิแล่นลี้ หนีไปบ่เห็นไหง่
ไทยอีสานเชื่อจั่งซี้ จัดงานขึ้นคู่ปี
พิธีการเริ่มจาก ไปอัญเชิญพระยาเหวด
สมมุติว่าเกิดเหตุฮ้อน ฝนแล้งน้ำบ่มา
ชาวประชาทุกข์ยาก ปากหมองท้องกะไข่
ต้องไปเชิญผะเหวดเจ้า คืนเข้าสู่นคร
ตอนไปเชิญพระเหวดนั้น กะแหนแห่ธรรมดา
แต่ตอนแห่คืนมา ม่วนหลายตามเรื่อง
บ่เคืองกันยามเล่น บ่ตีกันยามแห่
หว่านแหงุมเต่าเถ่า เด้าเด้งม่วนมัน
ผู้สาวหันหนีหน่า หลับตาบ่อยากเบิ่ง
ส่วนแม่ยายบักเผิ่ง หัวยุ้มป้อยบักห่าตำ
ทางหมอลำหมอร้อง ฉลองงานบุญผะเหวด
เหตุตีกันหน่าฮ้าน บ่มีจ้อยดอกอาว
ซุมผู้สาวนั่งทาแป้ง แยงคีงถ่าผู้บ่าว
มาฮอดคราวต้องเลือกแล้ว ขืนช้าได้ขึ่นคาน
คนอีสานยึดหมั่น ประเพณีบุญเดือนสี่
ตั้งแต่ก๊กแต่กี้ ฮอดมื้อนี้และต่อไป ซั้นแหล่ว พี่น้องเอย
………………..