วิวาทะหมายถึงการแสดงความคิดเห็นต่างกัน เช่นการโต้วาที เขียนไว้เพื่อฝากแฟนเว็บไซด์พ่อครูดอทคอมได้อ่านสนุกและนำไปปรับใช้ในการโต้วาทีครับพี่น้องครับ
เมื่อครั้งเป็นสามเณรข้าพเจ้าชอบการโต้เถียงมาก และไม่เคยมีครั้งไหนที่แพ้นอกจากเหนื่อยก็พักยก วันดีคืนดีก็กลับมาโต้เถียงกันใหม่ ต่อมาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยสงฆ์ วิชาที่ข้าพเจ้าชื่นชอบมากที่สุดคือตรรกวิทยา เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยการให้เหตุผล การสนทนาโต้เถียงกันด้วยเหตุผลจึงไม่มีวันจบ ข้าพเจ้าชอบฟังเขาโต้วาทีเป็นชีวิตจิตใจ มีโต้วาทีที่วัดไหนจะต้องมีข้าพเจ้านั่งอยู่แถวหน้าเสมอ
1. ไม่ควรปรองดองกับคนโกง
หัวหน้าฝ่ายเสนอ.. ญัตติที่เรานำมาอภิปรายกันในวันนี้ชื่อว่า เราไม่ควรปรองดองกับคนโกง คนโกงตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึงผู้ที่ใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมกลโกงหลอกลวงผู้อื่น เพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์ คนเหล่านี้แฝงตัวอยู่ในทุกอาชีพ เช่นเป็นพระก็หลอกลวงชาวบ้านเพื่อให้คนอื่นเชื่อถือนำสิ่งของมาถวาย เป็นพ่อค้าก็โกงตราชั่งเพื่อเอาเปรียบผู้ซื้อ ประชาชนที่มีรายได้พอเสียภาษีก็หาทางโกงภาษีเพื่อจ่ายให้น้อยลงหรือไม่จ่ายเลยได้ยิ่งดี บางคนค้าขายของเถื่อนเพราะไม่ต้องเสียภาษี บางคนร่ำรวยเพราะโกงเขามา เป็นข้าราชการก็โกงประชาชนผู้มาติดต่อราชการทำให้งานล่าช้า เรียกรับสินบนใต้โต๊ะ คนโกงมีอยู่ในบ้านก็โกงบ้าน มีอยู่ในเมืองก็โกงเมือง มีอยู่ในประเทศก็โกงประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ที่ถูกโกงในบ้าน ในเมือง ในประเทศได้รับความลำบากเดือดร้อน บ้านเมืองล่มจม ประเทศชาติเสียหาย เราจึงไม่ควรปรองดองกับคนโกง
หัวหน้าฝ่ายค้าน… ถ้าเชื่อตามที่ฝ่ายเสนออธิบายเราคงต้องอยู่คนเดียวในโลก เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยคนโกงคนเอาเปรียบตามความหมายนี้ เราอยู่ในสังคมแบบทุนเสรีนิยมมีด้วยหรือที่ไม่เอาเปรียบกัน ไม่โกงกัน สังคมแบบทุนเสรีนิยมเป็นสังคมแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะถูกเอาเปรียบถูกโกงโดยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ เช่นประเทศใหญ่โกงและเอาเปรียบประเทศเล็ก นายจ้างให้ทำงานหนักแต่จ่ายค่าแรงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น พ่อค้าขายของเอากำไรมากเป็นการโกงลูกค้า ครูสอนนักเรียนไม่มีอะไรจะให้โกงเพราะมีแต่ชอล์กกับกระดานดำก็เข้าสอนช้า เป็นการโกงเวลาสอนนักเรียน นักเรียนก็โกงพ่อแม่เอาตังค์ไปเล่นเกมส์ แม้แต่หัวหน้าฝ่ายเสนอที่ประกาศว่าฉันจะไม่ปรองดองกับคนโกง แต่วันนี้ท่านมาสายห้านาที เป็นการโกงเวลาของผู้ฟัง และพูดเกินเวลาอีกสองนาที เป็นการโกงเวลาของหัวหน้าฝ่ายค้าน ดังนั้นญัตติว่า ไม่ควรปรองดองกับคนโกง ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอยกมาอธิบายเป็นญัตติที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในโลกมนุษย์ เพราะประเทศเล็กต้องปรองดองกับประเทศมหาอำนาจที่เอาเปรียบ ถ้าประเทศเล็กไม่ปรองดองกับประเทศมหาอำนาจ ก็อาจถูกประเทศมหาอำนาจรังแกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่นนายยัสเซ่อร์ อาราฟัดอดีตประธานาธิบดีประเทศอีรัก ไม่ยอมปรองดองกับประเทศมหาอำนาจอเมริกา จึงถูกตั้งข้อหาว่าพยายามผลิตอาวุธนิวเคลียร์แล้วส่งกองทหารเข้าไปยึดครองประเทศ ไล่ล่าสังหารนายยัสเซ่อร์ อาราฟัด และทหารของเขาจนหมด นายจ้างกับลูกจ้างต้องปรองดองกันเพื่อจะได้วินวินทั้งสองฝ่าย ประชาชนต้องปรองดองกับผู้มีอำนาจเผด็จการ เพราะถ้าแข็งข้อไม่ปรองดองกับพวกเขาก็จะถูกอัดถูกซ้อมถูกลอบสังหาร เผานั่งยางอุ้มหาย หรือตั้งข้อหาความผิดร้ายแรงสารพัดเช่นส่งให้ศาลเตี้ยตัดสินจำคุกแล้วส่งสมุนเข้าไปฆ่าผูกคอหรือฉีดยาตายให้ในคุก หรือส่งเข้าโกดังรมแก้สพิษ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเยอรมันนีสมัยฮิตเล่อร์จอมผเด็จการครองเมือง ลูกเขยต้องปรองดองกับว่าที่พ่อตาแม่ยาย เพื่อให้ค่าสินสอดถูกลง มิฉะนั้นอาจถูกพ่อตาแม่ยายเรียกเงินค่าสินสอดแพงเกินกว่าความเป็นจริง สามีก็ต้องปรองดองกับภรรยา มิฉะนั้นอาจถูกภรรยาให้นอนนอกมุ้งยุงกัดทั้งคืนได้ แมวที่ถือตัวว่าเนื้อตัวสะอาด นอนบนฟูกกับเจ้านาย เป็นที่รักของเจ้านาย ถ้ามันไม่ปรองดองกับหมาสกปรกนอนใต้ถุนบ้านก็จะถูกหมาไล่กัดได้ เราต้องปรองดองกับคนทุกคนในโลกนี้ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดังนั้นญัตติที่นำมาอภิปรายว่า ไม่ควรปรองกับคนโกง จึงเป็นญัตติที่มิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนอ…ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอกล่าวว่า คนโกงตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึงผู้ที่ใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมกลโกงหลอกลวงผู้อื่น เพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์ นั้นถูกต้องชัดเจนโดยไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย การใช้อุบายหรือเล่ห๋เหลี่ยมกลโกงหลอกลวงผู้อื่นเพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์ เป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมาก เราไม่ควรปรองดองกับคนเหล่านี้ ที่หัวหน้าฝ่ายค้านบอกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยคนโกงนั้นไม่จริงแน่นอน ขอถามท่านผู้ฟังที่นั่งอยู่ที่นี่ว่า มีใครเป็นคนโกงบ้างโปรดยกมือ …เห็นไหมครับไม่มีใครยกมือแม้แต่คนเดียว แสดงว่าไม่มีใครเป็นคนโกงอย่างที่หัวหน้าฝ่ายค้านเข้าใจ ที่หัวหน้าฝ่ายค้านกล่าวว่า เราอยู่ในสังคมแบบทุนเสรีนิยมมีด้วยหรือที่ไม่เอาเปรียบกัน ไม่โกงกัน เพราะสังคมแบบทุนเสรีนิยมเป็นสังคมแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะถูกเอาเปรียบถูกโกงโดยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ขอเรียนชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงอย่างที่ท่านกล่าว ความจริงก็คือว่าสังคมแบบทุนเสรีนิยมเป็นสังคมแบบค้าขายแลกเปลี่ยน ใครมีของขายมากก็ขายได้เงินมาก ใครมีของขายน้อยก็ขายได้น้อยเป็นธรรมดา ถ้าไม่มีของจะขายก็ไปขายแรงงาน ขายบริการ เป็นต้น ที่ท่านบอกว่าประเทศใหญ่โกงและเอาเปรียบประเทศเล็ก ก็ไม่จริงอีก เพราะประเทศใหญ่ ๆ ที่ร่ำรวย เช่นสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เป็นตลาดขายสินค้าของประเทศเล็กๆ ทั้งนั้น แถมยังมีเงินให้ประเทศเล็กกู้ยืมไปลงทุนอีก สร้างถนนให้ฟรีอีก เป็นต้น ประเทศใหญ่เขาช่วยเหลือประเทศเล็กมากมายขนาดนี้ยังกล่าวหาว่าเขาโกงเขาเอาเปรียบ คงไม่ถูกต้องแน่นอน ….ที่ท่านบอกว่านายจ้างให้ทำงานหนักแต่จ่ายค่าแรงน้อยกว่าที่ควรจะเป็นนั้นก็ไม่จริงครับ เพราะค่าแรงขั้นต่ำในประเทศของเราได้วันละ 300 บาท ถ้าไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก็พออยู่พอกิน นายจ้างคนใดจ่ายน้อยกว่าวันละ 300 บาทผิดกฎหมายติดคุกครับพี่น้องครับ ถ้าอยากได้มากกว่าวันละ 300 บาทก็ให้ทำงานเพิ่มนอกเวลา ถ้าให้นายจ้างจ่ายลูกจ้างมากไป นายจ้างก็อยู่ไม่ได้ ปัจจุบันนายจ้างหลายร้อยคนต้องปิดโรงงานหนีเพราะไม่มีเงินจ่ายลูกจ้าง พอนายจ้างปิดโรงงานหนีหนี้ ลูกจ้างหลายหมื่นคนตกงานไม่มีรายได้ ปัญหาอาชญากรรมฉกชิงวิ่งราวจี้ปล้นก็ตามมา เพราะคนไม่มีจะกิน ..ที่บอกว่าพ่อค้าขายของเอากำไรมากเป็นการโกงลูกค้าก็ไม่จริงครับ เพราะขายของเอากำไรมากเขาไม่เรียกว่าโกง แต่เขาเรียกว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการค้าขาย เพราะพ่อค้าส่วนใหญ่กู้เงินธนาคารมาลงทุน ถ้าขายทั้งวันได้กำไรร้อยสองร้อยก็ไม่พอค่าดอกเบี้ยเงินกู้ หรือถ้าขายไม่มีกำไรหรือขาดทุนก็เจ้งครับพี่น้องครับ ที่ท่านบอกว่าครูโกงเวลาสอนนักเรียน ท่านก็เข้าใจผิดอีกเพราะโรงเรียนเขามีระบบการควบคุมกำกับดูแลอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ครูคนไหนโกงเวลานักเรียนโดยเข้าสอนช้าก็ต้องถูกทำโทษ ที่ท่านบอกว่านักเรียนโกงพ่อแม่เอาตังค์ไปเล่นเกมส์นั้นมันเรื่องเล็กน้อย เขาไม่เรียกว่าโกง แต่เขาเรียกว่าใช้เงินไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ที่ท่านบอกว่า วันนี้หัวหน้าฝ่ายเสนอมาสายห้านาที เป็นการโกงเวลาของผู้ฟัง และพูดเกินเวลาอีกสองนาที เป็นการโกงเวลาของหัวหน้าฝ่ายค้าน กระผมขอเรียนชี้แจงแทนหัวหน้าของผมว่า ความจริงหัวหน้าของผมดีใจมากที่จะได้มาโต้วาทีจึงออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า แต่โชคร้ายรถมอร์ไซด์หัวเทียนบอดจึงมาสายไปห้านาที มีได้เป็นการโกงผู้ฟังแต่ประการใด และที่อภิปรายเลยเวลาไปสองนาทีก็ด้วยตั้งใจว่าจะชดเชยให้ท่านผู้ฟัง มิได้ตั้งใจจะโกงเวลาของหัวหน้าฝ่ายค้านแต่อย่างใด ….. ผมก็เพิ่งรู้จากคำรับสารภาพของหัวหน้าฝ่ายค้านเมื่อตะกี้ว่าตัวเองเป็นคนโกงเช่นเดียวกับคนทั้งโลก ซึ่งความจริงแล้วคนทั้งโลกส่วนใหญ่เขาไม่ได้โกง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่โกง ซึ่งคนโกงที่ถูกจับได้ไล่ทันก็ติดคุกทั้งนั้น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รอดคุก และหนึ่งในจำนวนที่รอดคุกต้องเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านและคณะอย่างแน่นอน จำไว้ให้ดีครับพี่น้องครับ เลิกประชุมแล้วไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับหัวหน้าฝ่ายค้านและคณะไปสืบสวนเอาความจริงว่าพวกท่านโกงใครมาบ้างจะได้ส่งตัวเข้าคุก อย่าปล่อยให้คนโกงลอยนวลครับพี่น้องครับ
ผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน… พวกสิบแปดมงกุฏ เช่นนักตกทองจะมีพฤติกรรมที่เหมือนกันกับฝ่ายเสนอในขณะนี้ เพราะนักตกทองจะทำทีท่าว่าเป็นคนดี ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเขากำลังใช้อุบายหรือเล่ห๋เหลี่ยมกลโกงหลอกลวงผู้อื่นเพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์เช่นเดียวกับฝ่ายเสนอที่อวดอ้างว่าตนเองเป็นคนดี เป็นคนซื่อสัตย์สุจจริตจะไม่ปรองดองกับคนโกง ต่างกันเพียงความต้องการคือ พวกสิบแปดมงกุฏต้องการทรัพย์สินเงินทอง ส่วนฝ่ายเสนอต้องการชัยชนะและเสียงปรบมือในการโต้วาที จึงขอให้ท่านประธานและท่านผู้ฟังใช้วิจารณญานในการฟัง เพราะอาจตกเป็นเหยื่ออันโอชะของฝ่ายเสนอได้ ท่านผู้รู้ได้เขียนกลอนสอนใจในเรื่องนี้ไว้ว่า
อันคนโง่ เพราะไม่รู้ การศึกษา
ควรเมตตา ให้เขารู้ กลับตัวได้
เรียนรู้มาก แล้วยิ่งโง่ กลับเป็นภัย
ไม่เชื่อใคร เพราะหลงผิด บัณฑิตทราม
คนดีอย่างแท้จริงเขาจะไม่อวดอ้างตนเองและไม่ดูถูกหรือใส่ร้ายผู้อื่น พระภิกษุที่อวดอ้างว่าตนเองบรรลุธรรมขั้นสูง เป็นผู้วิเศษ ทางพุทธศาสนาเรียกว่า อวดอุตริมนุสสธรรม ถือว่าเป็นคนชั่วอย่างร้ายแรงต้องขาดจากความเป็นพระทันทีจนสึกไม่ทัน โบราณท่านสอนว่า กลองไม่มีคนตีแต่ดังเองเป็นกลองจัญไร คนที่ไม่มีใครยกย่อง แต่ยกย่องตัวเองเรียกว่าคนบ้า โบราณท่านจึงสอนว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา เพราะคนบ้ากับคนเมาเป็นพวกเดียวกันคือพวกสำคัญผิด คิดผิดว่าตัวเองเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงตรง ยุติธรรม ดีกว่าและเก่งกว่าทุกคนในโลก คนอื่นโกง ชั่ว เลว หมด ที่หัวหน้าฝ่ายค้านของผมบอกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยคนโกงคนเอาเปรียบนั้นจริงแท้แน่นอนครับพี่น้องครับ เพียงแต่ใครจะยอมรับความเป็นจริงของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น เพราะบางครั้งเราหลอกลวงและโกงคนอื่นไม่เว้นแม้แต่คนในบ้านเช่นไปเล่นการพนันเสีย พอกลับมาถึงบ้านก็โกหกเมียว่าเล่นได้ ถ้าขืนบอกเล่นเสียเมียเอาตาย บอกเล่นได้ทุกครั้งแบ่งตังค์เมีย ทั้ง ๆ ที่ความจริงเงินที่นำมาแบ่งเมียเป็นเงินที่กู้ยืมคนอื่นมา บางคราวเราก็หลอกตัวเองและโกงตัวเองเช่นไปรับศีลห้าจากพระที่วัด ตั้งใจว่าจะรักษาศีลให้ได้ครบทั้งห้าข้อ แต่พอกลับถึงบ้านเหลือศีลติดตัวมาเพียงกาเมข้อเดียว ที่เหลือศีลมาข้อเดียวก็ไม่ใช่เหลือเพราะความตั้งใจจะรักษา แต่เป็นเพราะของมันตายครับพี่น้องครับ ส่วนอีกสี่ข้อที่เหลือฝากไว้ที่ประตูวัดชั่วคราว ตั้งใจว่าวันหลังจะกลับมาเอา แต่พอถึงวันหลังก็ทำเป็นลืม ที่ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนออธิบายว่าสังคมแบบทุนเสรีนิยมเป็นสังคมแบบค้าขายแลกเปลี่ยน ใครมีของขายมากก็ขายได้เงินมาก ใครมีของขายน้อยก็ขายได้น้อยเป็นธรรมดา ถ้าไม่มีของจะขายก็ไปขายแรงงาน ขายบริการ เป็นต้นนั้น เป็นคำอธิบายที่เกือบถูกครับพี่น้องครับ คำอธิบายที่ถูกต้องคือคำอธิบายของหัวหน้าฝ่ายค้านที่อธิบายว่า สังคมแบบทุนเสรีนิยมเป็นสังคมแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ทุนใหญ่กินทุนเล็ก เช่นห้างมาบุญครอง ห้างเซนทรัล ห้างแม็กโคร ห้างโลตัส ได้ขยายสาขาไปทั่วโลก ประชาชนนิยมไปเดินจับจ่ายซื้อของในห้างมากกว่าร้านโชว์ห่วยของชาวบ้าน ทำให้กิจการร้านโชว์ห่วยของชาวบ้านในเมืองเลิกล้มกิจการหรือยุบรวมกิจการเข้าไปเช่าที่ขายของในห้างเหล่านั้น บางรายเลิกล้มกิจการไปสมัครเป็นลูกจ้างขายของในห้าง ปัจจุบันร้านโชว์ห่วยในประเทศของเราเกือบจะสูญพันธุ์แล้ว อีกไม่นานนักร้านโชว์ห่วยจะหายไปจากสังคมเมือง ที่ฝ่ายเสนอบอกว่าประเทศใหญ่ไม่เอาเปรียบหรือโกงประเทศเล็กก็ไม่เป็นความจริง เพราะในอดีตที่ผ่านมาประเทศมหาอำนาจล่าประเทศเล็กไปเป็นเมืองขึ้น บังคับให้ประเทศเล็กส่งส่วยเป็นทรัพย์สินเงินทอง บังคับเอาประชาชนในประเทศเล็กไปเป็นทาสรับใช้ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากประเทศเล็ก ส่งสินค้ามาทุ่มตลาดประเทศเล็ก ส่งบริษัทยักษ์ใหญ่มาตั้งห้างร้านขายสินค้าแข่งกับร้านโชว์ห่วยของประเทศเล็กเพื่อนำทรัพย์สินเงินทองกลับประเทศของเขา ให้ความช่วยเหลือโดยมีข้อแลกเปลี่ยนหรือคิดดอกเบี้ยแพง ทั้งไอเอ็มเอฟ จีน ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาล้วนแต่เป็นนายทุนรายใหญ่ให้ประเทศเล็กกู้ยืมโดยรับดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ตอบแทนทั้งนั้น ไม่เคยมีของให้เปล่าจากประเทศมหาอำนาจผู้ร่ำรวยเลยนอกจากวาทกรรมที่ชวนฝันและเศษขยะด้านมลพิษ พวกเขาเอาเปรียบประเทศเล็กมากขนาดนี้ยังจะกล่าวชื่นชมเขาอีกหรือ ไม่เตะก้นอาแปะกับอาบังสักป้าบสองป้าบก็บุญเท่าไหร่แล้ว ที่ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนออภิปรายว่า ถ้าให้นายจ้างจ่ายลูกจ้างมากไป นายจ้างก็อยู่ไม่ได้ ปัจจุบันนายจ้างหลายร้อยคนต้องปิดโรงงานหนีเพราะไม่มีเงินจ่ายลูกจ้าง พอนายจ้างปิดโรงงานหนีหนี้ ลูกจ้างหลายหมื่นคนตกงานไม่มีรายได้ ปัญหาอาชญากรรมฉกชิงวิ่งราวจี้ปล้นก็ตามมา เพราะคนไม่มีจะกิน ขอค้านว่าไม่จริงสักอย่าง ความจริงก็คือว่า นายจ้างมีกำไรจากการเปิดโรงงานมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ที่ไม่จ่ายเพราะตั้งใจจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ค่าแรงถูกกว่า จึงไม่ยอมจ่ายหรือค้างเงินเดือนพนักงานลูกจ้าง นายจ้างปิดโรงงานหอบเงินขึ้นเครื่องบินหนีไปหน้าตาเฉย ทิ้งคนงานให้ร้องตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างล่างอย่างน่าเวทนา แล้วอย่างนี้ฝ่ายเสนอยังอภิปรายช่วยนายจ้างอีก ลงจากเวทีเมื่อไหร่จะยุให้หมาไล่กัดเสียให้เข็ด ส่วนลูกจ้างที่ตกงานก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนดีที่น่าสงสารทั้งนั้น เมื่อก่อนไม่มีโรงงานพวกลูกจ้างก็อยู่กันได้อย่างสงบสุข ไม่มีใครเคยก่ออาชญากรรม ไม่มีนายจ้างก็กลับไปเป็นนายจ้างตัวเอง ทำโน่น นี่ นั้น เหมือนเมื่อก่อนสบายจะตาย ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องไปก่ออาชญากรรม ฉกชิงวิ่งราวเหมือนที่ฝ่ายเสนอกล่าวหา
ที่หัวหน้าฝ่ายค้านอภิปรายว่าพ่อค้าขายของเอากำไรมากเป็นการโกงลูกค้านั้นถูกต้องแล้วครับพี่น้องครับ เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวแม่ค้าขายผัดกระเพราราดข้าวจานละ 150 บาท จึงถูกจับและถูกปรับ 2,000 บาท การขายของต้องเอากำไรน้อยหรือกำไรแต่พอประมาณเท่านั้น การขายของเอากำไรมากถือว่าเป็นการโกงลูกค้ามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 6 เดือนหรือปรับ ไม่น้อยกว่า 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับครับพี่น้องครับ
ที่ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนออภิปรายว่านักเรียนโกงพ่อแม่เอาตังค์ไปเล่นเกมส์นั้นมันเรื่องเล็กน้อย เขาไม่เรียกว่าโกง แต่เขาเรียกว่าใช้เงินไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ขอเรียนชี้แจงว่า นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของการโกง เพราะเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะกลายร่างเป็นพวกคอรัปชั่นที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจของประเทศเสียหายและบ้านเมืองล่มจม แต่ถึงพวกเขาจะเป็นคนโกงและคอรับชั่นเราก็ต้องปรองดองกับพวกเขา เพราะประเทศไทยเป็นที่อยู่ของคนไทยทุกคน เรามิอาจชี้หน้าด่าใครต่อใครว่าพวกเขาเป็นคนโกง ตราบใดที่ศาลสถิตยุติธรรมยังมิได้ตัดสินชี้ขาดว่าเขาเป็นคนโกง แด่ถ้าศาลเตี้ยหรือศาลการเมืองตัดสินว่าเขาโกงนั้นเรายังเชื่อไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะศาลดังกล่าวเป็นศาลที่ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเท่านั้น ประเทศของเรามีคุกให้คนโกงมาก ๆ อยู่อาศัยชั่วคราวเพื่อดัดนิสัยให้เป็นคนดีอยู่ทุกจังหวัด ส่วนพวกโกงเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรา ๆท่าน ๆ และศาลสถิตยุติธรรมยังมิได้ตัดสินชี้ขาดว่าเราเป็นคนโกงก็อยู่กันไปอย่างพี่อย่างน้องอย่างนี้แหละ พระท่านเทศน์สอนญาติโยมว่า คนที่ตายก็ตายไป คนที่อยู่ก็เอากันไป……..เผาเสียยังป่าช้า ทุกคนที่เกิดบนผืนแผ่นดินไทยย่อมมีสิทธิ์ที่จะอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างเท่าเทียมกัน การปรองดองกันเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ถ้ารังเกียจรังแกกันก็จะเกิดสงครามกลางเมืองอย่างแน่นอน
ที่ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนอตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ชี้แจงแทนหัวหน้าฝ่ายเสนอว่า ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอมาสายเพราะรู้สึกดีใจที่จะได้มาโต้วาทีจึงออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า แต่โชคร้ายรถมอร์ไซด์หัวเทียนบอดจึงมาสายไปห้านาที มีได้เป็นการโกงผู้ฟังแต่ประการใด และที่อภิปรายเลยเวลาไปสองนาทีก็ด้วยตั้งใจว่าจะชดเชยให้ท่านผู้ฟัง มิได้ตั้งใจจะโกงเวลาของหัวหน้าฝ่ายค้านแต่อย่างใด ท่านผู้ฟังอย่าเชื่อนะครับ นี่คือการโกหกเพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกันเท่านั้นครับพี่น้องครับ (ร้องเพลง) … นี่หรือ คนซื่อที่ฉันแสนรัก คนดีที่เคยรู้จัก คนรักที่เคยบูชา กลับมาแปร เปลี่ยนไปได้หลายหน้า โธ่เอ๋ยโอ้อนิจจา สมคำเขาว่าดั่งธารน้ำไหล ญัตติเรา ก็คงยังใช่เรื่องเดิม ไม่มีส่วนใดไหนเพิ่ม แต่งเติมให้เป็นเรื่องใหม่ แต่เธอ กลับจำญัตติเราไม่ได้ เมื่อเห็นไม่มีทางไป ก็เลยเฉไฉแก้ตัววุ่นวาย…. (พูด)..
(ยังมีต่อ)
2. ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก
หัวหน้าฝ่ายเสนอ : ความรักเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ ถ้าหยดชะโลมใจของใครแล้วแม้เพียงหยดเดียวก็จะทำให้คนนั้นมีความสุข และเกิดสิ่งดีงามตามมามากมาย เช่นคิดดี พูดดี ทำดี สามมัคคีรักใคร่ปรองดอง แต่งงานเป็นสามีภรรยา เป็นครอบครัว เป็นหมู่บ้าน เป็นเมือง เป็นประเทศ เป็นโลก เป็นจักรวาล ทุกสรรพสิ่งทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตล้วนเกิดมาจากความรักทั้งสิ้น เช่นเราเกิดมาจากความรักของพ่อแม่ ตึกรามบ้านช่องเกิดจากเอาอิฐหินปูนทรายไม้ไฟน้ำมารวมกัน สุริยะจักรวาลเกิดจากดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ รักกันดึงดูดกันไว้ ความเกลียดชังเปรียบเสมือนไม้ขีดก้านเดียว หากก่อติดลุกไหม้ในใจของใครแล้ว จะทำให้คนนั้นมีความทุกข์ คิดชั่ว พูดชั่วและทำชั่ว ซึ่งทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายตามมามากมายเช่น ด่าทอ ทำร้ายร่างกายกัน ฆ่ากัน เกิดสงครามมิคสัญญี กล่าวคือเห็นคนอื่นเป็นสัตว์ร้ายที่ต้องกำจัดต้องฆ่าให้หมดไป จะเกิดการฆ่าและการทำลายล้างกันอย่า่งรุนแรงไร้ขีดจำกัด บ้านร้าง เมืองไม่มีคนอยู่ ประเทศล่มจม สรรพสิ่งจะแยกกัน โลกจะสลาย จักรวาลจะสิ้นสุด ดังนั้นหัวข้อวิวาทะที่ตั้งไว้ว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก จึงถูกต้องด้วยประการทั้งปวง
หัวหน้าฝ่ายค้าน : ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอเปรียบเทียบความรักว่าเสมือนน้ำทิพย์ ถ้าหยดชะโลมใจของใครแล้วแม้เพียงหยดเดียวก็จะทำให้คนนั้นมีความสุข และเกิดสิ่งดีงามตามมากมาย เช่นคิดดี พูดดี ทำดี สามมัคคีรักใคร่ปรองดอง แต่งานเป็นสามีภรรยา เป็นครอบครัว เป็นหมู่บ้าน เป็นเมือง เป็นประเทศ เป็นโลก เป็นจักรวาลนั้น ฟังดูน่าเลื่อมใส แต่ความจริงอีกด้านหนึ่งที่ฝ่ายเสนอไม่ยอมพูดถึงคือ จะเกิดความทุกข์และปัญหาต่าง ๆ ตามมากมายเช่น ความกังวลว่าคนรักจะปันใจไปเป็นอื่น การหึงหวง การชิงสุกก่อนห่าม การมีท้องก่อนแต่ง การทำแท้ง พอแต่งงานแล้วก็เกิดปัญหามากมายเช่น ความจน ความไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว การทำร้ายร่างกายกัน การหย่าร้าง เป็นต้น ในครั้งพุทธกาลมีหญิงสาวสวยลูกเศรษฐีคนหนึ่งชื่อปฏาจารา รักกับคนใช้ต่างวรรณะและหนีตามกันไปอยู่บ้านสามีในชนบท ประกอบชีพทำนาและหาของป่าขาย ขณะเธอท้องแก่ใกล้คลอดได้แอบหนีสามีจะกลับไปคลอดลูกที่บ้านพ่อแม่ แต่คลอดลูกระหว่างทาง ได้ลูกเป็นชาย สามีตามกลับไปอยู่ด้วยกัน อีก 3 ปีต่อมาขณะเธอท้องแก่ใกล้คลอดลูกคนที่ 2 ได้แอบหนีสามีกลับไปคลอดที่บ้านพ่อแม่ สามีกลับจากทำนาไม่พบลูกกับเมียจึงติดตามไปพบเธอกำลังปวดท้องคลอดลูกใต้ต้นไม้ กลางป่า ขณะนั้นเป็นเวลามืดค่ำฝนตกลมแรง จึงรีบเข้าป่าหาฟืนเพื่อนำมาก่อไฟบรรเทาความหนาวให้ลูกเมีย แต่โชคร้ายถูกงูเห่ากัดตายที่กลางป่า นางคลอดลูกออกมาเป็นหญิง รุ่งเช้าเธออุ้มลูกคนเล็กจูงลูกชายคนโตตามหาสามี พบสามีนอนตายอยู่ข้างจอมปลวก จึงตัดสินใจกลับไปหาพ่อแม่ที่บ้านเกิด พอเดินทางถึงแม่น้ำอิรวะดีจึงให้ลูกชายนั่งรอที่ฝั่งน้ำ ส่วนตัวเองอุ้มลูกสาวคนเล็กข้ามแม่น้ำไปวางไว้ที่ริมฝั่งแล้วเดินลุยน้ำจะกลับมารับลูกชาย พอถึงกลางแม่น้ำก็มองเห็นนกอินทรีตัวใหญ่บินโฉบลงมาที่ลูกสาวคนเล็ก นางตะโกนร้องไล่นกอินทรีด้วยเสียงอันดังแต่ไม่เป็นผล นกอินทรีโฉบลงขยุ้มเอาลูกสาวคนเล็กของนางไปกิน ขณะเดียวกันลูกชายคนโตได้ยินเสียงร้องของแม่ก็นึกว่าแม่เรียกจึงกระโดดลงแม่น้ำจะไปหาแม่ ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป เมื่อนางเดินทางไปถึงบ้านพ่อแม่ ก็ได้รับข่าวร้ายว่าพายุเมื่อคืนพัดบ้านพ่อแม่พังทั้งหลัง พ่อกับแม่ถูกบ้านทับตายหมดแล้ว เธอเสียใจมากถึงกับเป็นบ้าเดินแก้ผ้าร้องไห้ไปตามถนนจนถึงวัดเชตวันขณะที่พระพุทธเจ้ากำลังเทศน์โปรดญาติโยม พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดนางว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ นางได้ฟังก็มีสติกลับคืนมาก็เกิดความอับอาย นั่งกระมิดกระเมี้ยน เอามือปิดป้องของสงวนเป็นพัลวัน มีผู้ใจบุญท่านหนึ่งโยนผ้าห่มให้นางปกปิดร่างกาย เรื่องราวมันยาวครับพี่น้องครับ ที่ฝ่ายเสนอกล่าวว่าเมื่อมีความรักความสุขและสิ่งดีงามจะตามมามากมายนั้นมิได้เป็นความจริงแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่นางปฏาจาราผู้สมหวังในรักแต่ทุกข์หนักจนเป็นบ้า ส่วนประเด็นว่า ความเกลียดชังเปรียบเสมือนไม้ขีดก้านเดียว หากก่อติดลุกไหม้ในใจของใครแล้ว จะทำให้คนนั้นมีความทุกข์ คิดชั่ว พูดชั่วและทำชั่ว ซึ่งทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายตามมามากมายเช่น ด่าทอ ทำร้ายร่างกายกัน ฆ่ากัน เกิดสงคราม บ้านร้าง เมืองไม่มีคนอยู่ ประเทศล่มจม สรรพสิ่งจะแยกกัน โลกจะสลาย จักรวาลจะสิ้นสุด ฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วความเกลียดชังไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น ความเกลียดชังเป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดที่มาคู่กับความรู้สึกรักของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดมีความรักหรือความเกลียดชังเพียงอย่างเดียว และความเกลียดชังก็มิได้มีพลังพอที่จะทำลายโลกอย่างที่หัวหน้าฝ่ายเสนอเข้าใจ เช่นสามีภรรยาที่ทะเลาะตบตีทำร้ายร่างกายกันก็ยังมีลูกหัวปีท้ายปี คนในโลกจะรักกันหรือเกลียดชังกันมากแค่ไหนโลกก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นหัวข้อวิวาทะว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก มิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง ..มั่วนิ่มครับพี่น้องครับ
ผู้สนับสนุนฝ่ายเสนอ…. ปรัชญาตะวันตกได้อธิบายถึงความมีและความเป็นของสรรพสิ่งว่า สรรพสิ่งมี 4 อย่างคือ 1. สิ่งที่ถูกสร้างอย่างเดียวมิได้เป็นผู้สร้างเช่นโตํะ เก้าอี้ บ้านเรือน รถ เป็นต้น 2. สิ่งที่ถูกสร้างและเป็นผู้สร้าง เช่นมนุษย์และสัตว์ซึ่งถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมาแล้วเป็นผู้สร้างลูกหลาน และสร้างสิ่งอื่นต่อไป 3. สิ่งที่เป็นผู้สร้างอย่างเดียวมิได้เป็นผู้ถูกสร้างได้แก่พระเจ้า พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก สร้างสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตชุดแรก ๆ แต่พระเจ้ามิได้เป็นผู้ถูกสร้าง 4. สิ่งที่มิได้เป็นผู้สร้างและมิได้เป็นผู้ถูกสร้าง ได้แก่สิ่งที่ยังไม่รู้ซึ่งนักปรัชญาฝากให้เราคิดต่อไปว่าน่าจะได้แก่อะไรบ้าง แต่โลกในความหมายนี้คงมิได้หมายถึงตัวโลกที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ เพราะโลกที่หมุนรอบดวงอาทิตย์และจักรวาลนี้ผู้นับถือศาสนาฝ่ายเทวนิยมหรือศาสนาที่เชื่อเรื่องพระเจ้าเชื่อตามกันว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้าง ส่วนผู้นับถือศาสนาฝ่ายอเทวนิยมหรือศาสนาที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าเช่นศาสนาพุทธอธิบายว่า สรรพสิ่งเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยและดับไปก็เพราะเหตุปัจจัยนั้น ยกตัวอย่างเช่นเมื่อมีเหตุปัจจัยทำให้เกิดโลกครบถ้วน โลกก็เกิด เมื่อมีเหตุปัจจัยทำให้โลกดับครบถ้วน โลกก็ดับ เมื่อมีเหตุปัจจัยทำให้คนเราเกิดครบถ้วน คนเราก็เกิด เมื่อมีเหตุปัจจัยทำให้คนเราตายครบถ้วน คนเราก็ตาย ข้าพเจ้าคิดว่าโลกที่เราถกเถียงกันอยู่นี้คงจะหมายถึงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและทำลายเช่น ครอบครัว ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทาง แม่น้ำลำคลอง สาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นด้วยความรัก และถูกทำลายลงด้วยความเกลียดชังทั้งสิ้น นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า โลกแตกออกมาจากดวงอาทิตย์เมื่อหลายล้านปีมาแล้ว สิ่งมีชีวิตเกิดจากทะเล มนุษย์และสัตว์บกอื่นล้วนแต่วิวัฒนาการมาจากสัตว์น้ำในทะเลทั้งสิ้น เกิดขึ้นดำรงอยู่และตายไปตามเหตุปัจจัยของใครของมัน สิ่งไม่มีชีวิตรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนได้เพราะแรงดึงดูดและแตกสลายเพราะเหตุปัจจัยเช่นเดียวกัน ทั้งหมดที่นำเสนอนี้มีที่มาที่ไป อธิบายได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน มิได้มั่วนิ่มแต่ประการใด ความรักกับแรงดึงดูดถึงจะเรียกชื่อต่างกันแต่มีความหมายอย่างเดียวกันคือความรักความคิดถึง ความผูกพัน ความพยายามที่จะอยู่ร่วมกัน เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
1. สมัยก่อนหนุ่มสาวรักกัน เจ้าหนุ่มเทียวหาสาววันละหลายรอบเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกัน วันไหนไม่ได้เห็นหน้าเห็นเพียงชายคาบ้านก็ชื่นใจ วันไหนไปหายามมืดค่ำมองไม่เห็นหลังคาบ้านเพียงได้ยินเสียงหมาบ้านสาวเห่าก็มีความสุข สมัยปัจจุบันนั่งนอนคุยกันทางโทรศัพท์หรือทางไลน์ทั้งคืนทั้งวันจนไม่เป็นอันกินอันนอนเพราะอานุภาพของความรักดึงดูดให้เป็นไป
2. สาวสวยหุ่นเซ็กซี่สวมชุดบิกินี่เดินส่ายสะโพกผ่านมา สามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ของผู้คนที่จ้องมองเธออย่างไม่กระพริบ เห็นไหมครับว่า คำว่าดึงดูดใช้กับสิ่งมีชีวิตก็ได้ มิได้จำกัดให้ใช้เฉพาะสิ่งไม่มีชีวิต
สรุปว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก หัวข้อวิวาทะที่หัวหน้าฝ่ายเสนอยกมานำเสนอนั้นถูกต้องแล้ว มิได้มั่วนิ่มอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหาแต่อย่างใด
ผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน……ได้ฟังฝ่ายเสนอยกแม่น้ำทั้งห้ามาสนับสนุนหัวข้อว่าความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลกเพลินไปเลย ฟังดูน่าเชื่อถือ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมามันไม่เป็นความจริงซักอย่างเดียว เพราะความจริงก็คือ ความรักไม่ได้สร้างอะไรเลย หลายท่านอาจจะเถียงในใจว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะอย่างน้อยความรักก็สร้างลูกได้ ไม่จริงครับ ความรักไม่ได้สร้างลูก ความใคร่ต่างหากที่สร้างลูก ความรักสร้างบ้านได้ไหม คำตอบคือความรักสร้างบ้านไม่ได้ ไม่เคยมีบ้านหลังไหนที่สร้างด้วยความรัก มีแต่บ้านที่สร้างด้วยผู้รับเหมาก่อสร้างที่เราจ้างมาทั้งสิ้น ความรักสร้างอะไรได้บ้าง คำตอบที่ถูกที่สุดคือ ความรักสร้างอะไรไม่ได้สักอย่าง ความรักสร้างโลกได้ไหม คำตอบคือ ความรักสร้างโลกไม่ได้ ความเกลียดชังทำลายโลกเป็นความจริงหรือไม่ คำตอบคือไม่จริงเพราะความเกลียดชังทำอะไรไม่ได้ เช่นคนที่เกลียดงู พอเจองูทีไรเป็นต้องร้องแรกแหกกระเฌอวิ่งหนีทุกที คนเกลียดชังกันจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้ากัน ไม่นานก็หนีไปคนละทาง คนที่เกลียดชังโลกจะไม่อยากอยู่ในโลก ไม่นานก็ผูกคอตายหนีโลก ความโกรธต่างหากที่ทำให้คนเราทำลายล้างกัน แล้วทำไมฝ่ายเสนอจึงจึงสร้างวาทกรรมอย่างสวยหรูว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก คำตอบคือ ก็น่านนะซี พวกเราก็อุตส่าตั้งใจฟังอยู่ตั้งนานสองนาน บางท่านพยักหน้าเออออห่อหมกยกโป้แถมก้อยให้กับเหตุผลที่ยกมาอ้างว่าจริงแท้แน่นอน กระผมเองนั่งมึนอยู่ตั้งนานกว่าจะนึกได้ว่า ที่ฝ่ายเสนออธิบายมาทั้งหมดไม่ใช่ความจริง
สรุปว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก ที่หัวหน้าและผู้สนับสนุนฝ่ายเสนอนำมาอธิบายในครั้งนี้ เป็นเพียงวาทกรรมที่สวยหรูแต่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เหมือนผู้หญิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย ถึงจะแต่งให้เหมือนอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้ชาย
หัวหน้าฝ่ายเสนอ….ที่ฝ่ายค้านอภิปรายมาก็น่าฟัง เป็นความจริงที่ไม่มีเหตุผลอื่นใดมาหักล้างได้ แต่มันเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว ที่ฝ่ายค้านไม่ยอมพูดถึงให้จบสิ้นกระบวนความอาจเป็นเพราะฝ่ายค้านกลัวแพ้นั่นเอง ความจริงที่ฝ่ายค้านยังไม่ได้พูดถึงก็คือว่าเมื่อความรักเกิดขึ้นในใจแล้วความดีงามอื่น ๆ เช่น ความเอื้อเฟื้อแผ่ ความมีเมตตาต่อกัน ความสามัคคีกลมเกลียมรักใคร่ปรองดองกันเป็นต้นก็เกิดตามมา ทำให้การกระทำด้านดีเกิดขึ้นมากมายเช่นพูดดี พูดเพราะ พูดจาภาษาดอกไม้ ชายหญิงแต่งงานกัน สร้างครอบครัว สร้างบ้านสร้างเมืองและสร้างโลกให้สวยงามน่าอยู่ ส่วนผู้ที่สร้างโลก สร้างท้องฟ้า สร้างจักรวาล ถ้ามีจริงท่านก็คงสร้างขึ้นด้วยความรัก ที่กล่าวว่าความรักสร้างโลกจึงมิได้กล่าวเกินเลยจากความเป็นจริงแม้แต่น้อย
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศราวันด้าเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพียง 100 วัน มีคนตายถึง 1,000,000 กว่าคน มีสาเหตุมาจากหัวหน้าเผ่าฮูตูได้ปลุกระดมให้ผู้คนในเผ่าของตนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและกรรมกรผู้มีฐานะยากจน แต่พวกเขาเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ให้เกลียดชังคนเผ่าตุ้ดซี่ซึ่งเป็นชนชั้นผู้ปกครอง เป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นเจ้าของที่ดินผู้มั่งคั่งร่ำรวย การปลุกระดมให้ความเกลียดชังเกิดขึ้นในใจชนเผ่าของตนได้ผลเกินความคาดหมาย ความชั่วร้ายต่าง ๆ ก็เกิดตามมามากมายเช่น การกล่าวหา พูดจาเสียดสี ด่าทอ ทำร้ายร่างกายกัน ความชั่วร้ายได้ขยายตัวไปทุกหย่อมหญ้า ไร้การควบคุม รัฐบาลของชนเผ่าตุ้ดซี่สู้ไม่ได้หนีเข้าไปขอลี้ภัยในประเทศคองโกแล้วจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นโดยมีประเทศเพื่อนบ้านให้ความช่วยเหลือเข้าสู้รบกับรัฐบาลของชนเผ่าฮูตูที่ตั้งขึ้นมาใหม่ สื่อสารมวลชนทั้งสองฝ่ายยุยงส่งเสริมให้ผู้คนทั้งสองเผ่าที่เป็นญาติพี่น้องกัน เกลียดชังกัน เห็นกันเป็นศัตรูที่ต้องฆ่าต้องทำลายให้หมดสิ้น มีการประหัตประหารเข่นฆ่ากันระหว่างชนเผ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณไร้ขีดจำกัดถึงขนาดผัวฆ่าเมียรักเพียงเพราะเธอเป็นคนต่างเผ่า สงครามกลางเมืองครั้งนี้ รบกันเพียง 100 วัน แต่มีผู้คนล้มตายมากถึง 1,000,000 กว่าคน ความเกลียดชังและการเข่นฆ่ากันได้แพร่ขยายเข้าไปในประเทศคองโกและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ทำให้มีผู้คนล้มตายเพิ่มขึ้นอีกหลายแสนคน ความเกลียดชังกันเป็นเบื้องต้นแห่งความชั่วร้ายทำลายล้างอย่างไร้ขีดจำกัด และถ้าความเกลียดชังกันแผ่ขยายเข้าไปในจิตใจของคนทั้งโลก การทำลายล้างคงจะมากมายยิ่งกว่าการระเบิดของระเบิดเคลียร์ที่มีอยู่ทั้งโลกรวมกันอย่างแน่นอน
ชนชั้นในประเทศไทยของเราก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับประเทศราวันด้า ต่างกันเพียงประชาชนในประเทศของเราส่วนใหญ่ยึดมั่นในหลักคำสอนของศาสนาที่สอนให้รักษาศีลและปฏิบัติธรรม ด้วยการละเว้นความชั่ว ทำแต่ความดี ทำใจให้บริสุทธิ์ รักและหวังดีต่อกัน มีความเมตตา ช่วยเหลือแบ่งปัน ไม่อิจฉาริษยากัน ไม่เบียดเบียนกัน พอใจในสิ่งที่มี สุขทุกข์อยู่ที่ใจ คนรวยเพราะชาติก่อนได้ทำบุญเอาไว้มาก เป็นต้น ทำให้เกษตรกรและกรรมกรผู้ยากไร้ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศมีจิตใจอ่อนโยนโอบอ้อมอารีย์ มีน้ำใจ ยอมรับชะตากรรมที่เกิดมาจนได้ จึงไม่ลุกขึ้นมาเรียกร้องความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมทางสังคมและความเสมอภาคทางกฎหมาย แต่ชนชั้นผู้ปกครองก็อย่าได้ชะล่าใจเพราะประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทุกทิศทุกทางในโลกไร้พรมแดนอย่างทุกวันนี้ ควรรีบดำเนินการพัฒนาประเทศโดยยึดถือแนวทางหรือปณิธานของพระโพธิสัตว์อย่างน้อยหนึ่งข้อคือ ถ้ายังมีคนอยู่ในนรกเป็นจำนวนมากเราจะยังไม่ขึ้นสวรรค์ แต่เราจะลงไปในนรกเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ได้ขึ้นมาจากนรก แล้วเราจะสั่งสอนนำพาและกวาดต้อนผู้คนทุกหมู่เหล่าไปขึ้นสวรรค์ให้หมดก่อน ส่วนเราจะขึ้นสวรรค์เป็นคนสุดท้าย ด้วยการดำเนินการทุกนโยบายทุกแผนงานและทุกโครงการเพื่อนำพาพี่น้องประชาชนไทยของเราทุกคนไปสู่เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและความอยู่ดีกินดีมั่งคั่งร่ำรวย โดยไม่ทิ้งคนบางคนและคนบางกลุ่มให้ผจญกับความทุกข์ยากลำบากไว้เบื้องหลัง
สรุป หัวข้อวิวาทะว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก เป็นความจริงที่พร้อมรับการพิสูจน์จากผู้ที่เห็นต่างได้ทุกเมื่อ
หัวหน้าฝ่ายค้าน…ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอยกย่องฝ่ายค้านว่าอภิปรายน่าฟัง เป็นความจริงที่ไม่มีเหตุผลอื่นใดมาหักล้างได้นั้นถูกต้องแล้ว ขอบคุณครับขอบคุณ แต่ที่บอกว่าที่อธิบายมาเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเพราะฝ่ายค้านไม่ยอมพูดให้จบสิ้นกระบวนความ ซึ่งอาจเป็นเพราะฝ่ายค้านกลัวแพ้นั่นไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน แต่เป็นการใส่ร้ายฝ่ายค้านอย่างให้อภัยไม่ได้ครับพี่น้องครับ ฝ่ายค้านไม่กลัวแพ้แม้แต่น้อย แต่ได้อภิปรายอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนแล้วทุกประเด็น ใคร ๆ ได้ฟังก็เข้าใจ เด็กเข้าใจ ผู้ใหญ่เข้าใจ จิ้งจกตุ๊กแกที่ได้ยินได้ฟังก็ล้วนแต่พยักหน้าเข้าใจทั้งสิ้น มีเพียงฝ่ายเสนอเท่านั้นที่เข้าใจแต่พยายามจะไม่เข้าใจเพราะกลัวแพ้ ฝ่ายเสนอได้พยายามอภิปรายหนีจากประเด็นที่ตัวเองนำเสนอว่า ความรักสร้างโลก ความเกลียดชังทำลายโลก ครับพี่น้องครับ เพราะความจริงก็คือว่า ความรักไม่ได้สร้างอะไรเลย อย่างที่ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้อภิปรายไปแล้วว่า ความรักไม่ได้สร้างบ้านสร้างเมือง คนงานก่อสร้างต่างหากเป็นผู้สร้างบ้านสร้างเมือง ความรักไม่ได้เป็นผู้สร้างโลก แต่พระเจ้าหรือธรรมชาติต่างหากเป็นผู้สร้างโลก ที่ฝ่ายเสนอนำอภิปรายว่า ความรักสร้างโลกจึงไม่เป็นความแม้แต่น้อย
ที่หัวหน้าฝ่ายเสนออภิปรายว่า เมื่อเกิดความรักขึ้นในใจแล้วแล้วความดีงามอื่น ๆ เช่น ความเอื้อเฟื้อแผ่ ความมีเมตตาต่อกัน ความสามัคคีกลมเกลียมรักใคร่ปรองดองกันเป็นต้นก็เกิดตามมา ทำให้การกระทำด้านดีเกิดขึ้นมากมายเช่นพูดดี พูดเพราะ พูดจาภาษาดอกไม้ ชายหญิงแต่งงานกัน สร้างครอบครัว สร้างบ้านสร้างเมืองและสร้างโลกให้สวยงามน่าอยู่ มันเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวครับพี่น้องครับ เพราะเนื้อแท้ของความรักครึ่งหนึ่งคือการเสียสละแต่อีกครึ่งหนึ่งคือความเห็นแก่ตัว ครึ่งหนึ่งคือการให้แต่อีกครึ่งหนึ่งคือการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ครึ่งหนึ่งคือการพูดจาภาษาดอกไม้ชายหญิงแต่งงานกัน แต่อีกครึ่งครึ่งหนึ่งที่ตามมาคือการด่าทอตบตีทำร้ายร่างกายกันและการหย่าร้าง ดูตัวอย่างนางปฏาจาราที่เริ่มต้นด้วยความรักแต่ลงท้ายด้วยความพลัดพรากและความทุกข์หนักจนเป็นบ้า พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนนางปฏาจาราและชาวพุทธว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ฝ่ายเสนอจะไม่เชื่อก็ตามใจเพราะนี้คือสัจจธรรม
ที่หัวหน้าฝ่ายเสนออภิปรายว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศราวันด้าเมื่อปี พ.ศ. 2537 เพียง 100 วัน มีคนตายถึง 1,000,000 กว่าคน มีสาเหตุมาจากความเกลียดชังระหว่างคนสองเผ่า คือเผ่าตุ้ดซี่กับเผ่าฮูตู ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้ ท่านทั้งหลายลองฟังเรื่องราวต่อไปนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศราวันด้าที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ เรื่องมีว่า บ่ายวันหนึ่ง มีกระทาชายนายหนึ่งแบกไหปลาร้าไปขายที่ตลาดสดแต่บังเอิญหกล้มทำไหปลาร้าแตก แมลงวันได้กลิ่นปลาร้าจึงบินมารุมตอม จิ้งจกและคางคกเห็นแมลงวันจึงพากันมาไล่กิน แมวเห็นจิ้งจกจึงวิ่งมาไล่จับจิ้งจกไปกินบ้าง หมาเห็นแมวออกมาวิ่งไล่จิ้งจกจึงพากันวิ่งออกมาไล่กัดแมว เจ้าของแมวออกมาไล่ตีหมาเพื่อช่วยแมว ขณะเดียวกันเจ้าของหมาก็ออกมาไล่ตีเจ้าของแมวบ้างเพื่อช่วยหมา ญาติพี่น้องเจ้าของแมวและญาติพี่น้องเจ้าของหมายกพวกออกมาตีกันบาดเจ็บล้มตายเกือบทั้งเมือง เดือดร้อนถึงพระราชาต้องยกกองทัพมาห้ามศึก เมื่อสอบสวนจึงได้ทราบความจริงว่า ที่ทั้งสองฝ่ายรบกันเพราะความเข้าใจผิด ซึ่งมีสาเหตุมาจากไหปลาร้าแตก ไม่ใช่รบกันเพราะความเกลียดชังอย่างที่ฝ่ายเสนอพยายามอธิบาย ซึ่งถ้าให้ฝ่ายเสนอสรุปเรื่องนี้ก็คงสรุปว่า สงครามกลางเมืองครั้งนี้มีสาเหตุมาจากปลาร้าไม่รักกัน จริงไหมครับพี่น้องครับ ถ้าเราศึกษาประว้ติศาสตร์ของมนุษย์ชาติจะพบความจริงข้อหนึ่งว่า เมื่อใดที่สามีมีภรรยาสองคนมักจะเกิดสงครามในบ้าน โบราณท่านจึงสอนว่า มีเมียสองต้องห้าม มีเมียสามตามตำรา แต่ถ้ามีเมียสี่เมียห้าโบราณว่ามันเป็นคนบ้ากาม ให้รีบพามันไปให้หมอตอนหำ ประเทศใดมีคนเพียงสองเผ่ามักจะเกิดสงครามกลางเมือง แต่ถ้าประเทศใดมีคนอยู่หลายเผ่า พวกเขาจะคานอำนาจกันเองจึงไม่เกิดสงครามกลางเมือง และเมื่อใดที่คนในโลกแบ่งเป็นสองฝ่ายก็จะเกิดสงครามโลกเช่นเดียวกัน
ที่หัวหน้าฝ่ายเสนอหวั่นวิตกว่าประเทศของเราจะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์เหมือนประเทศราวันด้านั้น ขอให้ท่านสบายใจได้ เพราะคนในประเทศของเรามีตั้งหลายร้อยชนเผ่าเช่น เผ่าไทยดั้งเดิม เผ่าไทยจีน เผ่าไทยมอญ เผ่าไทยพม่า เผ่าไทยกระเหรียง เผ่าไทยมูเซอร์ เผ่าไทยอีก้อ เผ่าไทยย้อ เผ่าไทยกะเลิง เผ่าไทยภูไทย เผ่าไทยลาวโซ่ง เผ่าไทยอังกฤษ เผ่าไทยเยอรมัน เผ่าไทยอเมริกา เผ่าไทยมาเลเซีย เผ่าไทยเวียตนาม เผ่าไทยลาว เผ่าไทยเขมร เผ่าไทยสวีเดน เผ่าไทยรัสเซีย เผ่าไทยฝรั่งเศส เผ่าไทยแคนาดา เป็นต้น แต่ละชนเผ่าที่อยู่ในประเทศไทยมักจะแต่งงานข้ามเผ่ามีลูกหลานเหลนโหลนจนไม่รู้ว่าเผ่าดังเดิมของตนเป็นเผ่าไหนกันแน่ แต่ทุกคนก็เข้าใจตรงกันว่า เมื่อเราอาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ต้องเป็นคนไทย ประเทศใหญ่ ๆ อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน เป็นต้นก็ล้วนแต่มีหลายร้อยชนเผ่าทั้งสิ้น แต่ละชนเผ่าก็ไม่รู้ว่าปู่ ย่าตาทวดของปู่ ย่าตาทวด ๆ ๆ ๆ ๆ ของพวกเขาเป็นคนเผ่าไหน แต่ที่ใช่แน่ ๆ คือทุกคนในโลกนี้เป็นพี่น้องกัน ฆ่าคนเผ่าอื่นก็คือฆ่าพี่น้องตนเอง เรื่องสงครามล้างเผ่าพันธุ์กันในประเทศเหล่านี้จึงไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะรัฐบาลให้รีบเร่งพัฒนาประเทศโดยยึดถือปณิธานของพระโพธิสัตว์เป็นแนวทาง เพราะคนในรัฐบาลคงยังไม่มีใครกล้าลงนรก เนื่องจากไม่แน่ใจว่าเมื่อลงนรกแล้วจะถูกยมบาลจับโยนลงหม้อกระทะทองแดงหรือไล่ให้ปีนต้นงิ้วเพราะทำผิดศีลไว้หลายข้อหรือไม่ และจะมีโอกาสได้ขึ้นมาเหมือนพระโพธิสัตว์หรือไม่ ที่ชัวร์กว่าคือรัฐบาลของเรามีแผนพัฒนาประเทศ ทั้งแผนระยะสั้น แผนระยะกลาง และแผนระยะยาวพร้อมอยู่แล้ว และยังมีระบบการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นอย่างเข้มข้นคอยกำกับดูแล แต่เงินนะมีไหม จริงไหมครับพี่น้องครับ
สรุปว่า
(ยังมีต่อ)
-สงครามโลกครั้งแรกเกิดขึ้นที่ใจคน
ฝ่ายเสนอ : โบราณว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้าใจสั่งให้กายทำอย่างไรกายก็ต้องทำอย่างนั้น เช่นใจสั่งให้กายพูด กิน ดื่ม ทำ พูด กายก็ต้องทำตาม ใจสั่งให้ฆ่ากายก็ต้องฆ่า ถ้าใจของผู้นำทั้งสองฝ่ายคิดจะก่อสงครามก็จะสั่งให้ลูกน้องยิงปืนใส่กัน รบกัน สงครามโลกครั้งแรกจึงเกิดที่ใจคนก่อน ก่อนที่จะรบกัน ดังนั้นวาทะว่า สงครามโลกครั้งแรกเกิดขึ้นที่ใจคน จึงถูกต้องตามความเป็นจริงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ฝ่ายค้าน ; สงครามโลกครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นที่ใจคนอย่างแน่นอน เพราะขณะที่กองทหารตั้งเผชิญหน้ารอเจรจากันอยู่นั้น ถ้าแต่ละฝ่ายคิดในใจว่าจะทำสงครามแต่ไม่ยิงปืนใส่ฝ่ายตรงข้าม สงครามก็ไม่เกิด แต่ถ้าเอาปืนมายิงใส่ฝ่ายตรงข้ามตามที่ใจสั่ง สงครามจะเกิดขึ้นแน่นอน หรือทำปืนลั่นใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยที่ใจยังไม่ได้สั่งให้ยิง สงครามก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นวาทะที่ว่า สงครามโลกครั้งแรกเกิดขึ้นที่ใจคน จึงเป็นวาทะที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด เพราะความจริงคือสงครามเกิดขึ้นที่กระสุนนัดแรกและนัดต่อ ๆ มาต่างหาก
-ที่ใดมีรักที่น้้นมีทุกข์
ฝ่ายเสนอ…..
ฝ่ายค้าน………
-ถ้าทุกคนในโลกรักกันทุกประเทศก็ไม่ต้องมีกองทหาร
-ผลประโยชน์และความรักชาติต่างหากที่ทำให้ทุกประเทศมีกองทหาร
-บ้านเมืองใดที่ผู้คนไม่รักกันไม่นานก็บรรลัย
-ความไม่รักกันไม่ได้ทำลายบ้านเมือง แต่ผู้คนที่รักสามัคคีกันกอบโกยโกงกินต่างหากที่ทำให้บ้านเมืองบรรลัย
-บ้านใดไร้รักไม่นานนักก็เป็นบ้านร้าง
-บ้านไร้รักถ้ามีคนอยู่อาศัยนานเท่าใดก็ไม่เป็นบ้านร้าง
-ถ้าผัวเมียไม่รักกันไม่นานก็หนีไปคนละทาง
-ผัวเมียไม่รักกันนานแค่ไหนก็ไม่หนีถ้ามีมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
-ความรักคือความงดงามในใจที่ทุกคนหลงไหลใฝ่ฝันถึง
-ความงดงามในใจมีรูปร่างอย่างไร ขาวสวยหมวยอึ๋มหรือเปล่าครับพี่น้องครับ
-แม้ไม่สมหวังในความรักแต่ขอให้ฉันได้รัก
-รักไม่สมหวังเป็นทุกข์ อยากได้ไปทำไม
-แม้กาลเวลาจะล่วงเลย แต่ความรักของฉันไม่เคยเปลี่ยน
-ความรักไม่เปลี่ยนแต่เปลี่ยนคนรักใช่หรือไม่ครับพี่น้องครับ
-ถึงแม้ฉันจะแก่แต่ความรักของฉันยังหนุ่มเสมอ
-เฒ่าหัวงูละสิ
-ส่งยิ้มให้เพื่อบอกความในใจว่า รักนะ
-โกหกแน่เลย
-ส่งรอยยิ้มและสายตาเพื่อพิมพ์คำว่า ฉันจริงใจ
-พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไหนครับพี่น้องครับ
-คิดถึงยามห่างไกลหมายถึง ฉันหลงรัก
-หลงรักฉันไปอยู่ห่างฉันทำไม
-เธอไม่รักฉันไม่เป็นไรแต่ขอให้ฉันได้รักเธอก็พอ
-มันของแน่ละตา เพราะตาอายุมากแล้ว ผมก็เหลือน้อย ฟันเหลือสองซี่เอง มองดูเหมือนฟันฮิบโปโปเตมัสไม่มีผิด ยิ้มเหมือนผีหลอกอีกต่างหาก ต้องเป็นยายเท่านั้นที่รักตาอย่างคนรัก ส่วนหนูจะขอยืมเงินตาไปกินขนมสักพันสองพัน ถ้าตาไม่ให้ ปล้น
-โลกนี้จะมีความสุขราวกับแดนสวรรค์
เมื่อสองเรารักกันอย่างดูดดื่มและมีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน
-อยากไปสวรรค์จัง จัดทัวร์ไปสวรรค์เมื่อไรจองสองที่ หนึ่งที่สำหรับฉัน อีกหนึ่งที่สำหรับคู่ดูดดื่มจ้า
-ความรักไม่มีพรมแดน แม้นอยู่คนละฟากฟ้าก็รักกันได้
-รักทางไลน์ละสิ พอเจอหน้ากลายเป็นผีหลอกกลางวัน ต้องกลับไปอยู่คนละฟากฟ้าเหมือนเดิม
-ความรักไม่มีเหตุผล มีหรือจนไม่อาจกีดขวางทางรัก
-ไม่เถียง เพราะผู้ที่กีดขวางทางรักตัวจริงคือพ่อตาถือปืนไงเล่า
-ความรักไม่มีเหตุผล เธอเป็นคนอย่างไรฉันก็รัก
-ฉันเป็นคนพิการตาบอด มือหงิก เท้างอ จมูกโหว่ ฟันไม่มี ยิ้มแต่ละทีเหมือนผีหลอกจากโลงผุ กลิ่นเหม็นสาบเหม็นหืน เธอจะรักฉันไหม
-ความรักไม่มีเหตุผล เธอเป็นคนเดียวที่ฉันหลงรัก
-โกหกแน่นอน เพราะเมื่อวานฉันเห็นเธอควงสาวผมยาวไปช็อบปิ้งที่ห้างมาบุญครองอยู่เลย
-เธอคือส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน ไม่มีเธอฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
-เธอคิดมากไปเอง ฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอแน่นอน เพราะเธอเป็นผู้ชายส่วนฉันเป็นผู้หญิง เมื่อก่อนเธอเคยอยู่อย่างไรต่อไปก็อยู่อย่างนั้นแหละ
-คิดถึงกันบ้างเพื่อรักษาสายใยแห่งรักให้คงอยู่
-เธอมีอะไรให้ฉันคิดถึงเหรอ
-กอดกันบ้างเพื่อรักษาความรักให้อบอุ่น
-ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้จ้า
-นวดให้กันบ้างเพื่อรักษาความรักให้แนบแน่น
-ฉันไม่ใช่หมอนวดจ้า
-คุยกันบ้างเพื่อรักษาความรักให้ยืนยาว
-เธอคุยมาสิฉันจะได้คุยไป
-คิดถึงและห่วงใยกันบ้างเพื่อให้ความรักเป็นนิรันดร์
-คิดถึงและความห่วงใยกันบ้าง คงไม่เพียงพอที่จะทำให้ความรักเป็นนิรันดร์ เพราะความรักเป็นนิรันดร์หมายถึงความรักเรื่อยไปไม่มีวันสิ้นสุด ที่ถูกจึงน่าจะเป็นว่าคิดถึงและห่วงใยกันตลอดเวลาจึงจะทำให้ความรักเป็นนิรันดร์
-ถึงตัวจะอยู่แสนไกล แต่ไม่รู้สึกเหงาเท่าใจอยู่ห่าง
-เป็นความจริงแท้แน่นอนครับพี่น้องครับ
-คิดถึงเธอครั้งใดทำให้ใจของฉันอบอุ่นและเป็นสุข
-ถ้าอากาศหนาวคิดถึงหนึ่งครั้งหรือหลายครั้งก็คงไม่ทำให้ใจอบอุ่นและเป็นสุขได้ ต้องห่มผ้าคิดถึงจึงจะอบอุ่นและเป็นสุข ถ้าไปยืนตากแดดคิดถึงจะทำให้ใจเร่าร้อนและเป็นทุกข์แน่นอน
-ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้ เพราะเธอคือส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
-เป็นความจริงแท้แน่นอน เพราะขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก
-ฉันรู้สึกอบอุ่น มีความหวังและเป็นสุขเมื่อเธอผ่านเข้ามาในชีวิตของฉัน
-จงจำไว้ให้ขึ้นใจว่า ฉันคือคนสำคัญที่สุดของเธอ
-แม้ความรักของฉันที่มีต่อเธอจะเป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึก แต่มันฝังลึกจนเป็นเนื้อเดียวกันกับหัวใจของฉันจนยากที่จะแยกออกจากกันได้
-ก็ให้มันฝังอยู่อย่างนั่นแหละ อย่าไปแกะมันออกเดี๋ยวเลือดไหล
-แม้วันนี้ทั้งวันฉันไม่ได้พบเธอ แต่ฉันก็รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขเมื่อคิดถึง
-คุณเห็นหรือยังว่าฉันสำคัญต่อหัวใจคุณแค่ไหน เพียงแค่คิดถึงฉันคุณก็มีความสุขแล้ว คิดดูให้ดีถ้าคุณได้กอดฉันคุณจะมีความสุขขนาดไหน รีบไปขอฉันแต่งงานด่วน ค่าสินสอดฉันแค่เลขเจ็ดหลักเอง
-ความคิดถึงห่วงหาอาทรเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ความรักงอกเงยและงดงาม
-ส่วนประกอบที่ทำให้ความรักงอกเงยและงดงามมีมากกว่านั้นครับ
-ถ้าโลกนี้ยังกลมสายลมยังพัด ฉันยังยืนหยัดที่จะรักเธอตลอดไป
-คุณต้องได้ยืนหยัดรักเธอตลอดไปแน่ เพราะโลกยังกลมและสายลมยังพัดอยู่ตลอดเวลา
-ฉันรู้สึกเสียใจมากกับความสูญเสียที่เธอได้รับ แต่ฉันก็ไม่มีอะไรจะชดเชยให้นอกจากความรักความคึดถึงที่มีให้ไม่เคยเปลี่ยน
-ขอเปลี่ยนความรักและความคิดถึงเป็นตังค์กินหนมสักร้อยสองร้อยสิ
-ถึงตัวจะอยู่แสนไกล แต่ไม่เหงาเมื่อใจเราอยู่ชิดใกล้
-มันจะเหงาไปได้อย่างไร ข้างกายมีแต่สาวสวยใสวัยละอ่อนออดอ้อนออเซาะ
-ถ้าย้อนอดีตได้ ฉันจะรักหวงแหนและไม่ยอมให้เธอไปจากฉัน
-ถีบส่งละไม่ว่า พอหมดท่าทำเป็นพูดดี
-ถ้ารู้อนาคตว่าจะได้พบเธอที่นี่ แม้ความหวังริบหรี่ฉันก็จะรอ
-ไม่ต้องรอ ฉันมีแฟนแล้ว
-เธอคือคนที่ฉันรักและรอคอยมาตลอดชีวิต
-ทำไมไม่โทร.บอกฉันก่อนจะได้รีบมา
-ฟ้าลิขิตให้ฉันรักเธอ แต่ฟ้าก็พรากเธอไปจากฉัน
-โทษฟ้าทำไม ชีวิตเราเราลิขิต
-ฟ้าลิขิตให้ฉันรักเธอ แต่ทำไมฟ้าจึงลิขิตให้เธอรักคนอื่น
-ไม่ใช่ฟ้าลิขิตแน่นอน ก็เธอไม่เคยบอกว่ารักฉัน ฉันก็เลยรักคนที่บอกรักฉันก่อนไง
-ฟ้าลิขิตให้เรารักกัน แต่ทำไมฟ้าจึงลิขิตให้เราแยกทางกัน
-ความจำเธอเลอะเลือนไปแล้ว ความจริงฟ้าไม่ได้ลิขิตให้เรารักกัน แต่เราเองต่างหากที่หลงรักกันแล้วเธอก็ไปจากฉัน
-อกหักดีกว่ารักไม่เป็น
-ถ้ารักเป็นก็คงไม่อกหัก