สคริปต์งานฌาปนกิจศพ / คำกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณ

สคริปต์พิธีกรงานฌาปนกิจศพแม่ครูนุชดา  ฝุ่นเงิน

………………………………………………………………………………

หลังจากวางหีบศพไว้บนเมรุเรียบร้อยแล้ว

พิธีกรหนึ่ง  : นมัสการพระคุณเจ้า  ที่เคารพอย่างสูง 

เรียนคุณ  ……………………………….ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพและแขกผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน

พิธีกรหนึ่ง  : ดิฉัน …………………..ตำแหน่ง…………..……โรงเรียน………………………………….

พิธีกรสอง  :  และดิฉัน …………………..ตำแหน่ง…………..…โรงเรียน………………………

 พิธีกรหนึ่ง  : เราทั้งสองได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้ทำหน้าที่พิธีกรงานฌาปนกิจศพแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน

พิธีกรสอง  : ก่อนอื่นดิฉันขอแจ้งกำหนดงานฌาปนกิจให้ท่านที่เคารพที่กรุณามาเดินทางมาร่วมงานศพครั้งนี้ได้รับทราบร่วมกันดังนี้   

1.   ไหว้พระรับศีล

2.   พระสงฆ์สวดมาติกา

3.   ทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุ

4.   พระสงฆ์สวดบังสุกุลและอนุโมทนา

5. ทอดผ้าบังสุกุลไตรยรองบนเมรุ

6.   อ่านประวัติผู้วายชนม์

7. อ่านบทกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์

8.  มอบทุนสาธารณะประโยชน์

9. ทอดผ้าไตรยเอก

10.  พระสงฆ์วางดอกไม้จันทน์

11.  ผู้ร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์บนหีบศพบนเมรุ

12.  โปรยทาน/แจกของที่ระลึก

พิธีกรหนึ่ง  : บัดนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว  ขอเรียนเชิญคุณพ่อ…………………………. มรรคนายกเป็นผู้นำทางพุทธศาสนพิธีต่อไป ขอเรียนเชิญค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุชุดที่  1 

พิธีกรหนึ่ง  : ขอเรียนเชิญผู้ทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  1   จำนวน  10  ท่านดังนี้  1…………………………………………………………2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

7………………………………………………..8………………………………..

9………………………………………………..10………………………………วางผ้าบังสุกุลแล้วหันหน้าไปทางเมรุ ยืนตั้งแถวรอเพื่อนก่อนนะคะ  พร้อมทุกคนแล้วจึงยกมือไหว้พร้อมกัน กลับหลังหันเดินกลับเข้าสู่ที่นั่งตามเดิมค่ะ  ขอบคุณค่ะ

 พิธีกรสอง  : ขอเรียนเชิญ ผู้ร่วมทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  2  จำนวน  10  ท่านดังนี้  1…………………………………………………………2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

7………………………………………………..8………………………………..

9………………………………………………..10………………………………

(เสร็จแล้ว)

พิธีกรสอง  : ขอเรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  3  จำนวน  10  ท่านดังนี้ 

1………………………………………………………….2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

7………………………………………………..8………………………………..

9………………………………………………..10………………………………

พิธีกรหนึ่ง  : ขอเรียนเชิญ ผู้มีเกียรติร่วมทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  4  จำนวน  10   ท่านดังนี้  1……………………………………………………..2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

7………………………………………………..8………………………………..

9………………………………………………..10………………………………

 พิธีกรสอง  :  กราบนิมนต์พระคุณเจ้าบนอาสน์สงฆ์  สวดบังสุกุลและอนุโมทนา เจ้าค่ะ

พิธีกรหนึ่ง  :  เรียนเชิญผู้ร่วมพิธีทุกท่านเตรียมกรวดน้ำรับพรค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญท่านผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  1 จำนวน  6  .ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรหนึ่ง  : นิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  6  รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรอง บนเมรุ……..กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  2 จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรสอง  : นิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  6  รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังไตรรองบังสุกุลบนเมรุ    กราบนิมนต์เจ้าค่ะ   

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญท่านผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  3 จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรหนึ่ง  : นิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  6 รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุ…….กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญท่านผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  4 จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรสอง  : กราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  6  รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุ   กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยกันค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญท่านผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  5จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรหนึ่ง : นิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  6 รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุ    กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยกันค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  6 จำนวน 6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรสอง  : นิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน 6 รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุ   กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรหนึ่ง : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญท่านผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  7 จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรหนึ่ง : กราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน 6 รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรอง  …..กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยกันค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุชุดที่  8จำนวน  6  ท่านดังนี้

1……………………………………………………..   2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

5………………………………………………..6………………………………..

พิธีกรสอง  : กราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน. 6  รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรองบนเมรุ     …..กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยกันค่ะ

(เสร็จพิธี)

พิธีกรสอง  : ลำดับต่อไปเป็นการนำเรียนประวัติผู้วายชนม์

พิธีกรหนึ่ง  :  งานนี้เจ้าภาพได้รับเกียรติจาก………………………………………เป็นผู้นำเรียนประวัติของผู้วายชนม์ ขอเรียนเชิญค่ะ

ผู้อ่านประวัติ…..นมัสการพระคุณเจ้า  ที่เคารพอย่างสูง    เรียนคุณ……………………………………..ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน และแขกผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน 

กระผม ………………………………………….ได้เกียรติจากเจ้าภาพให้เป็นผู้ นำเรียนประวัติของแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน โดยสังเขป  เพื่อเป็นเกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ผู้วายชนม์  ดังนี้

ประวัติแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน โดยสังเขป

ชาติกำเนิด

แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน เกิดเมื่อ วันที่  ….  เดือนเมษายน  พ. ศ. ….. ที่ บ้าน……….  ตำบล …………  อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร  บิดาชื่อ…..   มารดา ชื่อ ……มีพี่น้องร่วมกัน  ……  คน ดังนี้

1. คุณ……………………………. ..ปัจจุบัน………………………………………

2.  คุณ……………………………..  ปัจจุบัน……………………………………

3.  คุณ……………………………….ปัจจุบัน…………………………………….

4. คุณ………………………………. ปัจจุบัน………………………………………..

5.  คุณ……………………………..  ปัจจุบัน………………………………………

6.  คุณ………………………………. ปัจจุบัน……………………………………..

ประวัติการศึกษา

1. เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่  4  จากโรงเรียน………………. ตำบล……….. อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
2. เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  จากโรงเรียน……………….. …อำเภอสว่าง

แดนดิน   จังหวัดสกลนคร

• เรียนจบชั้นปริญญาตรี  จากมหาวิทยาลัยราชภัทรสกลนคร                                                                                                                                                                  

ประวัติการทำงาน

1. บรรจุเป็นครูผู้สอน  ที่โรงเรียนบ้านทุ่งแก  ตำบลทุ่งแก  อำเภอเจริญศิลป์  จังหวัดสกลนคร  จนเกษียณอายุราชการ  เมื่อปี พ.ศ. 25……

ประวัติการได้รับรางวัลเกียรติยศ

1. ได้รับรางวัลชนะเลิศ……………………….. ของจังหวัดสกลนครหลายสมัย
2. …………………………………………………………………………………………….
3. ………………………………………………………………………………………….
4. …………………………………………………………………………………………….

ประวัติการครองรักครองเรือน

• แม่ครูนุชดา สมรสกับพ่อครูณะฐะ  ฝุ่นเงิน  ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งแก  อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร   มีธิดาด้วยกัน  1  คน ดังนี้
• นาง………………………………. สมรสกับ…………………………… ประกอบอาชีพราชการอยู่ที่………………………อำเภอ…………….. จังหวัดสกลนคร

อุปนิสัย

แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน เป็นคนมีอัธยาศัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ คุยสนุกเป็นกันเอง  ให้คำปรึกษาแก่ลูกหลานญาติพี่น้องทุกคนได้ทุกเรื่อง  จึงเป็นที่เคารพรักนับถือของลูกหลาน  เพื่อสนิทมิตรสหาย และญาติพี่น้องทุกคน

ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

วาระสุดท้าย

แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ได้จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่  ……  กันยายน  พ.ศ. 2568  เวลา  ………….น. สิริอายุได้  ……………..  ปี   ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้เกิดแก่ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

อกุศลกรรม  คือกรรมไม่ดีที่แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่  ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมนั้นให้แก่แม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ด้วย เทอญ

กุศลกรรม  คือกรรมดี ซึ่งแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่  ขอให้กรรมดีนั้นได้โปรด มาเป็นพลังปัจจัย  อำนวยผล ดลบันดาล ให้ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพด้วยเทอญ

ขอเรียนเชิญทุกท่านยืน-นั่งตามอัธยาศัย   ตั้งใจสงบนิ่ง  1  นาที  เพื่อไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ ขอเรียนเชิญครับ

ครบ  1  นาที  เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องเสียงเปิดเพลงธรณีกรรแสงเบา ๆ ขณะเริ่มต้นอ่านบทกลอน  และปิดเพลงเมื่ออ่านบทกลอนไปได้สักเล็กน้อย

พิธีกรหนึ่ง  : อ่านบทกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ดังต่อไปนี้ 

อาลัยแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน

เราสร้างฝัน  ร่วมกัน ก่อนวันแต่ง         จะแสวง  หาทรัพย์  สร้างหลักฐาน

จะมีลูก  หนึ่งคน  หลังแต่งงาน                       ร่วมกันสาน  ถักทอ ไม่ท้องาน

เราจะมี  กันและกัน  ชั่วชีวิต                    เป็นคู่คิด ร่วมทาง ร่วมสร้างฝัน

เราจะยืน  หยัดอยู่  เคียงคู่กัน                        จนถึงวัน  พักผ่อน  นอนสิ้นลม

มาบัดนี้  ความฝัน  เป็นจริงบ้าง             มีช่องทาง เดินได้ ไม่ขื่นขม

ครอบครัวเรา ยืนอยู่ได้  ในสังคม                   ไม่ต้องข่ม  ใจฝืน  กลืนน้ำตา

แต่แม่กลับ ดับขันธ์ ไปก่อนพ่อ             ชะเง้อคอ  ติดตาม  ไถ่ถามหา

แม่ไปแล้ว  ไปลับ  ไม่กลับมา                     สุดเหว่ว้า  เปล่าเปลี่ยว  อยู่เดียวดาย

รู้ดีว่า  ความตาย  เป็นธรรมชาติ           ไม่มีใคร  สามารถ  ทัดทานได้

ทุกคนเกิด  มาแล้ว  ก็ต้องตาย                 แต่ไม่วาย  กลั้นสะอื้น  กลืนน้ำตา

จึงกราบก้ม  ประณมนึก  อธิษฐาน    ขอวิญญาณ  แม่สู่แคว้น  แดนหรรษา

เกิดเป็นเทพ  เสพสุข  ทุกเวลา              หวังชาติหน้า  เกิดใหม่  ได้พบกัน

พ่อกับลูก อยู่ข้างหลัง ขอตั้งจิต             น้อมอุทิศ กุศลไป ให้ไพศาล

ส่งถึงแม่  ผู้จากไป ให้เบิกบาน                แสนสำราญ  เปี่ยมสุข ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์        ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน             ตราบนิรัน ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..พ่อครูณะฐะ  ฝุ่นเงิน  ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

หรือ……………………………………….

อาลัยแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน

เราหอบฝัน มารวมกัน  ในวันแต่ง         จะร่วมแรง ร่วมใจ  ร่วมไขว่คว้า

สร้างฐานะ  ให้คงมั่น  ดั่งสัญญา                        หวังลืมตา  อ้าปากได้  ในสักวัน

เราต่างมี  กันและกัน  ในชีวิต                                เป็นคู่คิด ร่วมทาง ร่วมสร้างฝัน

ยืนหยัดอยู่  เคียงข้าง  ไม่ห่างกัน                     ความสัมพันธ์  คงอยู่  มิรู้คลาย   

ความฝันเรา  ตั้งไว้  ตั้งหลายอย่าง มีช่องทาง  เดินได้  ดั่งใจหมาย

ชีวิตรัก  อบอุ่น  ไม่วุ่นวาย                                   เป็นตายาย  สายปฏิบัติ  เข้าวัดวา

          มาบัดนี้  แม่ล่วงลับ  ดับขันธ์แล้ว          ไร้วี่แวว  จะติดตาม  ถามไถ่หา

แม่ไปแล้ว  ไปลับ  ไม่กลับมา                หยดน้ำตา  เอ่อล้น  พ้นรำพัน

        จากนี้ไป  พ่อไม่มี  แม่เคียงข้าง              มีช่องทาง  ได้พบเห็น  เป็นเพียงฝัน

ไม่มีวัน  ได้พบหน้า  พูดจากัน                  แม้ความฝัน  ก็ห่างหาย  สลายไป

รู้ดีว่า  ความตาย  เป็นธรรมชาติ              ไม่มีใคร  สามารถ  ขัดขืนได้ 

ทุกคนเกิด  มาแล้ว  ก็ต้องตาย                แต่ไม่วาย  กลั้นสะอื้น  กลืนน้ำตา

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์   สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทุกหนแห่ง  ทั่วแหล่งหล้า

ทั้งกุศล  ผลบุญ  หนุนนำพา           เทพเทวา  ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  แม่ลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า  เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

สถิตอยู่  สรวงสวรรค์  นิรันดร               สาวอัปสร  พาสนุก  ทุกคืนวัน

พ่อกับลูก อยู่ข้างหลัง ขอตั้งจิต                     น้อมอุทิศ กุศลไป ให้ไพศาล

ส่งถึงแม่  ผู้จากไป ให้เบิกบาน                               แสนสำราญ  เปี่ยมสุข ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์              ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..พ่อครูณะฐะ  ฝุ่นเงิน  ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

พิธีกรสอง  : ลำดับต่อไปเป็นมอบทุนสาธารณะประโยชน์

พิธีกรหนึ่ง  : เรียนเชิญเจ้าภาพมอบทุนสาธารณะประโยชน์ให้แก่

พิธีกรสอง  : 1.

พิธีกรหนึ่ง :        2.

พิธีกรสอง  : 3.

พิธีกรหนึ่ง  : 4.

พิธีกรสอง : 5.

พิธีกรหนึ่ง :  6.

พิธีกรสอง  : ลำดับต่อไปเป็นพิธีทอดผ้าบังสุกุลไตรเอกบนเมรุ  งานนี้เจ้าภาพได้รับเกียรติจากท่านประธานพิธี. พร้อมคณะจำนวน  4  ท่าน ดังนี้

1………………………………………………….2…………………………………….

3………………………………………………….4…………………………………….

เป็นผู้ทอดผ้าบังสุกุลไตรเอก บนเมรุ  ขอเรียนเชิญค่ะ

พิธีกรหนึ่ง  : กราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน. 4  รูป เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรเอกบนเมรุ     …..กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งกุศลผลบุญให้แก่ดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติด้วยกันค่ะ

พิธีกรสอง  : ลำดับต่อไปเป็นการวางดอกไม้จันทน์

พิธีกรหนึ่ง  : นิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปได้กรุณาขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนหีบศพบนเมรุเพื่อเป็นการโปรดดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติ เป็นครั้งสุดท้าย…….กราบนิมนต์เจ้าค่ะ

พิธีกรสอง  : ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมวางดอกไม้จันทน์  เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติ  เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ

พิธีกรหนึ่ง  : ลำดับสุดท้าย   รับของแจกของทานของที่ระลึกจากเจ้าภาพก่อนเดินทางกลับบ้านนะคะ

พิธีกรสอง  :   กราบเรียน  ท่านผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน

การจัดงานฌาปนกิจศพแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อยด้วยดี  เนื่องจากได้รับความความร่วมแรงร่วมใจจากท่านผู้มีเกียรติ  ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ลูกศิษย์ลูกหาทั้งบ้านใกล้บ้านไกล  ซึ่งต่างเดินทางมาร่วมงานทั้งที่บ้าน  และที่วัดแห่งนี้ด้วยความเคารพรักและความอาลัยแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ดิฉันทั้งสองในนามเจ้าภาพขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงยิ่งไว้ ณ โอกาสนี้  …

พิธีกรหนึ่ง  : ขอบพระคุณ  …………………………. และคณะเป็นอย่างสูงยิ่งที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีทอดบังสุกุลไตรเอก 

พิธีกรสอง  : ขอบพระคุณผู้มีเกียรติทุกท่านที่กรุณามาร่วมงานฌาปนกิจศพ ร่วมทอดผ้าบังสุกุล ผ้าบังสุกุลไตรรอง อุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ไปสู่สุคติในครั้งนี้เป็นอย่างสูงยิ่งค่ะ 

พิธีกรหนึ่ง  :  ขอบพระคุณคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเจริญศิลป์  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน โรงพยาบาลสกลนคร โรงพยาบาลอุดรธานี  ที่กรุณาดูแลรักษาแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน อย่างอบอุ่นเสียสละจริงใจและสุดความสามารถ  แม้ไม่อาจยื้อชีวิตแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน เอาไว้ได้  แต่เป็นความประทับใจที่สามีลูกหลานญาติพี่น้องของแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน จะไม่มีวันลืม 

พิธีกรสอง  : ขอบพระคุณคณะครูอาจารย์ทุกท่าน และญาติพี่น้องมิตรสหายของพ่อครูนะฐะและแม่ครูนุชดา ฝุ่นเงิน ทุกท่านที่กรุณาสละเวลามาร่วมงานครั้งนี้ 

พิธีกรหนึ่ง  :  ขอบพระคุณ ทีมงานเทศบาล ทีมงานผู้ใหญ่บ้านเจริญศิลป์หมู่ที่  2  อสม. พปร. อปพร. และทีมงานอื่น ๆ ที่กรุณาทุ่มเทเสียสละแรงกายแรงใจมาช่วยเหลือการจัดงานครั้งนี้เป็นอย่างสูงยิ่ง

พิธีกรสอง  : ขอบพระคุณทีมงานแม่บ้านบ้านเจริญศิลป์ทุกท่านที่กรุณาช่วยจัดดอกไม้ประดับตกแต่งหีบศพให้สวยงามทั้งมาร่วมงานในวันนี้ และไม่ได้มา

พิธีกรหนึ่ง  : ขอบพระคุณแม่ครัวทุกท่านที่กรุณาจัดอาหารและเครื่องดื่มบริการแขกผู้มีเกียรติจนเสร็จงาน  

พิธีกรสอง  : ขอบพระคุณทีมงานตำรวจจราจรที่กรุณาช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยทางถนน 

พิธีกรหนึ่ง  : ขาดตกบกพร่องประการใด ในนามเจ้าภาพขอกราบอภัยเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้

พิธีกรสอง : ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงคุณความดีที่เราทั้งหลายได้มาร่วมกระทำบำเพ็ญในวันนี้  ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว  จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ 

พิธีกรหนึ่ง  : ขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัยนะคะ

พิธีกรทั้งสอง  : สวัสดีค่ะ

สคริปต์พิธีกรงานฌาปนกิจศพคุณแม่ไพจิตร คำลือฤทธิ์

………………………………………………………………………………

หลังจากวางหีบศพไว้บนเมรุเรียบร้อยแล้ว

พิธีกร  : นมัสการพระคุณเจ้า  ที่เคารพอย่างสูง 

เรียนคุณ  ……………………………….ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ และแขกผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน

กระผม …………………..ตำแหน่ง…………..………………… ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้ทำหน้าที่พิธีกรงานฌาปนกิจศพคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ก่อนอื่นกระผมขอแจ้งกำหนดงานฌาปนกิจให้ท่านที่เคารพที่กรุณามาเดินทางมาร่วมงานศพครั้งนี้ได้รับทราบร่วมกันดังนี้   

1.   ไหว้พระรับศีล

2.   พระสงฆ์สวดมาติกา

3.   ทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุและทอดผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุแด่พระสงฆ์

4.   พระสงฆ์สวดบังสุกุลและอนุโมทนา

5.   อ่านประวัติผู้วายชนม์

6. อ่านบทกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณ

7.   ผู้ร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์บนหีบศพบนเมรุ

8.  โปรยทาน/แจกของที่ระลึก

บัดนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขอเรียนเชิญคุณพ่อ…………………………. มรรคนายกเป็นผู้นำทางพุทธศาสนพิธีต่อไป ขอเรียนเชิญครับ

(จบพิธีสงฆ์แล้ว)

พิธีกร…… ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุชุดที่  1 (อ่านว่า..เมน)

ขอเรียนเชิญผู้ทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  1   จำนวน  … ท่านดังนี้  1…………………………………………………………2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

 และกราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  … รูปดังนี้ 

1………………………………………………………….2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

เป็นผู้พิจารณาผ้าบังสุกุลชุดที่  1  ขอกราบนิมนต์ ครับ  และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประณมมือร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ

(เสร็จแล้ว)

 พิธีกร……ขอเรียนเชิญ ผู้ทอดผ้าบังสุกุลชุดที่  2  จำนวน  ..4.  ท่านดังนี้  1…………………………………………………………2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

และกราบนิมนต์พระคุณเจ้าจำนวน  4  รูปดังนี้ 

1………………………………………………………….2…………………………………..

3………………………………………………..4………………………………..

เป็นผู้พิจารณาผ้าบังสุกุลชุดที่  2  ขอกราบนิมนต์ ครับ  และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติด้วยกันครับ

พิธีกร……ขอเรียนเชิญ……………………………………………………ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าบังสุกุลไตรรอง และกราบนิมนต์…………………………………………………. เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรรอง ขอเรียนเชิญ  และขอกราบนิมนต์ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติด้วยกันครับ

พิธีกร……ขอเรียนเชิญ……………………………………………………ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าบังสุกุลไตรเอก และกราบนิมนต์……………………………………………..เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุลไตรเอก ขอเรียนเชิญ  และขอกราบนิมนต์ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ  ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติด้วยกันครับ

(หลังจากพระสงฆ์เดินกลับไปนั่งบนอาสนะแล้ว)

พิธีกร…..ลำดับต่อไปพระสงฆ์อนุโมทนาและให้พร  เจ้าภาพกรวดน้ำ  พวกเรารับพรและร่วมตั้งจิตให้เป็นกุศลส่งผลบุญให้ดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติเป็นครั้งสุดท้ายด้วยกันครับ

พิธีกร..ลำดับต่อไปเป็นการนำเรียนประวัติผู้วายชนม์

ผู้อ่านประวัติ…..นมัสการพระคุณเจ้า  ที่เคารพอย่างสูง    เรียนคุณ……………………………………..ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพ และแขกผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน  กระผม / ดิฉัน…………………………………… ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้เป็นผู้  นำเรียนประวัติของคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ โดยสังเขป  เพื่อเป็นเกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ผู้วายชนม์  ดังนี้

ประวัติคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ โดยสังเขป

ชาติกำเนิด

คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ เกิดเมื่อ วันที่  17  เดือนพฤศจิกายน    พ. ศ. 2516 ที่ บ้านเจริญศิลป์ ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อ  คุณพ่อทอง ไชยพันธ์ มารดา ชื่อ คุณแม่สนิท  ไชยพันธ์  มีพี่น้องร่วมกัน  5   คน ดังนี้

1. คุณพ่อประดิษฐ์  ไชยพันธ์  มีครอบครัวและประกอบอาชีพส่วนตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร

2.  คุณแม่กาญจนา  มูลสุวรรณ  มีครอบครัวอยู่ที่บ้านเจริญศิลป์  ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร

3.  คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ผู้วายชนม์

4.   คุณพ่อคำธง  ไชยพันธ์ มีครอบครัวและประกอบอาชีพส่วนตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร

5.  นางแรมจันทร์   ไชยพันธ์  มีครอบครัวและประกอบอาชีพส่วนตัวอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่

ประวัติการศึกษา

คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่  6  จากโรงเรียนอนุบาลเจริญศิลป์  ตำบลเจริญศิลป์  จังหวัดสกลนคร

ประวัติการครองรักครองเรือน

คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  สมรสกับคุณพ่อบุญเลิศ  คำลือฤทธิ์ ชาวบ้านโนนสวาสดิ์ ตำบลศรีวิชัย อำเภอวานรนิวาส   จังหวัดสกลนคร   ประกอบชีพทำนา และค้าขายที่ตลาดสดเจริญศิลป์  มีธิดาด้วยกัน  2  คน ดังนี้

1.นางสาวกัลยารัตน์  คำลือฤทธิ์  เรียนจบชั้นปริญญาตรี  วิชาเอกเทคนิคสัตวแพทย์  จากมหาวิทยาราชภัฏสกลนคร

2.นางสาวรัตนาภรณ์  คำลือฤทธิ์  กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4  โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา โพธิ์คำอนุสรณ์  ตำบลเจริญศิลป์  อำเภอเจริญศิลป์  จังหวัดสกลนคร

อุปนิสัย

คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  เป็นคนใจดี  มีน้ำใจ  ยิ้มแย้มแจ่มใส  เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ คุยสนุกเป็นกันเอง  ให้คำปรึกษาแก่ลูกหลานญาติพี่น้องทุกคนได้ทุกเรื่อง  จึงเป็นที่เคารพรักนับถือของลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

วาระสุดท้าย

คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ป่วยด้วยโรคมะเร็ง และได้จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่  31  มีนาคม  พ.ศ. 2568  เวลา  20.37 น. สิริอายุได้  51  ปี   ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้เกิดแก่ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

อกุศลกรรม  คือกรรมไม่ดีที่ คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่  ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมนั้นให้แก่คุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ด้วย เทอญ

กุศลกรรม  คือกรรมดี ซึ่งคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่  ขอให้กรรมดีนั้นได้โปรด มาเป็นพลังปัจจัย  อำนวยผล ดลบันดาล ให้ดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพด้วยเทอญ

ขอเรียนเชิญทุกท่านยืน-นั่งตามอัธยาศัย   ตั้งใจสงบนิ่ง  1  นาที  เพื่อไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  ไปสู่สุคติในสัมปรายภพ

ขอเรียนเชิญครับ

(ครบ 1 นาที)

พิธีกรอ่านบทกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณต่อไปนี้..

อาลัยคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ 

เราลงหลัก  ปักฐานอยู่  หมู่บ้านนี้   หลายสิบปี  ที่ถักทอ  ก่อความฝัน

ปลูกต้นรัก  ถักด้วยใจ  สายสัมพันธ์                ใกล้ความฝัน  เป็นจริง  ทุกสิ่งอัน

แต่แม่กลับ  ดับขันธ์  ไปก่อนพ่อ             น้ำตาคลอ  เอ่อไหล  ไม่อาจกลั้น

หมดสิ้นแล้ว  ความรัก  ความผูกพัน                เหลือเพียงฝัน  คงอยู่  มิรู้คลาย

จงไปดี  มีสุข  เถิดนะแม่                       จะดูแล  ลูกให้   ไม่ไปไหน

จะส่งเสีย ลูกถึงฝัน   อันอำไพ                     ถึงจุดหมาย  ที่เฝ้าฝัน  ด้วยกันมา

รู้ดีว่า  ความตาย  เป็นธรรมชาติ            แต่ไม่อาจ  ห้ามใจ  อาลัยหา

คิดถึงรัก ครั้งเก่า แต่ก่อนมา  หยดน้ำตา เอ่อล้น พ้นรำพัน       

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์     เทพศักดิ์สิทธิ์ บนแคว้น แดนสวรรค์

โปรดมารับ  คุณแม่กลับ ไปด้วยกัน      ไปอยู่ชั้น วิมานฟ้า ให้แสนนาน

พ่อกับลูก  อยู่ข้างหลัง  ขอตั้งจิต            น้อมอุทิศ  กุศลไป  ให้ไพศาล

ส่งถึงแม่  ผู้จากไป  ให้เบิกบาน                      แสนสำราญ  เปี่ยมสุข  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..พ่อบุญเลิศ  คำลือฤทธิ์ ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

พิธีกร….ลำดับสุดท้ายเป็นการวางดอกไม้จันทน์

ขอกราบนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปได้กรุณาขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนหีบศพบนเมรุเพื่อเป็นการโปรดคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติ …….-ขอกราบนิมนต์ครับ

และขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมวางดอกไม้จันทน์  เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ไปสู่สุคติ  เป็นครั้งสุดท้ายครับ

พิธีกร….   ลำดับสุดท้าย   รับของแจกของทานของที่ระลึกจากเจ้าภาพก่อนเดินทางกลับบ้านนะครับ

พิธีกรกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานขณะวางดอกไม้จันทน์

กราบเรียน  ท่านผู้มีเกียรติ  ที่เคารพรักทุกท่าน

การจัดงานฌาปนกิจศพคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อยด้วยดี  เนื่องจากได้รับความความร่วมแรงร่วมใจจากท่านผู้มีเกียรติ  ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ลูกศิษย์ลูกหาทั้งบ้านใกล้บ้านไกล  ซึ่งต่างเดินทางมาร่วมงานทั้งที่บ้าน  และที่วัดแห่งนี้ด้วยความเคารพรักและความอาลัยคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์  กระผมในนามเจ้าภาพขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงยิ่งไว้ ณ โอกาสนี้  … ขอบพระคุณ  …………………………. ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานทอดบังสุกุลไตรเอก …………. ขอบพระคุณคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเจริญศิลป์  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน โรงพยาบาลสกลนคร ที่กรุณาดูแลรักษาคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ อย่างอบอุ่นเสียสละจริงใจและสุดความสามารถ  แม้ไม่อาจยื้อชีวิตคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ เอาไว้ได้  แต่เป็นความประทับใจที่สามีลูกหลานญาติพี่น้องของคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ จะไม่มีวันลืม  ขอบพระคุณคณะครูอาจารย์ทุกท่าน และญาติพี่น้องมิตรสหายของคุณแม่ไพกิจ  คำลือฤทธิ์ ทุกท่านที่กรุณาสละเวลามาร่วมงานครั้งนี้   ขอบพระคุณทีมงานเทศบาล ทีมงานผู้ใหญ่บ้านเจริญศิลป์หมู่ที่ 2 และทีมงานอื่น ๆ ที่กรุณาทุ่มเทเสียสละแรงกายแรงใจมาช่วยเหลือการจัดงานครั้งนี้ขอบพระคุณทีมงานแม่บ้านบ้านเจริญศิลป์ทุกท่านที่กรุณาช่วยจัดดอกไม้ประดับตกแต่งหีบศพให้สวยงามรวมทั้งมาร่วมงานในวันนี้  …ขอบพระคุณแม่ครัวทุกท่านที่กรุณาจัดอาหารและเครื่องดื่มบริการแขกผู้มีเกียรติจนเสร็จงาน  ขอบพระคุณทีมงานตำรวจจราจรทีมงาน ชรบ. และ อปพร.ทุกท่านที่กรุณาช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยทางถนน  ขาดตกบกพร่องประการใด ในนามเจ้าภาพขอกราบอภัยเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงคุณความดีที่เราทั้งหลายได้มาร่วมกระทำบำเพ็ญในวันนี้  ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว  จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ………………………………………สวัสดีครับ

กลอนขอบคุณ(ผญา/กลอนอีสาน)  …..พิธีกรพิจารณาก่อนอ่านหรือไม่อ่านตามเหมาะสม

ขอขอบคุณทุกท่าน  ที่มางานเผาแม่ใหญ่

ทั้งบ้านเหนือบ้านใต้  ไกลใกล้ที่หลั่งมา

สุดสิหาคำเว้า  เอามากล่าวได้ทั้งเมิด

ได้แต่เพียงกลั่นกรอง  จากใจเอามาเว้า

ขอบพระคุณหมู่เจ้า  หลาย ๆ อีกร้อยเทือ

เผาศพแม่ใหญ่แล้วเมือ  ให่เจ้าได้สมใจเจ้าคู่สู่อัน

การงานให่ก้าวหน่า  การเงินกะให่ค่อง

การทองกะให่ได้  การบ้านให่ม่วนมัน

การอันใด๋กะให่ได้  สมดังมะโนหมาย

สุขสำบายปานพระยา  อยู่ดีอย่ามีฮ้อน

นั่งนอนมีแต่โชค   โฉลกดีขี่ถืกป่อง

สองโตถืกคู่เรื่อย  รางวัลที่หนึ่งนั้นถืกคู่ปี  คู่คนเด้อ…พี่น้องเอย

สวัสดีครับ

…………………………………………………………………

ตัวอย่างบทกลอนไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณ

………………………………………………………………..

บทกลอนที่ 1

………………………..

อาลัยคุณพ่อถวัลย์ คำตั้งหน้า ……

หลายสิบปี  ที่บ่มเพาะ  ก่อรังรัก             จนมีหลัก  บ้านเรือนให้  ได้อาศัย

พอบังแดด  ลมฝน  ป้องกันภัย                       เป็นหลักชัย  ให้เมียลูก ด้วยผูกพัน

แต่พ่อกลับ  ดับขันธ์  ไปก่อนแม่             ชะเง้อแล  ได้พบพ่อ  ต่อเมื่อฝัน

น้ำตาเอ่อ ล้นไหล  ไม่เว้นวัน                       ความผูกพัน ค่อยเลือนลาง ห่างหายไป

        ชาตินี้เรา รักผูกพันธ์  นานเท่านี้             ชาติหน้ามี  ค่อยพบกัน  รักกันใหม

ชาตินี้รัก พลัดพราก จากกันไว                  หวังชาติใหม่  รักเราสอง  ต้องนิรัน

        พระคุณพ่อ  ยิ่งใหญ่  หาใดเปรียบ หาใดเทียบ  เทียมพ่อ  ผู้ก่อฝัน

ปกป้องลูก  เมียเป็นสุข  ทุกคืนวัน           สุดจะบรร  -ยายครบ  จบพระคุณ

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์         สิ่งศักดิ์สิทธิ์  จงโอบเอื้อ  คอยเกื้อหนุน

ขออำนาจ   การกุศล  ผลแห่งบุญ           เทพอุดหนุน  ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  พ่อลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า        เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

สถิตอยู่  สรวงสวรรค์  นิรันดร                       ไม่ทุกข์ร้อน  นอนเป็นสุข  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..แม่คำฟอง  คำตั้งหน้า ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

…………………………………………….

บทกลอนที่ 2

………………………..

อาลัยคุณพ่อถวิล คำตั้งหลัง ….

หลายสิบปี  ที่บ่มเพาะ  ก่อรังรัก             จนมีหลัก  บ้านเรือนให้  ได้อาศัย

พอบังแดด  ลมฝน  ป้องกันภัย                       บ้านปลอดภัย อยู่อาศัย  ไม่ลำเค็ญ

แต่พ่อกลับ  ดับขันธ์  ไปก่อนแม่             ชะเง้อแล  ซ้ายขวา  หาไม่เห็น

เคยปรึกษา  คุยสนุก  ทุกเช้าเย็น                    ต่อนี้เป็น สุดแต่กรรม จะนำไป

        ชาตินี้เรา  ครองรักกัน  ไม่นานนัก            ชาติหน้ารัก ต้องคงมั่น  ไม่หวั่นไหว

ชาตินี้กรรม จำพราก พ่อจากไป               หวังชาติใหม่  รักเราสอง  ต้องนิรัน

        พระคุณพ่อ  ยิ่งใหญ่  หาใดเปรียบ หาใดเทียบ  เทียมพ่อ  ผู้ก่อฝัน

ปกป้องลูก  เมียเป็นสุข  ทุกคืนวัน           สุดจะบรร  -ยายครบ  จบพระคุณ

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์         สิ่งศักดิ์สิทธิ์  จงโอบเอื้อ  คอยเกื้อหนุน

ขออำนาจ   การกุศล  ผลแห่งบุญ           เทพอุดหนุน  ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  พ่อลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า        เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

สถิตอยู่  สรวงสวรรค์  นิรันดร                       ไม่ทุกข์ร้อน  นอนเป็นสุข  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..แม่อำนวย  คำตั้งหลัง ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

………………………..

บทกลอนที่ 3

……………………..

อาลัยคุณแม่ปทุมมา   แก้วชมพู….

โอ้ร่มโพธิ์  ร่มไทร  พัดใบโบก  มาถึงคราว  วิปโยค  เศร้าโศกศัลย์ 

เคยยืนหยัด  ต้านลมฝน  มาช้านาน บัดนี้พลัน  โค่นล้ม  ทับถมดิน

ร่มโพธิ์ไทร  เปรียบเป็น  เช่นคุณแม่  คอยดูแล  คอยกำกับ  อวยทรัพย์สิน

ฝึกลูกให้  รู้จัก  รักทำกิน         เป็นออมสิน  ตัวช่วย  อวยเงินทอง

มาบัดนี้  โพธิ์ไทร  นอนไร้ร่ม  แม่สิ้นลม  ถามไถ่  ไม่สนอง

จะทุบหลัง  ดึงไหล่  ก็ไม่มอง ลูกหลานร้อง  เรียกหา  ด้วยอาลัย 

ไม่มีแม่  ไร้ร่มเงา  แสนเศร้านัก  ขาดเสาหลัก  คิดไป  ยิ่งใจหาย

นั่งอึมครึม  ซึมเศร้า  สุดเหงาใจ             เศร้าทรวงใน  สุดฝืน  กลืนน้ำตา

เหลือเพียงรอย  อาลัยรัก  ที่ปักแน่น เป็นแกนแก่น  ให้คิดถึง  คะนึงหา

แม้ไม่อาจ  กอดแม่ได้  ในทุกครา ขอเพียงว่า  ฝันไป  ได้ผูกพัน

ขอกุศล  ผลบุญ  คุณแม่สร้าง เป็นพลัง  ส่งแม่ถึง  ซึ่งฝั่งฝัน

ขอกรรมดี  จงให้ผล  ดลบันดาล เทพเทวัญ  ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  แม่ลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

สถิตอยู่  สรวงสวรรค์  นิรันดร สาวอัปสร  พาสนุก  ทุกคืนวัน       

ลูกหลานอยู่  ข้างหลัง  ขอตั้งจิต     น้อมอุทิศ  กุศลไป  ให้ไพศาล

ส่งถึงแม่  ผู้จากไป  ให้เบิกบาน              แสนสำราญ  เปี่ยมสุข  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก…ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

…………………………..

บทกลอนที่ 4

…………………………

อาลัยคุณพ่อคาน  พันธุ์ชิด

…………………………………….

จากอุดร  รอนแรมมา  ตามหารัก    พบแล้วปัก  หลักอยู่  หมู่บ้านนี้

เริ่มถักทอ  ก่อหลักฐาน  มานานปี           ทรัพย์พอมี  พอใช้  ไม่ขอใคร

          มีลูกน้อย  หนึ่งคน  เฝ้าทนเลี้ยง             หาเสบียง  เข้าบ้าน  ไม่หวั่นไหว

แม้ลำบาก  ยากแค้น  สักเพียงใด            ไม่เคยให้  ใครดูถูก  ลูกอับอาย    

ชีวิตพ่อ  บั้นปลาย  ช่างแสนเศร้า   เบาหวานเข้า  โรมรัน  ต้านไม่ไหว

ต้องนอนซม  กินยาหมอ  รอความตาย         ถึงสุดท้าย  ต้องพลัดพราก  ตายจากไป

น้ำตาเอ่อ  ซึมไหล  ไม่อาจกลั้น           คืนและวัน นานเนิ่น  เกินขานไข

ทางชีวิต  ข้างหน้าจะ  เป็นอย่างไร         เพราะลูกไร้  พ่อฟันฝ่า   มาด้วยกัน

          พระคุณพ่อ  ยิ่งใหญ่  หาใดเปรียบ หาใดเทียบ  เทียมพ่อ  ผู้ก่อฝัน

ลูกเมียอยู่  เป็นสุข  ทุกคืนวัน                 เพราะพ่อนั้น  ส่งเสริมให้  ได้เป็นมี

จงไปดี  มีสุข  เถิดคุณพ่อ                      จงไปรอ  ที่สวรรค์  ชั้นสุขี

เสวยสุข  บนชั้นฟ้า  สุขาวดี                  อันเป็นที่   สุขสันต์  นิรันกาล

ลูกเมียอยู่  ข้างหลัง  ขอตั้งจิต               น้อมอุทิศ  กุศลไป  ให้ไพศาล

ส่งถึงพ่อ  ผู้จากไป  ให้เบิกบาน                     แสนสำราญ  เปี่ยมสุข  ทุกคืนวัน   

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จากภรรยา  ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

……………………………..

บทกลอนที่ 5

…………………………..

อาลัยคุณพ่อมะโน  ขันละ

…………………………………….

จากวาริช  ร่อนเร่มา  ตามหารัก             พบแล้วปัก  หลักอยู่  หมู่บ้านนี้

ถักทอรัก  สานฝัน  มานานปี                   สินทรัพย์มี  พอกินพออยู่  ไม่กู้ใคร

          ลูกเราเหลือ  หนึ่งคน  เฝ้าทนเลี้ยง  หาเสบียง  เข้าบ้าน  ไม่หวั่นไหว

ถึงลำบาก  ยากแค้น  สักเพียงใด                    ไม่เคยให้  ใครดูถูก  ลูกอับอาย    

ชีวิตพ่อ  บั้นปลาย  ช่างแสนเศร้า   มะเร็งเข้า  โรมรัน  สุดต้านไหว

ต้องนอนซม  เทียวหาหมอ  รอความตาย         ถึงสุดท้าย  ต้องพลัดพราก  จากเราไป

น้ำตาเอ่อ  ซึมไหล  ไม่อาจกลั้น             คืนและวัน  นานเนิ่น  เกินขานไข

นั่งอึมครึม  ซึมเศร้า  สุดเหงาใจ                     เศร้าทรวงใน  สุดฝืน  กลืนน้ำตา

          พระคุณพ่อ  ยิ่งใหญ่  หาใดเปรียบ         หาใดเทียบ  เทียมพ่อ  ผู้ก่อหา

ให้ที่ดิน  ถิ่นอาศัย  ให้เงินตรา                       ให้เรื่อยมา จนถึงวัน ท่านจากไป

          จึงกราบก้ม  ประณมนึก  อธิษฐาน ดวงวิญญาณ     พ่อสถิต อยู่ทิศไหน

โปรดรับรู้ ว่าลูกหลาน รักอาลัย ต่างร่วมใจ มาส่งพ่อ ด้วยอาวรณ์

         ขอวิญญาณ พ่อลอยล่อง สู่ท้องฟ้า เป็นเทวา ในหมู่ชาว สาวอัปสร

สถิตอยู่ สรวงสวรรค์ นิรันดร สาวอัปสร พาสนุก ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จากแม่วรรณี  ขันละ  ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

……………………………..

บทกลอนที่ 6

…………………………..

อาลัยคุณพ่อครูสุดใจ แสงสุดตา

เราสร้างฝัน ร่วมกัน ก่อนวันแต่ง จะแสวง หาทรัพย์ สร้างหลักฐาน

เราจะมี ลูกหลาน หลังแต่งงาน ช่วยกันสาน ถักทอ ไม่ท้องาน

เราจะมี กันและกัน ชั่วชีวิต เป็นคู่คิด ร่วมทาง ร่วมสร้างฝัน

เราจะยืน หยัดอยู่ คู่เคียงกัน จนถึงวัน พักผ่อน นอนสิ้นลม

ณ บัดนี้ ความฝัน เป็นจริงบ้าง มีช่องทาง เดินได้ ไม่ขึ่นขม

ครอบครัวเรา ยืนอยู่ได้ ในสังคม ไม่ต้องข่ม ใจฝืน กลึนน้ำตา

แต่พ่อกลับ  ล่วงลับ  ไปก่อนแม่             ชะเง้อแล  ซ้ายขวา  หาไม่เห็น

เคยปรึกษา  คุยสนุก  ทุกเช้าเย็น                    ต้องหลีกเร้น กลืนน้ำตา สุดจาบัลย์

        พระคุณพ่อ  ยิ่งใหญ่  หาใดเปรียบ หาใดเทียบ  เทียมพ่อ  ผู้ก่อฝัน

ปกป้องลูก  เมียเป็นสุข  ทุกคืนวัน           สุดจะบรร  -ยายครบ  จบพระคุณ

กับเพื่อนพ้อง น้องพี่ มีแต่ให้ มีน้ำใจ โอบเอื้อ คอยเกื้อหนุน

กับวัดวา ศาสนา เนื้อนาบุญ คอยค้ำจุน ปฏิบัติ ด้วยศรัทธา

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์         สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทุกหนแห่ง ทั่วแหล่งหล้า

ทั้งกุศล   ผลบุญ    หนุนนำพา       เทพเทวา   ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  พ่อลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า        เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

เสวยสุข  บนสวรรค์   นิรันดร                        สาวอัปสร  พาสนุก  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..แม่คำหมื่น  แสงสุดตา ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน

……………………………..

บทกลอนที่ 7

…………………………..

อาลัยคุณพ่อถวิล หันทะมะยัง

หลายสิบปี  ที่บ่มเพาะ  ก่อรังรัก             จนมีหลัก  บ้านเรือนให้  ได้อาศัย

เป็นเกาะเหล็ก คุ้มครอง ป้องกันภัย เป็นหลักชัย ให้เมีนลูก ได้ผูกพัน                  

มาบัดนี้ พ่อล่วงลับ  ดับขันธ์แล้ว  ไร้วี่แวว หาไหน  ก็ไม่เห็น

เคยปรึกษา  คุยสนุก  ทุกเช้าเย็น                    ต้องหลีกเร้น  กลืนน้ำตา   สุดจาบัลย์

พระคุณพ่อ ยิ่งใหญ่ หาใดเปรียบ หาใดเทียบ เทียมพ่อ ผู้ก่อฝัน

ลูกเมียอยู่ เป็นสุข ทุกคืนวัน เพราะพ่อนั้น ส่งเสริมให้ ได้เป็นมี

รู้ดีว่า ความตาย เป็นธรรมชาติ ไม่มีใคร สามารถ หลบหลีกหนี

ทุกคนเกิด แก่เจ็บตาย วายชีวี แต่สุดที่ จะทนฝืน กลืนน้ำตา     

ขอเดชะ  พระไตรรัตน์  บุญฤทธิ์         สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทุกหนแห่ง ทั่วแหล่งหล้า

ทั้งกุศล ผลบุญ หนุนนำพา เทพเทวา  ดลช่วย  อำนวยพร

ให้วิญญาณ  พ่อลอยล่อง  สู่ท้องฟ้า        เป็นเทวา  ในหมู่ชาว  สาวอัปสร

เสวยสุข  บนสวรรค์   นิรันดร                        สาวอัปสร  พาสนุก  ทุกคืนวัน

ถ้าตกทุกข์  ขอให้พ้น  ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข  ปรีดิ์เปรม  เกษมสันต์

มีสุขแล้ว  สุขยิ่งขึ้น  ทุกคืนวัน               ตราบนิรัน  ในภพใหม่  ชาติใหม่เทอญ

ด้วยความรักและอาลัยยิ่ง

จาก..แม่คำฟอง หันทะมะยัง ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน