ประเพณีการเจรจาทาบทามสู่ขอสาวแต่ละถิ่นแต่ละชนเผ่าอาจจะไม่เหมือนกัน ส่วนมากการเจรจาทาบทามสู่ขอสาวจะมีขึ้นหลังจากบ่าวสาวคบหาดูใจกันมานานพอสมควรจนทั้งสองฝ่ายแน่ใจว่าคนนี้แหละใช่ ฝ่ายสาวจึงจะนัดหมายให้ฝ่ายชายส่งผู้ใหญ่ไปเจรจาทาบทามสู่ขอ แต่เพื่อให้การเจรจาทาบทามสู่ขอสาวง่ายกระชับและตกลงกันได้ง่าย หนุ่มสาวควรปฏิบัติดังนี้
……………………………………………………………………………….
ตัวอย่างที่ 1
หนุ่มสาวยังไม่ตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้น
(งานยาก บางงานใช้เวลาในการเจรจาเกือบทั้งวัน เพราะพ่อแม่ฝ่ายสาวเรียกค่าสินสอดแพง แถมใจจืดใจดำไม่ยอมเสริบอะไรเลยแม้แต่น้ำเปล่า พ่อครูเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนไปขอสาวให้ครูหนุ่มในโรงเรียน เริ่มการเจรจาตั้งแต่ 9 โมงเช้า ตกลงกันได้ 4 โมงเย็น ทีมงานขอสาวทั้งเครียดทั้งเหนื่อยและทั้งหิวจนตาลาย)
………………………………………………………………………………
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : พวกท่านพากันมาบ้านนี้มีจุดประสงค์อันใดหรือ?
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : “ได้ยินมาว่า บ้านนี้มีลูกสาวสวยน่ารัก เป็นที่ถูกตาต้องใจของเจ้าหลานชายของพ่อที่ชื่อนายมหาหิงส์ นารีสนั่น มาก เขารบเร้าให้พามาสู่ขอลูกสาวของบ้านนี้ที่ชื่อนางสาวบุษบา บ่าวรุมจอง ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ฝ่ายหญิงยังไม่เห็นดีเห็นงามด้วยหรอกค่ะ เพราะตามประเพณีของเรานั้นถือว่า ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเสียและฝ่ายชายเป็นฝ่ายได้ เพราะฉะนั้นฝ่ายชายจะต้องจัดหาค่าสินสอดทองหมั้นมาให้แก่ฝ่ายหญิงตามประเพณีก่อน แต่กว่าหลานสาวเราจะเรียนจบและมีงานทำพ่อแม่ต้องเสียเงินเป็นล้าน ค่าสินสอดทองหมั้นต้องมาก ๆหน่อยจึงจะเหมาะสมค่ะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ทราบจากเจ้าหลานชายของเราว่ารักจริงหวังแต่งกับนางสาวบุษบา บ่าวรุมจอง ลูกสาวของท่านมานานพอสมควร ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นสักเท่าไรครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : เรายังไม่เคยเห็นลูกสาวของเราพาหลานชายของท่านมาให้ทางบ้านรู้จักแม้แต่ครั้งเดียว จึงไม่ค่อยไว้วางใจ เพื่อความปลอดภัยของลูกสาวเราขอเรียกค่าสินสอด 1,000,000 บาท ส่วนทองหมั้น 10 บาท ค่ะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : หลานชายของพ่อทำงานบริษัทยืนยังเซ มหาชนจำกัด ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ทราบว่าทั้งสองฝ่ายติดต่อคุยกันทางไลน์เป็นเวลานานพอสมควร และฝ่ายหญิงนัดหมายให้ฝ่ายชายมาเจรจาสู่ขอกับพ่อแม่ตามประเพณีในวันนี้ ฝ่ายชายรักจริงหวังแต่งแต่เงินน้อยจึงขอต่อรองเท่าที่มีโดยไม่ต้องไปกู้ยืมเงินมาแต่งคือ ค่าสินสอด 30,000 บาท ทองหมั้น 1 บาท ทางฝ่ายหญิงจะเห็นเป็นประการใดครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : โอ้ย ไม่ได้ดอกค่ะ เรามาดค่าลูกสาวคนนี้ไว้หนึ่งล้านบาท แต่ฝ่ายชายให้เราเพียง 3 หมื่นบาท ไม่รู้ว่ารักจริงหวังแต่งประสาอะไร แต่เอาเถอะเมื่อฝ่ายชายกล้าต่อรองฝ่ายหญิงก็กล้าลดให้ คือค่าสินสอดเหลือ 9 แสนบาท ทองหมั้นลดเหลือ 9 บาท
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ขอบคุณครับ แต่ว่าฝ่ายชายยังเอื้อมไม่ถึงอยู่ดี ฝ่ายชายรักจริงหวังแต่งอย่างแน่นอน ถ้าฝ่ายหญิงลดให้ ฝ่ายชายขึ้นให้ อีกไม่นานก็คงจะพอดีตกลงกันได้ จึงขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีก 1 หมื่นบาทเป็น 4 หมื่นบาท ส่วนทองหมั้นยังคง 1 บาทเท่าเดิม
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ไม่ได้ดอกค่ะ สมัยนี้เงินทองมีค่าน้อย เงิน 1 ร้อยบาทไปตลาดซื้อของได้นิดเดียว ถ้ารักจริงหวังแต่งก็ควรให้ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายหญิงมาดค่าไว้หน่อยสิคะ แต่เอาเถอะฝ่ายหญิงลดให้อีกก็ได้ คือลดค่าสินสอดเหลือ 8 แสนบาท ส่วนทองหมั้นลดเหลือ 8 บาท
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : เงินทองมีค่าน้อยก็จริง แต่หายากเหลือเกิน เจ้าหลานชายทำงานโรงงานเงินเดือน 1 หมื่น 5 พันบาท เหลือเก็บเดือนละ 5 ร้อยบาท 1 ปีมีเงินฝาก 6 พันบาท 5 ปีเก็บเงินได้เพียง 3 หมื่นบาทเท่านั้น ถ้ารอให้เก็บเงินได้มากเท่าที่ฝ่ายหญิงต้องการ ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้แต่งงาน ฝ่ายชายเงินน้อยแต่มากด้วยความรักความจริงใจที่จะดูแลรับผิดชอบฝ่ายหญิงไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน ฝ่ายชายจึงขอเพิ่มค่าสินสินสอดอีก 1 หมื่นเป็น 5 หมื่นบาท ส่วนทองหมั้น 1 บาทเท่าเดิม ฝ่ายหญิงตกลงไหมครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : โบราณว่า ค่าสินสอดแพงงานแต่งหรูหรา ค่าสินสอดถูกเงินไม่พอจ่ายค่าอาหารเลี้ยงแขก แต่เอาเถอะเราลดให้ก็ได้ว่า ค่าสินสอดลดเหลือ 7 แสนบาท ทองหมั้นลดเหลือ 7 บาท ฝ่ายหญิงใจใหญ่ลดให้ทีละเป็นแสน แต่ฝ่ายชายใจน้อยเพิ่มให้ทีละหมื่น อีกเมื่อไหร่จะถึงพอดีกันละคะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : จัดงานใหญ่เจ้าภาพได้หน้าพ่อค้าได้เงิน เงินค่าสินสอด 7 แสนบาท ทองหมั้น 7 บาท แพงเกินเอื้อมครับ ฝ่ายชายเงินน้อยแต่จะเพิ่มค่าสินสอดให้อีก 1 หมื่นเป็น 6 หมื่น ส่วนทองหมั้น 1 บาทเท่าเดิมครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : เราหยุดพักการเจรจาก่อนดีไหมคะ เพราะเราเห็นต่างกันในเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นที่ห่างไกลกันมากเกินไป ฝ่ายหญิงมาดค่าลูกสาวไว้หนึ่งล้านบาท ลดลงมาเหลือ 7 แสนบาท แต่ฝ่ายชายเพิ่มให้ทีละ 1 หมื่นเป็น 6 หมื่น ส่วนทองหมั้น 1 บาทไม่เพิ่มเลย
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ฝ่ายชายไม่เห็นดีด้วยที่จะพักการเจรจา เพราะความเห็นต่างในเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นซึ่งเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเราร่วมกันพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ไม่นานก็จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง ฝ่ายชายขอเพิ่มค่าสินสอดในรอบนี้ 1 หมื่นบาท เป็น 7 หมื่นบาท ส่วนทองหมั้น 1 บาทเท่าเดิม ฝ่ายหญิงลดได้อีกเท่าไหร่
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ฝ่ายหญิงก็อยากจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงอย่างที่ฝ่ายชายว่าเหมือนกัน จึงยินดีลดเงินค่าสินสอดลงอีกเป็น 6 แสนบาท ทองหมั้น 6 บาท
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ขอบคุณที่มีไมตรีให้ ฝ่ายหญิงลดให้ ฝ่ายชายเพิ่มให้ อีกไม่นานก็คงพอดีกัน แต่เงินค่าสินสอด 6 แสนบาท ทองหมั้น 6 บาท สำหรับฝ่ายชายมันมากมายจนสุดจะเอื้อมถึง ฝ่ายชายก็สู้ขาดใจ ถึงที่สุดอาจจำเป็นต้องขายนาและกู้เงินดอกเบี้ยมหาโหดมาแต่งก็ต้องยอม จึงขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีก 1 หมื่นบาทเป็น 8 หมื่นบาท และเพิ่มทองหมั้น 50 สตางค์เป็นทองหมั้น 6 สลึง
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ถ้าฝ่ายชายกู้เงินดอกเบี้ยมหาโหดมาแต่ง ฝ่ายหญิงก็ไม่กล้ารับเพราะมันจะเป็นภาระของคู่สมรสที่จะต้องวิ่งเต้นหากู้ยืมเงินมาชดใช้หลังงานแต่งและอาจเป็นภาระไปถึงลูกหลานในวันหน้า จึงขอลดให้อีกเป็นครั้งสุดท้ายว่า เงินค่าสินสอดลดเหลือ 2 แสนบาท ส่วนทองหมั้นก็ลดเหลือ 2 บาท ห้ามต่อรองอีก
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ฝ่ายหญิงห้ามต่อรองอีกฝ่ายชายก็น้อมรับ แต่ฝ่ายชายจะขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีกเป็น 9 หมื่นบาท ทองหมั้นหกสลึงเท่าเดิม ฝ่ายหญิงตกลงเถอะนะครับ ฝ่ายชายหิวข้าวแล้ว
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ประเพณีของชนเผ่าเราว่า การเจรจาสู่ขอสาวไม่สำเร็จ ห้าม เสริบอาหาร ฝ่ายชายหิวฝ่ายหญิงก็หิวเหมือนกัน .. นังหนูไปหาน้ำมาเสริบพ่อใหญ่หน่อยซิจะได้สดชื่นสมองปลอดโปร่งมีเรี่ยวมีแรงในการเจรจา ว่าไปถึงไหนแล้ว เออ เงินค่าสินสอด 9 หมื่นบาท เราก็อยากจะรับแต่ตำแหน่งเลขหน้าไม่สวยเลย จึงขอเพิ่มเงินค่าสินสอดอีก 1 หมื่นบาท เป็นค่าสินสอด 1 แสนบาท และขอทองหมั้นให้หลานสาว 2 บาท เราจะไม่ลดไปกว่านี้อีกแล้ว
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ตกลงตามที่ฝ่ายหญิงต้องการครับ คือเงินค่าสินสอด 1 แสนบาท ทองหมั้น 2 บาท ส่วนวันเวลาและสถานที่จัดงานค่าจัดเลี้ยงให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด เมื่อถึงวันงานฝ่ายชายจะยกขบวนขันหมากและค่าสินสอด 1 แสนบาท กับทองหมั้น 2 บาทมามอบให้ฝ่ายหญิงและร่วมพิธีมงคลสมรสกับนางสาวบุษบา บ่าวรุมจอง ห้ามเปลี่ยนตัวเจ้าสาวนะครับ ดังนั้นเมื่อฝ่ายหญิงหาฤกษ์งามยามดีได้แล้วขอให้ส่งข่าว ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงมีอะไรที่อยากเพิ่มเติมอีกไหมครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ดิฉันรู้สึกดีใจมากที่การเจรจาต่อรองค่าสินสอดทองหมั้นครั้งนี้ตกลงกันได้ด้วยดีที่ เงินค่าสินสอด 1 แสนบาท และทองหมั้น 2 บาท ฝ่ายหญิงขอให้คำมั่นสัญญาว่า
…………………………………………………………………………………………………………….
ตัวอย่างที่ 2
หนุ่มสาวตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นและงานแต่งเรียบร้อยแล้ว
(งานง่ายขอแล้วเข้าพิธีแต่งงานเลย)
…………………………………………………………………………………………………………
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : พวกท่านยกขบวนกันมาบ้านนี้มีจุดประสงค์อันใดหรือ?
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ได้ยินมาว่า บ้านนี้มีลูกสาวสวย ยังเป็นโสด มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นแม่ศรีเรือน ประกอบกับปีนี้หลานชายของพ่อที่ชื่อเรือโทเข้ม นารีจอง อายุได้ 27 ปี มีหน้าที่การงานมั่นคง มีความพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้แล้ว
ทราบจากผู้เป็นพ่อแม่ของเรือโทเข้มว่า เขารักและชอบพอกับ ลูกสาวของบ้านนี้ที่ชื่อนางสาวอรชร สวยบาดตา ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมานานหลายปี กระผมในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายชาย เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ทั้งสองจะครองคู่อยู่ด้วยกันได้แล้ว จึงยกขบวนขันหมากมาทาบทามสู่ขอนางสาวอรชร สวยบาดตา ตามประเพณี เพื่อให้ทั้งคู่ได้แต่งงานครองรักครองเรือนสมปรารถนา และร่วมกันสร้างฐานะครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงต่อไป พวกเราซึ่งเป็นญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายก็จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน หรือเป็นดองกัน ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : หากผู้ใหญ่ฝ่ายชายเห็นสมควร ดิฉันก็คงไม่ขัดข้องแต่ประการใด และยินดียกลูกสาวให้แต่งงานกับหลานชายของท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ แต่ตามประเพณีของไทยเรานั้น ฝ่ายชายจะต้องจัดหาค่าสินสอดทองหมั้น ค่าจัดงานแต่งงาน และหนดวัน เวลา สถานที่จัดงานที่เห็นดีเห็นงามด้วยกันทั้งสองฝ่ายก่อนนะคะ จึงอยากให้ฝ่ายเจ้าบ่าวเสนอมาก่อน เราจะพิจารณาร่วมกันค่ะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : เรามาพิจารณาตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้นก่อนนะครับ เจ้าหลานชายบอกว่ารักฝ่ายหญิงมากสุดชีวิตแต่มีเงินน้อยนิดเดียว จึงอยากจะทราบว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงมาดค่าสินสอดลูกสาวคนนี้ไว้เท่าไร ถ้ามากไปก็จะได้ต่อ ถ้าน้อยไปกะจะได้เพิ่ม
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : สมัยนี้เงินทองมีค่าน้อย เงินร้อยบาทไปตลาดซื้อของได้ไม่พอกิน ยิ่งงานแต่งงานต้องเชิญเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาร่วมงานเยอะ ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินก็แยะ เพราะต้องจัดเลี้ยงตามประเพณีที่บ้านในตอนเช้า และจัดเลี้ยงโต๊ะจีนในตอนกลางคืนอีกด้วย จึงมีข้อเสนอฝ่ายชาย 2 ข้อคือ
2. ถ้าให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดขอเรียก 300,000 บาทขาดตัว ส่วนทองหมั้นเพื่อประกันความมั่นคงของลูกสาว ขอเรียก 2 บาทเท่าเดิม ราคานี้ห้ามต่อแต่เติมได้เช่นเดียวกันค่ะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย….สมัยนี้เงินค่าสินสอดทองหมั้น ค่าจัดงาน กำหนดวันเวลาและสถานที่จัดงาน มักเป็นเรื่องที่หนุ่มสาวเขาตกลงกันเองทั้งสิ้น เพราะพวกเขาเป็นผู้ทำงานหาเงินทองมาแต่งกันเอง ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมักเป็นเพียงสักขีพยาน ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมแสดงความยินดีและผู้ร่วมอวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการครองรักครองเรือนเท่านั้น
ก่อนจะยกขบวนขันหมากออกจากบ้านมา เจ้าหลานชายมากระซิบกระซาบว่า เขาได้ตกลงกับว่าที่เจ้าสาวของเขาแล้วว่า เงินค่าสินสอด 30,000 บาท ทองหมั้น 3 บาท ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมด ฝ่ายชายเป็นคนจ่าย ไม่ทราบว่าคุณแม่ฝ่ายหญิงจะเห็นดีเห็นงามกับข้อตกลงของหนุ่มสาวทั้งสองหรือไม่ประการใดครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง….ดิฉันก็ได้ทราบเรื่องนี้จากลูกสาวแล้วเหมือนกัน ที่ดิฉันมาดค่าลูกสาวเท่านั้นเท่านี้ มีข้อ 1 ข้อ 2 ให้ฝ่ายชายได้เจรจาต่อรองก็เพียงเพื่อลองใจฝ่ายชายว่ารักและจริงใจต่อลูกสาวของดิฉันมากแค่ไหน เมื่อได้เห็นความตั้งใจของว่าที่ลูกเขยและญาติพี่น้องฝ่ายว่าที่ลูกเขยแล้ว ผู้เป็นแม่อย่างดิฉันจึงรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่จะได้ลูกเขยที่เป็นคนดีมาดูแลรับผิดชอบลูกสาวของดิฉัน ส่วนค่าสินสอดทองหมั้นดิฉันขอเท่าที่มีและน้ำใจที่จะให้ค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายที่ท่านนายพลคุณพ่อของลูกสาวของดิฉัน ท่านเสียก่อนที่จะได้เห็นและชื่นชมลูกสาวของเราได้แต่งงานกับคนดีที่เธอรัก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือเรือโทเข้ม นายทหารหนุ่มคนที่พ่อเคยเอ็นดูรักใคร่และอยากได้เป็นลูกเขยนั้นเอง ส่วนวันเวลาและสถานที่จัดงานพวกเขาก็ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเช่นกัน คือแต่งวันนี้และเวลาต่อจากนี้ ส่วนเวลากลางคืนจัดเลี้ยงที่สโมสรทหารเรือค่ะ สรุปคือ ดิฉันเห็นดีเห็นงามกับลูกสาวและว่าที่ลูกเขยของดิฉันทุกประการ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย…ตามประเพณีของไทยเรานั้น เมื่อการเจรจาสู่ขอสาวสำเร็จ ฝ่ายเจ้าสาวจะต้องเลี้ยงฉลอง ไม่ทราบว่าฝ่ายเจ้าสาวได้เตรียมข้าวปลาอาหารรวมทั้งเหล้ายาปลาปิ้งไว้พร้อมที่จะเลี้ยงฉลองหรือยัง ฝ่ายเจ้าบ่าวหิวข้าวแล้วครับ
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง…ดิฉันทราบค่ะ แต่ให้ใจเย็น ๆ ทนหิวอีกนิดนะคะ เพราะเรายังมีพิธีหมั้นและพิธีสู่ขวัญคู่บ่าวสาวขวางกั้นอยู่ค่ะ ดิฉันจึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่คู่บ่าวสาวก่อนนะคะ ทนหิวอีกนิดค่ะ เรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมพิธีค่ะ
(เสร็จพิธี)
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง….วันนี้ทางฝ่ายเราได้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ต้อนรับทุกท่านอย่างเต็มที่ค่ะ ขบวนขันหมากฝ่ายชายอยู่ร่วมงานกันทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืนนะคะ บางทีงานแต่งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่งานแรก เพราะอาจจะมีงานแต่งระหว่างเราอีกหลายงาน เนื่องจากหนุ่มสาวทั้งสองฝ่ายที่เป็นโสดยังมีอีกตั้งหลายสิบคนค่ะ อาจจะมีที่ถูกตาต้องใจกันหลายคู่ก็ได้ เรียนเชิญทุกท่านหาที่นั่งเหมาะ ๆ รอรับเสริบอาหารอย่างเดียวค่ะ
……………………………………………………………………………….
ตัวอย่างที่ 3
หนุ่มสาวตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้นแล้ว
(งานง่าย ได้กินอาหารไว)
…………………………………………………………………………………..
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : พวกท่านพากันมาบ้านเรามีจุดประสงค์อันใดหรือ?
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : มาขอลูกสาวของคนบ้านนี้ไปเป็นลูกสะใภ้ตามที่หนุ่มสาวเขานัดหมายกันไว้แล้ว ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ทางเราไม่ขัดข้อง ปลูกเรือนก็ต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ก็ต้องตามใจผู้นอน
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นสักเท่าไร
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : เอาตามที่หนุ่มสาวเขาตกลงกันไว้นั่นแหละเพราะพวกเขาเป็นฝ่ายหาเงินหาทองมาแต่งกันเอง หลานสาวเราแจ้งว่า เงินค่าสินสอด 90,000 บาท ทองหมั้น 1 บาท ทางฝ่ายชายมีความเห็นเป็นประการใด จะต่อหรือจะตื่มดีคะ
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : ทางฝ่ายเราเห็นว่าที่หนุ่มสาวตกลงกันไว้นั้นอาจจะยังไม่เหมาะสมนัก พ่อแม่ฝ่ายชายเห็นว่าเงินค่าสินสอด 90,000 บาทนั้นเหมาะสมแล้ว แต่จะตื่มทองหมั้นให้ว่าที่ลูกสะใภ้อีก 1 บาทเป็น 2 บาท ทางฝ่ายนี้จะเห็นเป็นประการใด
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่มีน้ำใจให้ลูกสาวของเรา เนื่องจากงานแต่งจัดที่บ้านเจ้าสาว มีค่าใช้จ่ายเยอะอยู่ ไม่ทราบว่าฝ่ายชายจะมีความคิดเห็นเป็นประการใด
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : พ่อแม่ฝ่ายชายแจ้งว่า ยินดีช่วยค่าจัดงาน 20,000 บาท ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเห็นเป็นประการใด
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ขอขอบพระคุณที่มีน้ำใจช่วยค่าจัดงานตั้ง 20,000 บาท ฝ่ายหญิงจะจัดงานแต่งให้อย่างเหมาะสม ส่วนวันเวลาจัดงานแล้วแต่หนุ่มสาวเขาสะดวกวันไหนเพราะพวกเขายังทำงานทั้งคู่ พวกเขาว่าวันไหนเวลาใดงานแต่งจะเอาอย่างไรก็เอาตามนั้น ทางฝ่ายชายมีความเห็นเป็นประการใด
ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : รับทราบและยินดีทำตามที่ฝ่ายหญิงเสนอมาทุกประการ สรุปว่าการเจรจาสู่ขอสาวครั้งนี้สำเร็จแล้ว อีกไม่นานเราก็คงได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ที่สำคัญหลานชายของเรากับหลานสาวของท่านจะได้แต่งงานกัน ได้เริ่มต้นชีวิตคู่และสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงมีลูกมีหลานไว้สืบหน่อแทนแนวต่อไป จึงรู้สึกดีใจ อบอุ่น และขอบคุณฝ่ายหญิงเป็นอย่างยิ่งที่มีน้ำใจไมตรีให้
ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : ขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้ หากมีถ้อยคำใดที่ฝ่ายหญิงได้ล่วงเกินฝ่ายชายบ้าง ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ขอได้โปรดให้อภัยด้วยนะคะ รู้สึกดีใจมากที่จะได้ลูกเขย ได้เป็นญาติพี่น้องทองแผ่นเดียวกันกับฝ่ายชาย และหวังว่าเมื่อถึงวันงานแต่ง บ้านน้อยหลังนี้จะได้รับเกียรติต้อนรับทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง ….เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ และญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายนั่งล้อมวงรอ ลูกหลานกำลังลำเลียงข้าวปลาอาหารมาบริการค่ะ
จบบริบูรณ์