Screen Shot 2562-01-22 at 22.19.16Screen Shot 2562-01-22 at 22.19.16Screen Shot 2562-01-22 at 22.19.16Screen Shot 2562-01-22 at 22.19.16
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับพ่อครู 1
    • เกี่ยวกับพ่อครู 2
    • เกี่ยวกับพ่อครู 3
    • เกี่ยวกับพ่อครู 4
    • เกี่ยวกับพ่อครู 5
    • เกี่ยวกับพ่อครู 6
  • หมวดหมู่
    • กลอน กลอนลำ
    • บทพิธีกร พิธีการ คำกล่าว
    • ผญา บทสู่ขวัญ
    • บทความ ทรรศนะ
  • ฝากข้อความ

สคริปต์การเจรจาทาบทามสู่ขอสาวตามประเพณี

  • Home
  • บทพิธีกร พิธีการ คำกล่าว
  • สคริปต์การเจรจาทาบทามสู่ขอสาวตามประเพณี
ผญา คำสัญญาของหนุ่ม-สาว
กุมภาพันธ์ 16, 2018
กลอนไว้อาลัยยาย
พฤษภาคม 8, 2018

ประเพณีการเจรจาทาบทามสู่ขอสาวแต่ละถิ่นแต่ละชนเผ่าอาจจะไม่เหมือนกัน ส่วนมากการเจรจาทาบทามสู่ขอสาวจะมีขึ้นหลังจากบ่าวสาวคบหาดูใจกันมานานพอสมควรจนทั้งสองฝ่ายแน่ใจว่าคนนี้แหละใช่  ฝ่ายสาวจึงจะนัดหมายให้ฝ่ายชายส่งผู้ใหญ่ไปเจรจาทาบทามสู่ขอ  แต่เพื่อให้การเจรจาทาบทามสู่ขอสาวง่ายกระชับและตกลงกันได้ง่าย  หนุ่มสาวควรปฏิบัติดังนี้

  1. ตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้นและงานแต่งให้เรียบร้อย 
  2. เจ้าหนุ่มควรไปบอกกับพ่อแม่เจ้าสาวเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นและงานแต่งที่ตกลงกันไว้กับลูกสาวของท่านด้วยตัวเอง 
  3. เจ้าหนุ่มกลับไปบอกพ่อแม่ให้ส่งทีมงานผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการเจรจาต่อรองไปเจรจาทาบทามสู่ขอสาวให้ตามประเพณี                  ถ้าหนุ่มสาวละเลยข้อปฏิบัติทั้งสามข้อดังกล่าว  การเจรจาทาบทามสู่ขอสาวตามประเพณีอาจจะยุ่งยากและเหน็ดเหนื่อยด้วยกันทั้งสองฝ่าย  สคริปต์นี้คงพอใช้เป็นแนวทางในการเจรจาทาบทามสู่ขอสาวได้ในระดับหนึ่ง   ปรับใช้ตามเหมาะสมครับพี่น้องครับ

……………………………………………………………………………….

ตัวอย่างที่  1

หนุ่มสาวยังไม่ตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้น

(งานยาก  บางงานใช้เวลาในการเจรจาเกือบทั้งวัน  เพราะพ่อแม่ฝ่ายสาวเรียกค่าสินสอดแพง  แถมใจจืดใจดำไม่ยอมเสริบอะไรเลยแม้แต่น้ำเปล่า   พ่อครูเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนไปขอสาวให้ครูหนุ่มในโรงเรียน  เริ่มการเจรจาตั้งแต่  9  โมงเช้า  ตกลงกันได้  4  โมงเย็น ทีมงานขอสาวทั้งเครียดทั้งเหนื่อยและทั้งหิวจนตาลาย)

………………………………………………………………………………

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  พวกท่านพากันมาบ้านนี้มีจุดประสงค์อันใดหรือ?

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : “ได้ยินมาว่า บ้านนี้มีลูกสาวสวยน่ารัก เป็นที่ถูกตาต้องใจของเจ้าหลานชายของพ่อที่ชื่อนายมหาหิงส์  นารีสนั่น มาก   เขารบเร้าให้พามาสู่ขอลูกสาวของบ้านนี้ที่ชื่อนางสาวบุษบา  บ่าวรุมจอง   ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง :   ฝ่ายหญิงยังไม่เห็นดีเห็นงามด้วยหรอกค่ะ  เพราะตามประเพณีของเรานั้นถือว่า  ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเสียและฝ่ายชายเป็นฝ่ายได้ เพราะฉะนั้นฝ่ายชายจะต้องจัดหาค่าสินสอดทองหมั้นมาให้แก่ฝ่ายหญิงตามประเพณีก่อน  แต่กว่าหลานสาวเราจะเรียนจบและมีงานทำพ่อแม่ต้องเสียเงินเป็นล้าน ค่าสินสอดทองหมั้นต้องมาก ๆหน่อยจึงจะเหมาะสมค่ะ 

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  ทราบจากเจ้าหลานชายของเราว่ารักจริงหวังแต่งกับนางสาวบุษบา  บ่าวรุมจอง  ลูกสาวของท่านมานานพอสมควร  ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นสักเท่าไรครับ 

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  เรายังไม่เคยเห็นลูกสาวของเราพาหลานชายของท่านมาให้ทางบ้านรู้จักแม้แต่ครั้งเดียว  จึงไม่ค่อยไว้วางใจ  เพื่อความปลอดภัยของลูกสาวเราขอเรียกค่าสินสอด 1,000,000 บาท  ส่วนทองหมั้น  10  บาท ค่ะ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  หลานชายของพ่อทำงานบริษัทยืนยังเซ มหาชนจำกัด ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เป็นเวลากว่า 5  ปีแล้ว   ทราบว่าทั้งสองฝ่ายติดต่อคุยกันทางไลน์เป็นเวลานานพอสมควร   และฝ่ายหญิงนัดหมายให้ฝ่ายชายมาเจรจาสู่ขอกับพ่อแม่ตามประเพณีในวันนี้  ฝ่ายชายรักจริงหวังแต่งแต่เงินน้อยจึงขอต่อรองเท่าที่มีโดยไม่ต้องไปกู้ยืมเงินมาแต่งคือ  ค่าสินสอด  30,000  บาท  ทองหมั้น  1  บาท  ทางฝ่ายหญิงจะเห็นเป็นประการใดครับ

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  โอ้ย ไม่ได้ดอกค่ะ เรามาดค่าลูกสาวคนนี้ไว้หนึ่งล้านบาท  แต่ฝ่ายชายให้เราเพียง  3  หมื่นบาท ไม่รู้ว่ารักจริงหวังแต่งประสาอะไร  แต่เอาเถอะเมื่อฝ่ายชายกล้าต่อรองฝ่ายหญิงก็กล้าลดให้ คือค่าสินสอดเหลือ  9  แสนบาท  ทองหมั้นลดเหลือ  9  บาท  

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  ขอบคุณครับ  แต่ว่าฝ่ายชายยังเอื้อมไม่ถึงอยู่ดี  ฝ่ายชายรักจริงหวังแต่งอย่างแน่นอน  ถ้าฝ่ายหญิงลดให้ ฝ่ายชายขึ้นให้  อีกไม่นานก็คงจะพอดีตกลงกันได้  จึงขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีก  1  หมื่นบาทเป็น  4  หมื่นบาท   ส่วนทองหมั้นยังคง  1  บาทเท่าเดิม 

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ไม่ได้ดอกค่ะ  สมัยนี้เงินทองมีค่าน้อย  เงิน  1  ร้อยบาทไปตลาดซื้อของได้นิดเดียว  ถ้ารักจริงหวังแต่งก็ควรให้ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายหญิงมาดค่าไว้หน่อยสิคะ  แต่เอาเถอะฝ่ายหญิงลดให้อีกก็ได้ คือลดค่าสินสอดเหลือ  8  แสนบาท  ส่วนทองหมั้นลดเหลือ   8  บาท   

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  เงินทองมีค่าน้อยก็จริง  แต่หายากเหลือเกิน  เจ้าหลานชายทำงานโรงงานเงินเดือน  1  หมื่น  5  พันบาท  เหลือเก็บเดือนละ  5  ร้อยบาท  1  ปีมีเงินฝาก  6  พันบาท  5  ปีเก็บเงินได้เพียง  3  หมื่นบาทเท่านั้น    ถ้ารอให้เก็บเงินได้มากเท่าที่ฝ่ายหญิงต้องการ  ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้แต่งงาน ฝ่ายชายเงินน้อยแต่มากด้วยความรักความจริงใจที่จะดูแลรับผิดชอบฝ่ายหญิงไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน  ฝ่ายชายจึงขอเพิ่มค่าสินสินสอดอีก 1  หมื่นเป็น 5  หมื่นบาท  ส่วนทองหมั้น  1  บาทเท่าเดิม  ฝ่ายหญิงตกลงไหมครับ

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  โบราณว่า ค่าสินสอดแพงงานแต่งหรูหรา  ค่าสินสอดถูกเงินไม่พอจ่ายค่าอาหารเลี้ยงแขก  แต่เอาเถอะเราลดให้ก็ได้ว่า  ค่าสินสอดลดเหลือ 7 แสนบาท  ทองหมั้นลดเหลือ  7  บาท  ฝ่ายหญิงใจใหญ่ลดให้ทีละเป็นแสน  แต่ฝ่ายชายใจน้อยเพิ่มให้ทีละหมื่น  อีกเมื่อไหร่จะถึงพอดีกันละคะ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  จัดงานใหญ่เจ้าภาพได้หน้าพ่อค้าได้เงิน    เงินค่าสินสอด  7  แสนบาท  ทองหมั้น  7  บาท  แพงเกินเอื้อมครับ  ฝ่ายชายเงินน้อยแต่จะเพิ่มค่าสินสอดให้อีก  1  หมื่นเป็น  6  หมื่น  ส่วนทองหมั้น  1  บาทเท่าเดิมครับ 

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :   เราหยุดพักการเจรจาก่อนดีไหมคะ  เพราะเราเห็นต่างกันในเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นที่ห่างไกลกันมากเกินไป  ฝ่ายหญิงมาดค่าลูกสาวไว้หนึ่งล้านบาท ลดลงมาเหลือ   7  แสนบาท  แต่ฝ่ายชายเพิ่มให้ทีละ  1  หมื่นเป็น  6  หมื่น  ส่วนทองหมั้น  1  บาทไม่เพิ่มเลย 

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  : ฝ่ายชายไม่เห็นดีด้วยที่จะพักการเจรจา  เพราะความเห็นต่างในเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นซึ่งเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ถ้าเราร่วมกันพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล  ไม่นานก็จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง  ฝ่ายชายขอเพิ่มค่าสินสอดในรอบนี้  1  หมื่นบาท เป็น  7  หมื่นบาท  ส่วนทองหมั้น  1  บาทเท่าเดิม  ฝ่ายหญิงลดได้อีกเท่าไหร่

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  : ฝ่ายหญิงก็อยากจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงอย่างที่ฝ่ายชายว่าเหมือนกัน จึงยินดีลดเงินค่าสินสอดลงอีกเป็น  6  แสนบาท  ทองหมั้น  6  บาท  

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  ขอบคุณที่มีไมตรีให้  ฝ่ายหญิงลดให้ ฝ่ายชายเพิ่มให้  อีกไม่นานก็คงพอดีกัน  แต่เงินค่าสินสอด  6  แสนบาท  ทองหมั้น  6  บาท สำหรับฝ่ายชายมันมากมายจนสุดจะเอื้อมถึง  ฝ่ายชายก็สู้ขาดใจ  ถึงที่สุดอาจจำเป็นต้องขายนาและกู้เงินดอกเบี้ยมหาโหดมาแต่งก็ต้องยอม   จึงขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีก  1  หมื่นบาทเป็น  8  หมื่นบาท  และเพิ่มทองหมั้น 50  สตางค์เป็นทองหมั้น  6  สลึง  

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :   ถ้าฝ่ายชายกู้เงินดอกเบี้ยมหาโหดมาแต่ง  ฝ่ายหญิงก็ไม่กล้ารับเพราะมันจะเป็นภาระของคู่สมรสที่จะต้องวิ่งเต้นหากู้ยืมเงินมาชดใช้หลังงานแต่งและอาจเป็นภาระไปถึงลูกหลานในวันหน้า จึงขอลดให้อีกเป็นครั้งสุดท้ายว่า  เงินค่าสินสอดลดเหลือ  2  แสนบาท  ส่วนทองหมั้นก็ลดเหลือ  2  บาท  ห้ามต่อรองอีก

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  : ฝ่ายหญิงห้ามต่อรองอีกฝ่ายชายก็น้อมรับ แต่ฝ่ายชายจะขอเพิ่มค่าสินสอดให้อีกเป็น  9  หมื่นบาท  ทองหมั้นหกสลึงเท่าเดิม  ฝ่ายหญิงตกลงเถอะนะครับ   ฝ่ายชายหิวข้าวแล้ว 

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ประเพณีของชนเผ่าเราว่า  การเจรจาสู่ขอสาวไม่สำเร็จ  ห้าม  เสริบอาหาร  ฝ่ายชายหิวฝ่ายหญิงก็หิวเหมือนกัน .. นังหนูไปหาน้ำมาเสริบพ่อใหญ่หน่อยซิจะได้สดชื่นสมองปลอดโปร่งมีเรี่ยวมีแรงในการเจรจา  ว่าไปถึงไหนแล้ว  เออ เงินค่าสินสอด  9  หมื่นบาท  เราก็อยากจะรับแต่ตำแหน่งเลขหน้าไม่สวยเลย จึงขอเพิ่มเงินค่าสินสอดอีก  1  หมื่นบาท  เป็นค่าสินสอด  1  แสนบาท  และขอทองหมั้นให้หลานสาว  2  บาท  เราจะไม่ลดไปกว่านี้อีกแล้ว  

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  ตกลงตามที่ฝ่ายหญิงต้องการครับ  คือเงินค่าสินสอด  1  แสนบาท  ทองหมั้น  2  บาท ส่วนวันเวลาและสถานที่จัดงานค่าจัดเลี้ยงให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด  เมื่อถึงวันงานฝ่ายชายจะยกขบวนขันหมากและค่าสินสอด  1  แสนบาท  กับทองหมั้น  2  บาทมามอบให้ฝ่ายหญิงและร่วมพิธีมงคลสมรสกับนางสาวบุษบา  บ่าวรุมจอง ห้ามเปลี่ยนตัวเจ้าสาวนะครับ  ดังนั้นเมื่อฝ่ายหญิงหาฤกษ์งามยามดีได้แล้วขอให้ส่งข่าว   ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงมีอะไรที่อยากเพิ่มเติมอีกไหมครับ

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ดิฉันรู้สึกดีใจมากที่การเจรจาต่อรองค่าสินสอดทองหมั้นครั้งนี้ตกลงกันได้ด้วยดีที่ เงินค่าสินสอด  1  แสนบาท  และทองหมั้น  2  บาท  ฝ่ายหญิงขอให้คำมั่นสัญญาว่า

  1. จะแจ้งกำหนดงานและสถานที่จัดงานแต่งงานล่วงหน้าอย่างน้อย  1  เดือน
  2. จะไม่เปลี่ยนตัวเจ้าสาวถ้าไม่จำเป็น    เพราะฉะนั้นว่าที่เจ้าบ่าวอย่ามัวแต่ส่งรักมาทางไลน์อย่างเดียว  ต้องหมั่นมาเยี่ยมด้วยตัวเองบ้าง                                            ขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้ หากมีถ้อยคำใดที่ฝ่ายหญิงได้ล่วงเกินฝ่ายชายบ้าง  ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ขออย่าได้ถือโทษโกรธเคืองกันเลยนะคะ  ต่อนี้ไปเราทั้งหมดคือญาติพี่น้องกัน  เรากำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว….เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ และญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายนั่งล้อมวงรอ  ลูกหลานกำลังลำเลียงข้าวปลาอาหารมาบริการค่ะ  

…………………………………………………………………………………………………………….

ตัวอย่างที่  2

หนุ่มสาวตกลงเรื่องสินสอดทองหมั้นและงานแต่งเรียบร้อยแล้ว

(งานง่ายขอแล้วเข้าพิธีแต่งงานเลย)

…………………………………………………………………………………………………………

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  พวกท่านยกขบวนกันมาบ้านนี้มีจุดประสงค์อันใดหรือ?

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย :  ได้ยินมาว่า บ้านนี้มีลูกสาวสวย ยังเป็นโสด  มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นแม่ศรีเรือน    ประกอบกับปีนี้หลานชายของพ่อที่ชื่อเรือโทเข้ม  นารีจอง อายุได้ 27  ปี มีหน้าที่การงานมั่นคง มีความพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้แล้ว 

ทราบจากผู้เป็นพ่อแม่ของเรือโทเข้มว่า  เขารักและชอบพอกับ ลูกสาวของบ้านนี้ที่ชื่อนางสาวอรชร  สวยบาดตา  ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมานานหลายปี  กระผมในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ทั้งสองจะครองคู่อยู่ด้วยกันได้แล้ว   จึงยกขบวนขันหมากมาทาบทามสู่ขอนางสาวอรชร  สวยบาดตา ตามประเพณี   เพื่อให้ทั้งคู่ได้แต่งงานครองรักครองเรือนสมปรารถนา  และร่วมกันสร้างฐานะครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงต่อไป    พวกเราซึ่งเป็นญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายก็จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน หรือเป็นดองกัน  ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง : หากผู้ใหญ่ฝ่ายชายเห็นสมควร ดิฉันก็คงไม่ขัดข้องแต่ประการใด   และยินดียกลูกสาวให้แต่งงานกับหลานชายของท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ  แต่ตามประเพณีของไทยเรานั้น ฝ่ายชายจะต้องจัดหาค่าสินสอดทองหมั้น  ค่าจัดงานแต่งงาน  และหนดวัน เวลา สถานที่จัดงานที่เห็นดีเห็นงามด้วยกันทั้งสองฝ่ายก่อนนะคะ  จึงอยากให้ฝ่ายเจ้าบ่าวเสนอมาก่อน  เราจะพิจารณาร่วมกันค่ะ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  : เรามาพิจารณาตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้นก่อนนะครับ  เจ้าหลานชายบอกว่ารักฝ่ายหญิงมากสุดชีวิตแต่มีเงินน้อยนิดเดียว  จึงอยากจะทราบว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงมาดค่าสินสอดลูกสาวคนนี้ไว้เท่าไร  ถ้ามากไปก็จะได้ต่อ  ถ้าน้อยไปกะจะได้เพิ่ม

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  สมัยนี้เงินทองมีค่าน้อย  เงินร้อยบาทไปตลาดซื้อของได้ไม่พอกิน  ยิ่งงานแต่งงานต้องเชิญเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาร่วมงานเยอะ  ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินก็แยะ เพราะต้องจัดเลี้ยงตามประเพณีที่บ้านในตอนเช้า  และจัดเลี้ยงโต๊ะจีนในตอนกลางคืนอีกด้วย  จึงมีข้อเสนอฝ่ายชาย  2  ข้อคือ  

  1.  ถ้าฝ่ายชายเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด  ค่าสินสอดเรียก  20,000  บาทก็พอ  ส่วนทองหมั้นเพื่อประกันความมั่นคงของลูกสาวขอเรียก  2  บาท  ราคานี้ห้ามต่อแต่ตื่ม(เพิ่ม)ได้ค่ะ 

    2.  ถ้าให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดขอเรียก                 300,000  บาทขาดตัว  ส่วนทองหมั้นเพื่อประกันความมั่นคงของลูกสาว           ขอเรียก  2  บาทเท่าเดิม   ราคานี้ห้ามต่อแต่เติมได้เช่นเดียวกันค่ะ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย….สมัยนี้เงินค่าสินสอดทองหมั้น  ค่าจัดงาน  กำหนดวันเวลาและสถานที่จัดงาน มักเป็นเรื่องที่หนุ่มสาวเขาตกลงกันเองทั้งสิ้น  เพราะพวกเขาเป็นผู้ทำงานหาเงินทองมาแต่งกันเอง  ส่วนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมักเป็นเพียงสักขีพยาน ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมแสดงความยินดีและผู้ร่วมอวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการครองรักครองเรือนเท่านั้น 

ก่อนจะยกขบวนขันหมากออกจากบ้านมา  เจ้าหลานชายมากระซิบกระซาบว่า  เขาได้ตกลงกับว่าที่เจ้าสาวของเขาแล้วว่า  เงินค่าสินสอด  30,000  บาท  ทองหมั้น  3  บาท  ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมด  ฝ่ายชายเป็นคนจ่าย  ไม่ทราบว่าคุณแม่ฝ่ายหญิงจะเห็นดีเห็นงามกับข้อตกลงของหนุ่มสาวทั้งสองหรือไม่ประการใดครับ

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง….ดิฉันก็ได้ทราบเรื่องนี้จากลูกสาวแล้วเหมือนกัน  ที่ดิฉันมาดค่าลูกสาวเท่านั้นเท่านี้  มีข้อ  1  ข้อ  2  ให้ฝ่ายชายได้เจรจาต่อรองก็เพียงเพื่อลองใจฝ่ายชายว่ารักและจริงใจต่อลูกสาวของดิฉันมากแค่ไหน  เมื่อได้เห็นความตั้งใจของว่าที่ลูกเขยและญาติพี่น้องฝ่ายว่าที่ลูกเขยแล้ว   ผู้เป็นแม่อย่างดิฉันจึงรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่จะได้ลูกเขยที่เป็นคนดีมาดูแลรับผิดชอบลูกสาวของดิฉัน  ส่วนค่าสินสอดทองหมั้นดิฉันขอเท่าที่มีและน้ำใจที่จะให้ค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียดายที่ท่านนายพลคุณพ่อของลูกสาวของดิฉัน  ท่านเสียก่อนที่จะได้เห็นและชื่นชมลูกสาวของเราได้แต่งงานกับคนดีที่เธอรัก  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  เขาคือเรือโทเข้ม นายทหารหนุ่มคนที่พ่อเคยเอ็นดูรักใคร่และอยากได้เป็นลูกเขยนั้นเอง  ส่วนวันเวลาและสถานที่จัดงานพวกเขาก็ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเช่นกัน คือแต่งวันนี้และเวลาต่อจากนี้  ส่วนเวลากลางคืนจัดเลี้ยงที่สโมสรทหารเรือค่ะ  สรุปคือ  ดิฉันเห็นดีเห็นงามกับลูกสาวและว่าที่ลูกเขยของดิฉันทุกประการ 

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย…ตามประเพณีของไทยเรานั้น  เมื่อการเจรจาสู่ขอสาวสำเร็จ  ฝ่ายเจ้าสาวจะต้องเลี้ยงฉลอง  ไม่ทราบว่าฝ่ายเจ้าสาวได้เตรียมข้าวปลาอาหารรวมทั้งเหล้ายาปลาปิ้งไว้พร้อมที่จะเลี้ยงฉลองหรือยัง  ฝ่ายเจ้าบ่าวหิวข้าวแล้วครับ

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง…ดิฉันทราบค่ะ  แต่ให้ใจเย็น ๆ ทนหิวอีกนิดนะคะ เพราะเรายังมีพิธีหมั้นและพิธีสู่ขวัญคู่บ่าวสาวขวางกั้นอยู่ค่ะ    ดิฉันจึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่คู่บ่าวสาวก่อนนะคะ   ทนหิวอีกนิดค่ะ   เรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมพิธีค่ะ

(เสร็จพิธี)

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง….วันนี้ทางฝ่ายเราได้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ต้อนรับทุกท่านอย่างเต็มที่ค่ะ  ขบวนขันหมากฝ่ายชายอยู่ร่วมงานกันทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืนนะคะ  บางทีงานแต่งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่งานแรก  เพราะอาจจะมีงานแต่งระหว่างเราอีกหลายงาน เนื่องจากหนุ่มสาวทั้งสองฝ่ายที่เป็นโสดยังมีอีกตั้งหลายสิบคนค่ะ  อาจจะมีที่ถูกตาต้องใจกันหลายคู่ก็ได้ เรียนเชิญทุกท่านหาที่นั่งเหมาะ ๆ รอรับเสริบอาหารอย่างเดียวค่ะ  

……………………………………………………………………………….

ตัวอย่างที่  3

หนุ่มสาวตกลงกันเรื่องเงินค่าสินสอดทองหมั้นแล้ว

(งานง่าย  ได้กินอาหารไว)

…………………………………………………………………………………..

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  พวกท่านพากันมาบ้านเรามีจุดประสงค์อันใดหรือ?

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย : มาขอลูกสาวของคนบ้านนี้ไปเป็นลูกสะใภ้ตามที่หนุ่มสาวเขานัดหมายกันไว้แล้ว   ไม่ทราบว่าทางฝ่ายนี้จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ประการใด”

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง :  ทางเราไม่ขัดข้อง    ปลูกเรือนก็ต้องตามใจผู้อยู่  ผูกอู่ก็ต้องตามใจผู้นอน    

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :   ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นสักเท่าไร 

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  เอาตามที่หนุ่มสาวเขาตกลงกันไว้นั่นแหละเพราะพวกเขาเป็นฝ่ายหาเงินหาทองมาแต่งกันเอง  หลานสาวเราแจ้งว่า  เงินค่าสินสอด  90,000  บาท  ทองหมั้น  1  บาท  ทางฝ่ายชายมีความเห็นเป็นประการใด  จะต่อหรือจะตื่มดีคะ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  ทางฝ่ายเราเห็นว่าที่หนุ่มสาวตกลงกันไว้นั้นอาจจะยังไม่เหมาะสมนัก  พ่อแม่ฝ่ายชายเห็นว่าเงินค่าสินสอด  90,000  บาทนั้นเหมาะสมแล้ว แต่จะตื่มทองหมั้นให้ว่าที่ลูกสะใภ้อีก  1  บาทเป็น  2  บาท   ทางฝ่ายนี้จะเห็นเป็นประการใด

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่มีน้ำใจให้ลูกสาวของเรา   เนื่องจากงานแต่งจัดที่บ้านเจ้าสาว มีค่าใช้จ่ายเยอะอยู่ ไม่ทราบว่าฝ่ายชายจะมีความคิดเห็นเป็นประการใด

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  : พ่อแม่ฝ่ายชายแจ้งว่า  ยินดีช่วยค่าจัดงาน  20,000  บาท  ไม่ทราบว่าทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเห็นเป็นประการใด

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ขอขอบพระคุณที่มีน้ำใจช่วยค่าจัดงานตั้ง  20,000  บาท  ฝ่ายหญิงจะจัดงานแต่งให้อย่างเหมาะสม  ส่วนวันเวลาจัดงานแล้วแต่หนุ่มสาวเขาสะดวกวันไหนเพราะพวกเขายังทำงานทั้งคู่  พวกเขาว่าวันไหนเวลาใดงานแต่งจะเอาอย่างไรก็เอาตามนั้น  ทางฝ่ายชายมีความเห็นเป็นประการใด

ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย  :  รับทราบและยินดีทำตามที่ฝ่ายหญิงเสนอมาทุกประการ   สรุปว่าการเจรจาสู่ขอสาวครั้งนี้สำเร็จแล้ว    อีกไม่นานเราก็คงได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ที่สำคัญหลานชายของเรากับหลานสาวของท่านจะได้แต่งงานกัน ได้เริ่มต้นชีวิตคู่และสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงมีลูกมีหลานไว้สืบหน่อแทนแนวต่อไป  จึงรู้สึกดีใจ อบอุ่น และขอบคุณฝ่ายหญิงเป็นอย่างยิ่งที่มีน้ำใจไมตรีให้

ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง  :  ขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการเจรจาครั้งนี้ หากมีถ้อยคำใดที่ฝ่ายหญิงได้ล่วงเกินฝ่ายชายบ้าง  ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ขอได้โปรดให้อภัยด้วยนะคะ  รู้สึกดีใจมากที่จะได้ลูกเขย ได้เป็นญาติพี่น้องทองแผ่นเดียวกันกับฝ่ายชาย  และหวังว่าเมื่อถึงวันงานแต่ง บ้านน้อยหลังนี้จะได้รับเกียรติต้อนรับทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง ….เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ และญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายนั่งล้อมวงรอ  ลูกหลานกำลังลำเลียงข้าวปลาอาหารมาบริการค่ะ 

จบบริบูรณ์  

Share
27
admin

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ป้ายกำกับ

งานขึ้นบ้านใหม่ งานขึ้นปีใหม่ งานฌาปนกิจศพ งานบวช งานบุญกฐิน งานบุญข้าวจี่ งานบุญบั้งไฟ งานบุญประทายข้าวเปลือก งานบุญผ้าป่า งานบุญพระเวสสันดร งานบุญมหาชาติ งานบุญอุทิศส่วนกุศล งานบุญแจกข้าว งานประเพณีตักบาตรเทโว งานประเพณีลอยกระทง งานประเพณีแข่งเรือยาว งานประเมินโรงเรียน งานปัจฉิมนิเทศ งานมงคลสมรส งานมอบประกาศนียบัตร งานรับขวัญ งานวันครู งานวันสงกรานต์ งานวันสหกรณ์แห่งชาติ งานวันเกิด งานวันเฉลิมพระชนมพรรษา งานวันเด็กแห่งชาติ งานวันแม่ งานวันแม่แห่งชาติ งานศพ งานอุปสมบท งานเกษียณอายุราชการ งานเข้าค่ายลูกเสือ งานเปิดร้านใหม่ งานเลี้ยงรับส่ง งานแต่งงาน
Live visitors
136
1267
Visitors Today
2147071
Total
Visitors
© 2022 พ่อครูดอทคอม | porkru.com. All Rights Reserved. Muffin group