พิธียกเสาเอกเป็นพิธีพราหมณ์ แต่ในภาคอีสานพราหมณ์หายากมาก พ่อครูเองก็ยังไม่เคยเห็นพราหมณ์ตัวจริงเสียงจริงแม้แต่ครั้งเดียว เคยเห็นแต่ในภาพยนตร์และชาวบ้านธรรมดารวมทั้งพ่อครูเองที่เคยสมมุติตนเองว่าเป็นพราหมณ์เพื่อทำพิธีเป็นครั้งคราว ผู้ที่ประสงค์จะทำพิธีพราหมณ์ในเรื่องต่าง ๆ มักจะเชิญผู้อาวุโสในคุ้ม ชุมชน หมู่บ้าน ที่เคยบวชเรียนและมีความรู้ความสามารถด้านพิธีพราหมณ์ที่ตัวเองเคารพนับถือให้สมมุตินามตามเรื่องราวว่าเป็นพราหมณ์มาช่วยทำพิธีให้
ถาม…จะทำพิธียกเสาเอกวันเวลาไหนดี?
ตอบ…พระพุทธเจ้าตรัสว่า วันเวลาใดที่เราทำความดีย่อมดี วันใดเวลาใดเราทำความชั่วย่อมชั่ว เช่นเราทำความชั่วด้วยการเตะเมียในวันเวลาที่ฤกษ์งามยามดีเพียงใดเมียย่อมโกรธเกลียดเคียดแค้นเรา ทิ้งเราไปเป็นธรรมดา แต่ถ้าเราทำความดีด้วยการนวดหลังนวดไหล่ให้เมียแม้ในวันเวลาที่ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเพียงใด เมียก็จะรักเรามากขึ้นและดูแลเราอย่างดี ดังนั้นเราควรเลือกทำพิธียกเสาเอกในวันเวลาที่เราพร้อม กล่าวคือพร้อมวันไหนทำวันนั้น
ถาม…ไม่ทำพิธียกเสาเอกเลยจะดีไหม?
ตอบ…ดีเพราะประหยัดเงินประหยัดเวลา และไม่วุ่นวาย ฝรั่งสร้างบ้านไม่เคยยกเสาเอก แต่บ้านฝรั่งก็อยู่เย็นเป็นสุขไม่แพ้บ้านคนไทย
ถาม…ทำพิธียกเสาเอกดีไหม?
ตอบ…ดีเหมือนกันเพราะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
พิธียกเสาเอกในการสร้างบ้านของชาวอีสานมี 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
ก่อนเริ่มพิธี พราหมณ์สั่งให้ดับเครื่องยนต์ และให้ทุกคนตั้งอยู่ในความสงบ
เจ้าของบ้านจัดเครื่องบูชาของกินของใช้สำหรับพระแม่ธรณีใส่ภาชนะ(ถาด)ให้ครบ 5 อย่างคือ
เจ้าของบ้านจัดแต่งขัน 5 ด้วยดอกไม้สีขาวและเทียนสีขาวอย่างละ 5 คู่พร้อมด้วยไม้ขีดไฟจำนวน 1 กล่อง
ผู้อาวุโสที่สมมุติตัวเองว่าเป็นพราหมณ์แต่งตัวเรียบร้อยใส่เสื้อเชิตสีขาวแขนยาวเอาผ้าสีขาวพาดบ่าข้างซ้ายมือถือขัน 5 ..ผู้มาร่วมพิธีถือสิ่งของเครื่องบูชาอย่างอื่นที่เหลือเดินตามหลังพราหมณ์จนถึงที่ทำพิธี
พราหมณ์นั่งคุกเข่าลง ผู้ร่วมพิธีนั่งคุกเข่าตาม พราหมณ์จุดเทียน 2 เล่มตั้งไว้บนขัน 5 สองมือยกขัน 5 ขึ้นประมาณหน้าอก กล่าวคำอัญเชิญย้ายพระแม่ธรณีดังนี้…..
ข้าแต่พระแม่ธรณีเจ้า ผู้ผมยาวลากส่นนอง
ผู้สถิตย์อยู่แห่งห่อง ใต้แผ่นพื้นพสุธา
มื้อนี้โตผู้ข่า มาบอกกล่าวอัญเชิญ
บ่ล่วงเกินพอเม็ด ลูกเฮ็ดนำฮีตคองเค้า
ลูกยกเอาขันห่า ขอขมาคุณแม่
ผู้ดูแลที่หม่องนี้ ลูกขอซ่นพักเซา
ขอให่พระแม่เจ้า ธรณีผู้ยิ่งใหญ่
ผู้ค้ำดินให่ลูกได้ อาศัยซ่นซุ่มเย็น
ลูกจำเป็นสิก่อสร้าง เฮือนซานบ้านที่อยู่
ขอคุณแม่ยับย้ายให่ ไปเนาว์ยั้งอยู่ห่างกัน
ลูกขอมอบขันห่า บูชาแม่ผู้มีคุณ
โปรดการุณรับขัน ลูกกราบกรานวอนไหว้แนถ่อน..แม่เอย
หรือกล่าวบทกลอนที่พ่อครูปรับเขียนใหม่ต่อไปนี้…
……………………
กลอนที่ 1
…………………..
ลูกขอ-นบ-นอบไหว่ พระแม่เจ้าธรณี
ผู้ที่มีฤทธา แบกโลกาไว้
ลูกนำขันดอกไม้ มาบูชาคุณแม่
ผู้ดูแลลูกหลานให่ ได้หายฮ้อนซุ่มเย็น
บัดนี้…ลูกจำเป็นสิก่อสร่าง เฮือนชานบ้านที่อยู่
สิขุดคูสร้างบ้าน อยู่หม่องนี้ตลอดไป
ลูกหลานย้านแม่ฮ้าย ย้านเป็นบาปเป็นกรรม
จึงนำขันดอกไม้มา เพื่อบูชาวอนเว้า
ขอแม่เฮาขะยับให่ ย้ายไปอยู่หม่องใหม่
ย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ พอได้เอิ้นใส่กัน
ความสัมพันธ์ให่ยืนหมั่น ฮักแพงกันคือเก่า
จนฮอดแก่ฮอดเถ่า ฮอดซั่วลูกหลานเหลน เด้อแม่เด้อ
เชิญรับขันข้าน้อย
หรือ
……………………
กลอนที่ 2
………………….
ลูกขอ-นบ-นอบไหว่ พระแม่เจ้าธรณี
ผู้มีมวยผมยาว เป็นสาวงามอยู่ใต้หล้า
ทรงฤทธาใหญ่ยิ่ง แบกโลกเฮาไว้เทิงบ่า
ลูกยอยกขันห่า มาวอนเว้ากล่าวขอ
บัดนี้นอ…ลูกหลานสิก่อสร่าง ห้องแถวให่คนเช่า
สิเอาที่หม่องนี้ มาแปงส่างสืบไป
ลูกหลานย้านแม่ฮ้าย ย้านเป็นบาปเป็นกรรม
จึงนำขันดอกไม้มา เพื่อบูชาวอนเว้า
ขอแม่เฮาขะยับให่ ย้ายไปอยู่หม่องใหม่
ย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ พอให้ลูกได้เพิงพา
มีปัญหาแม่ซอยแก้ คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ
บ่ปล่อยวางลูกหลานไว้ จนไห่ฮ้องก่องน้ำตา
ลูกนำเอาขันห้า มาวันทาถวายแม่
ด้วยศรัทธาฮักแท้ เชิญพระแม่ธรณีเจ้าฮับขัน แม่เอย
เชิญรับขันข้าน้อย
กล่าวจบหยิบเอาดิน 5 หยิบใส่ลงในจาน นำเครื่องบูชาทั้งหมดไปวางในที่คนไม่เหยียบย่ำ เสร็จพิธียกเสาเอกจึงไปนำเอาเครื่องบูชาส่วนที่เป็นของใช้เช่นจานมาเก็บไว้ แต่ถ้าเป็นบายศรีปากชามก็ทิ้งไว้ที่เดิม นำส่วนที่เป็นอาหารมาแบ่งกันกินหรือเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหมูหมากาไก่เพราะถือพระแม่ท่านกินแล้ว เราก็รับเศษอาหารที่เหลือ ทิ้งส่วนที่เป็นของบูชาคือดอกไม้ธูปเทียนไว้ที่เดิม
เจ้าของบ้านจัดหาสิ่งของต่อไปนี้ให้ครบ 14 อย่างได้แก่ 1. กล้วยน้ำว้า 1 ลูก 2. มะพร้าวอ่อน 1 ลูก 3. หวี 1 เล่ม 4. บายศรีปากชาม(ขันหมากเบ็ง) 1 คู่ 5. ข้าวต้มมัด 1 มัด (ใช้ขนมแทนก็ได้) 6. ผ้าแดงลงยันต์ผูกปลายเสา 1 ผืน 7. ต้นอ้อย 1 ต้น 8. ต้นกล้วย 1 ต้น 9. ดอกไม้ธูปเทียน 5 คู่ 10. ไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้าน 5 คู่ (ถ้าไม่มีใช้ใบมะยม ใบคูณ ใบยอแทนก็ได้) 11. ผ้าว(อัก) 1 อัน 12. ฝ้ายสำหรับผูกไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้านติดกับผ้าว(อัก) 1-2 ไน 13. ฝ้ายสำหรับผูกผ้าแดงลงยันต์ที่ปลายเสา 1-2 ไน 14. ผ้าขาวม้าสำหรับผูกผ้าว(อัก)ติดกับเสาแฮก 1 ผืน
พราหมณ์…..ถือผ้าว(อัก)แปะลงที่ต้นเสาแฮก(เสาแรก) พร้อมตั้งคำถามให้เจ้าของบ้านและผู้มาร่วมพิธีตอบพร้อมกัน แปะเลื่อนขึ้นตามลำดับคำถามคำตอบจำนวน 3 คำถามคำตอบดังนี้
พราหมณ์…เอาบ่อนจุ๊กุ๊หมูสีนี่บ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…เอาบ่อนจิ๊กิ๊หางนาคนี่บ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…เอาบ่อนง่าไม้ตากห้อยถุงเงินถุงคำนี่บ่
ผู้ร่วมพิธี…เออเอาหม่องนี่ละ
พราหมณ์…..รีบเอาผ้าขาวม้าผูกผ้าว(อัก)และไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้าน ตรงที่เจ้าของบ้านและผู้ร่วมพิธีตอบว่า…เออเอาหม่องนี่ละ ที่เสาแฮกทันที และเอาฝ้ายผูกผ้ายันต์แดงไว้ที่ปลายเสา แล้วยกเสาแฮก(เสาแรก)ขึ้นตั้ง แต่ถ้าใช้รถช่วยยกเสาให้ชะลอการยกเสาแฮกไว้ก่อนจนกว่าจะทำพิธีเสาเอกเสร็จจึงให้รถยกติดเครื่องเพื่อยกเสาแฮก และยกเสาเอกตามลำดับ มิฉะนั้นเสียงรถจะดังกลบเสียงการทำพิธีจนฟังไม่รู้เรื่อง
ถาม…ทำไมจึงยกเสาแฮกขึ้นก่อนเสาเอก?
ตอบ…เพราะเสาแฮกหรือเสาแรกเป็นเสาเบิกทาง เปรียบเสมือนทหารเอก หรือทหารแนวหน้า เมื่อไปรบทัพจับศึกจะต้องออกรบนำหน้าก่อนเสมอ ส่วนเสาเอกเปรียบเสมือนจอมทัพหรือแม่ทัพจะต้องวางแผนการรบและเป็นขวัญกำลังใจของทหารทั้งกองทัพ จึงจัดให้เสาแฮกขึ้นเคลียพื้นที่ก่อน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงยกเสาเอกตามขึ้นไปเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เสาต้นอื่น ๆ ที่ทยอยยกขึ้นตามเสาเอก ซึ่งจะทำให้ฐานของบ้านมั่นคงแข็งแรง เกิดสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย
เจ้าของบ้านจัดหาสิ่งของต่อไปนี้ให้ครบ 5 อย่างได้แก่ 1. ไซ 1 ลูก 2. ไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้าน(เอาก้าน +ใบก็ได้) 5 คู่ (ถ้าไม่มีใช้ใบมะยม ใบคูณ ใบยอแทนก็ได้) 3. ฝ้ายผูกไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้านติดกับไซ 1-2 ไน 4. ผ้าขาวม้าสำหรับผูกไซติดกับเสาเอก 1 ผืน 5. เครื่องค้ำของคูณที่เจ้าของบ้านมีเช่น พระเครื่อง เขี้ยวหมูตัน ตระกรุด คุดเขา นอ งา ปลัดขิก เป็นต้น ใส่ลงในไซ ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมดไม่มีซักอย่างก็หย่อนเงินเหรียญสลึง เหรียญบาทใส่ลงไปก็ได้ แต่ไม่ควรใส่ สร้อย แหวน เงิน ทอง หรือของมีค่า อื่นใดลงในไซ เพราะมักจะถูกขโมยลักไปจะเอาควายไหนไถนาทุกที
(ผู้ร่วมพิธีเดินตามหลังพราหมณ์จนถีงเสาเอกที่วางอยู่)
พราหมณ์ …ถือไซวางแปะไซลงที่ต้นเสาพร้อมตั้งคำถามให้เจ้าของบ้านและผู้มาร่วมพิธีตอบ แปะไซเลื่อนขึ้นตามลำดับคำถามคำตอบจนถึงปลายเสาจำนวน 5 คำถามคำตอบดังนี้
พราหมณ์…ูผูกหม่องนี้ได้ไก่แม่ลาย เอาบ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…ผูกหม่องนี้ได้แม่ควายแถมน้อง เอาบ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…ผูกหม่องนี้ได้ฆ้องเก้ากำเอาบ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…ผูกหม่องนี้ได้คำเก้าปุ่ม เอาบ่
ผู้ร่วมพิธี…บ่เอา
พราหมณ์…ผูกหม่องนี้อยู่ซุ่มกินเย็น เอาบ่
ผู้ร่วมพิธี…เอาหม่องนี่ละ
พราหมณ์…..รีบเอาฝ้ายและผ้าขาวม้าผูกไซ และไม้พญาวันหรือไม้ประจำวันเกิดเจ้าของบ้านไว้บนเสาตรงที่เจ้าของบ้านตอบว่า… เอาหม่องนี่ละ
เจ้าของบ้าน……รีบจุดธูป 1 ดอกบูชาพระภูมิเจ้าที่ บอกกล่าวขอที่ทางอยู่อาศัย ขอให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย อยู่เย็นเป็นสุข การงานก้าวหน้า ค้าขายกำไรงาม ประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
หรือกล่าวเป็นผญาดังนี้…
ลูกขอกราบคาระวะ ท่านพระภูมิเจ้าที่
ผู้สถิตย์อยู่หม่องนี้ ลูกขอซ่นอยู่อาศัย
โปรดเมตตาปัดเป่าให่ โพยภัยหนีไกลห่าง
ทางชีวิตข่างหน่า พารวยล้นเป็นเศรษฐี แนถ่อน
ขณะช่างยกเสาเอกขึ้น……..พราหมณ์เอามือป้องปากโห่นำเพื่อเอาชัยสามลา ถ้าพรามณ์ไม่โห่ให้เจ้าของบ้านโห่ก็ได้ หรือถ้าเจ้าของบ้านไม่อยากโห่ก็ให้ผู้มาร่วมพิธีคนใดคนหนึ่งโห่แทนก็ได้ ผู้มาร่วมพิธีทุกคนส่งเสียง ฮี้ว รับทุกครั้ง เมื่อเสาเอกตั้งตรงแล้วให้ร้องไชยโย พร้อมกันสามครั้ง
เมื่อยกเสาเอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว พราหมณ์จะทำหน้าที่แบ่งของดังนี้
จบบริบูรณ์
2 Comments
การตั้งพิธีตั้งเสาเอกเสาโท
[…] วิทิต ไชยวงศ์คต. (2560). พิธียกเสาเอกในการสร้างบ้านของชาวไทยอีสาน. เข้าถึงเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564, http://www.porkru.com/2017/12/05/พิธียกเสาเอกของชาวไทยอ […]