…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
เกริ่นนำก่อนเริ่มพิธี
พิธีกรเลือกอ่านบทกลอนต่อไปนี้ตามเหมาะสมแก่เวลา….
โคลง…
พฤษพกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนเสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
……………
ผญา…
อันว่างัวควายช้าง วางขันธ์มรณาต
ยังมีเขางากระดูกเนื้อ เหลือไว้ฝากคน
สกนธ์กายคนนี้ ยามตายสูญเปล่า แท้นา
เหลือแต่ดีชั่วฮ้าย เอาไว้ฝากคน พี่น้องเอย
กลอน….
อันคำสั่ง มัจจุราช เด็ดขาดแท้ ไม่อาจแก้ เปลี่ยนแปร ไปทางไหน
ถึงเวลา มารับ ก็ต้องไป จะเป็นใคร ใหญ่แค่ไหน ไม่สำคัญ
ถึงร้องไห้ วิงวอน ออดอ้อนขอ ไม่รีรอ ถึงวอนขอ ก็ไม่ให้
ขอสั่งเสีย ญาติพี่น้อง ก่อนจากไป ให้ไม่ได้ จะเป็นใคร ต้องทำตาม
สิ่งที่ทำ ลงไป นั้นได้แน่ ดีหรือแย่ มันเที่ยงแท้ ไม่ต้องถาม
จะติดตาม ตัวไป ในทุกยาม อีกกี่ปี ก็ตาม หมั่นทำดี
กลอน…….
เจ้าเกิดมา มีอะไร มากับเจ้า ไยมัวเมา โลภลาภ ทำบาปใหญ่
เมื่อเจ้าตาย เจ้าไม่ได้ อะไรไป เจ้าก็ไป ตัวเปล่า เหมือนเจ้ามา
กลอน…….
ยามมาเกิด เราก็มา แต่ตัวเปล่า ใครบ้างเล่า ใส่เสื้อผ้า มาเกิดบ้าง
เกิดมาแล้ว หาทรัพย์สิน จนวายวาง ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างกันไป
แต่เมื่อตาย วายวาง สังขารแล้ว คนมีแก้ว แหวนทอง เงินกองใหญ่
กับคนจน ยากไร้ ไม่มีอะไร ต่างก็ไป ตัวเปล่า เท่าเทียมกัน
เงินเหรียญบาท ที่อมไว้ คราตายนั้น พวกลูกหลาน ยังเอาคืน เป็นเงินขวัญ
ตายไปแล้ว หมดสิ้น ทุกสิ่งอัน เหลือผูกพัน เพียงบุญกรรม ที่ทำมา
ว่าจะส่ง วิญญาณเรา ไปไหนบ้าง ส่งไปเกิด เป็นลิงค่าง อนาถา
ส่งไปเกิด เป็นนาคครุฑ เทวดา หรือส่งมา เกิดหล่อสวย รวยเงินทอง
หรือส่งไป รับใช้ ในนรก ถูกสับโขลก ใช้งาน สยดสยอง
ให้ถีบสัตว์ นรกลง กระทะทอง หรือถูกถอง ถีบลง กระทะเอง
หากกรรมดี เราทำ เอาไว้มาก ไม่ยุ่งยาก เพราะกรรมดี มีชื่อเสียง
ยมทูต จดไว้ ไม่ลำเอียง เมื่อเราเพียง ขาดใจ ก็ไปดี
ได้ไปสู่ สรวงสวรรค์ บนชั้นฟ้า เป็นเทวา เสวยสุข เกษมศรี
เพราะกุศล ผลบุญ คุณความดี ดลให้มี เป็นได้ ดั่งใจเรา
ถ้าเราทำ กรรมดี ทีละน้อย ทำบ่อยบ่อย จะสดชื่น ไม่อับเฉา
เพราะผลกรรม นำลิขิต ชีวิตเรา กรรมคือเงา ติดตามตน จนวันตาย
กรรมจะตาม เราไป ไม่ลดละ ไม่ว่าจะ ไปแห่งหน ตำบลไหน
จะไปอยู่ อาณาเขต ประเทศใด กรรมจะไป เกาะประชิด เฝ้าติดตาม
จะกี่ภพ กี่ชาติ กี่ศัตวรรษ กรรมจะมัด เราไว้ ให้แบกหาม
ถ้ากรรมดี เกาะประชิด เฝ้าติดตาม จะแห่หาม ส่งเราไป ให้ได้ดี
ถ้ากรรมชั่ว ตามทัน ผูกพันไว้ เรื่องเลวร้าย จะรุมรุก ทุกวิถี
จะยืนเดิน นอนนั่ง ยังราวี รุมต่อยตี ให้ลำบาก ทุกข์ยากจน
ทำกรรมดี เอาไว้ให้ ตัวเองบ้าง ด้วยการสร้าง สะสมทุน บุญกุศล
เพราะผลกรรม นำลิขิต ชีวิตคน ที่หมุนวน เวียนว่าย ตายเกิดตาย
…………………………
เข้าสู่พิธีการ
พิธีกร : นมัสการ………………………… ประธานฝ่ายสงฆ์ และพระคุณเจ้าที่เคารพอย่างสูง
เรียน ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอวานรนิวาส ประธานฝ่ายฆราวาสและแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
กระผม…………………………………..ตำแหน่ง………………… ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้ทำหน้าที่พิธีกรงานฌาปนกิจศพหลวงตาหนูสิน หรือ พระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล (ศรีมงคล)ก่อนอื่นกระผมขอแจ้งกำหนดงานฌาปนกิจศพให้ท่านที่เคารพได้รับทราบร่วมกันดังนี้
1. ไหว้พระรับศีล
2. พระสงฆ์สวดมาติกา
3. ทอดผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์ในพิธีบนศาลา
4. พระสงฆ์สวดบังสุกุลและอนุโมทนา
5. อ่านประวัติ
6. ทอดผ้าไตรบังสุกุลหน้าหีบศพบนเมรุ
7. ผู้ร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ
8. ฌาปนกิจศพหรือเผาศพ
บัดนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขอเรียนเชิญคุณพ่อ…………………………. มรรคนายกเป็นผู้นำด้านศาสนพิธีต่อไป ขอเรียนเชิญครับ
หลังจากพระสงฆ์สวดมาติกาจบ
พิธีกร : ขอเรียนเชิญญาติพี่น้องนำผ้าบังสุกุลไปทอดถวายแด่พระสงฆ์ในพิธี ถวายให้ครบทุกรูปนะครับ (อาจจะระบุชื่อให้ไปถวายก็ได้แล้วแต่เจ้าภาพจะเห็นสมควร)
หลังจากญาติพี่น้องวางผ้าบังสุกุลต่อหน้าพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว พระสงฆ์พิจารณาชักผ้าบังสุกุล ….อนิจจา วะตะ สังขารา ฯลฯ จบแล้ว
พิธีกร : ขอเรียนเชิญทุกท่านประนมมือร่วมพิธี กรวดน้ำรับพรครับ
….(จบแล้ว)
พิธีกร…ลำดับต่อไปเป็นการนำเรียนประวัติพระอาจารย์ผู้ถึงแก่มรณภาพ งานนี้เจ้าภาพได้รับเกียรติจาก……………………………………….เป็นผู้อ่านประวัติและ…………….เป็นผู้อ่านบทกลอนไว้อาลัยอาลัย ….ขอเรียนเชิญครับ
ผู้อ่านประวัติ…..นมัสการพระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรียน……………………………….. และแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
กระผม…………………………………………….. ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้เป็นผู้นำเรียนประวัติของพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล(ศรีมงคล) โดยสังเขป เพื่อเป็นเกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่พระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล (ศรีมงคล)ผู้ถึงแก่มรณภาพ
ประวัติโดยสังเขป
ชาติกำเนิด
ชื่อ หนูสิน นามสกุล ศรีมงคล เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2490 ตรงกับวันอังคาร แรม 10 ค่ำเดือน 5 ปีกุน บิดาชื่อ เปรี่ยม ศรีมงคล มารดาชื่อ ปุ่น ศรีมงคล(สกุลเดิม คุณมี) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 12 คนดังนี้
10.นายประเทศ ศรีมงคล เกษียณอายุราชการแล้ว ปัจจุบันประกอบธุรกิจส่วนตัวที่กรุงเทพมหานคร
11.นายอำนวย ศรีมงคล ประกอบอาชีพนักการภารโรงที่โรงเรียนวัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร
12. นายบุญช่วย ศรีมงคล ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบันได้รับเลือกตั้ง เป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญศิลป์หมู่ที่ 12 ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร
ประวัติการศึกษา
พ.ศ. 2503 เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนทุ่งมนสมานมิตร บ้านทุ่งมน ตำบลทุ่งแก อำเภอสว่างแดนดิน(ปัจจุบันเป็นอำเภอเจริญศิลป์) จังหวัดสกลนคร
16 เมษายน พ.ศ. 2512 อายุครบ 22 ปี ได้เข้าบรรพชาและอุปสมบทที่วัดศรีสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ได้รับฉายาว่า ฉันทะสีโล แปลว่าผู้มีความพอใจในศีล
พ.ศ. 2512 และ พ.ศ. 2513 สอบได้นักธรรมชั้นตรี และนักธรรมชั้นโท ตามลำดับที่สำนักเรียนวัดทุ่งสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
พ.ศ. 2514 สอบได้นักธรรมชั้นเอกที่สำนักเรียนวัดคามวาสี บ้านหนองดินดำ ตำบลตาลโกน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ. 2515 – 2519 จำพรรษาที่วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาและปฏิบัติกรรมฐานจากหลวงพ่อวิริยังค์เป็นเวลานานถึง 14 ปี หลังออกพรรษาทุกปีได้กราบลาหลวงพ่อวิริยังค์กลับบ้านที่สกลนครเพื่อสนทนาธรรม และขอคำชี้แนะข้อวัตรปฏิบัติจากหลวงปู่ตามวัดต่าง ๆ เช่น หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี วัดหินหมากเป้ง หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่พา วัดป่าพระสถิต อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เป็นต้น
พ.ศ. 2516 สอบได้มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่วิทยาลัยสงฆ์กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2518 ได้ช่วยงานหลวงพ่อวิริยังค์ สร้างมหาเจดีย์ที่วัดธรรมมงคลจนสำเร็จ
พ.ศ. 2521 -2526 ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนปริยัติธรรมที่วัดธรรมมงคล ทำให้ได้สอนได้ถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องธรรมและวินัยแก่พระเณร ขณะเดียวกันก็ได้ทบทวนทำความเข้าใจหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง ปีนี้สอบเทียบวิชาชุดครู พ.ก.ศ. ได้ 4 ชุด
พ.ศ. 2527 จำพรรษาที่สำนักสงฆ์ภูก้อน ได้ชักชวนชาวบ้านบุกเบิกป่าสัมปทานป่าสงวนแห่งชาติ ปส. 20 เพื่อสร้างวัดโดยมีคุณนายปิยะวรรณ วรวรรณ เป็นเจ้าภาพใหญ่ สร้างเสร็จแล้วได้ทำเรื่องขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นวัดที่สมบูรณ์ ชื่อวัดป่าภูก้อน คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าภูก้อน และเป็นเจ้าคณะตำบลนายูง – น้ำโสม
พ.ศ. 2536 เข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาททำให้สุขภาพไม่ดี จึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบล ธุดงค์ไปจำพรรษาที่วัดป่าภูเพาะ บ้านโพนแพง ตำบลกกปลาซิว อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ. 2537 -2562 อยู่จำพรรษาปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าวังน้ำเย็น บ้านวังน้ำเย็น ตำบลธาตุ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร สั่งสอนอบรมญาติโยมให้เข้าวัดฝึกสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐานตามแนวทางของหลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล และร่วมมือกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านวังน้ำเย็นก่อสร้างกุฏิ โรงฉัน ศาลาการเปรียญ และจัดหาให้มีไฟฟ้า น้ำประปา ปรับภูมิทัศน์ให้สะอาด สงบ ร่มรื่น สวยงาม เป็นระเบียบ เหมาะแก่การพักอาศัยเพื่อปฏิบัติธรรม
วาระสุดท้าย
พระอาจารย์หนูสินป่วยด้วยโรคสี่สหายคือ ความดัน หัวใจ ต่อมลูกหมากโต และโรคมะเร็ง ญาติโยมพาไปเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลแทบทุกแห่งที่ได้ข่าวว่ามีหมอดีหมอเก่ง อาการมีแต่ทรงกับทรุด แต่พระอาจารย์เป็นคนเข้มแข็ง ไม่เคยปริปากบ่นให้ใครฟัง ยังคงปฏิบัติศาสนกิจออกเดินบิณฑบาตทุกเช้า แม้จะมีญาติโยมปวารณาว่า ท่านไม่ต้องไปบิณฑบาตก็ได้ โยมจะนำจังหันมาถวายท่านเอง ท่านตอบขอบใจ และว่าการออกเดินบิณฑบาตเป็นกิจของสงฆ์ ถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ติดภารกิจนิมนต์ ไม่เกิดน้ำท่วมหรือพายุลมแรง ท่านต้องไปบิณฑบาตทุกเช้า ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ท่านเริ่มอาพาธหนักขึ้น ญาติพี่น้องลูกหลานบ้านเจริญศิลป์ต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันไปนอนเฝ้าไข้ที่วัดทุกคืน คุณหมอที่ตรวจร่างกายท่านแจ้งว่า ขณะนี้เชื้อมะเร็งได้กระจายไปทั่วร่างกายแล้ว ท่านคิดว่าคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จึงรีบดำเนินการใน 4 เรื่องคือ
1.ให้นำเงินของวัดทุกบัญชีมาใช้จ่ายในการก่อสร้างศาลาการเปรียญ และฝากศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้างให้ญาติโยมช่วยกันสร้างต่อไปให้เสร็จ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของภิกษุสามเณรและอุบาสกอุสิกา
2. ขอร้องท่านพระครูวีระธรรมสุนทร เจ้าคณะอำเภอเจริญศิลป์ฝ่ายธรรมยุติให้นำสรีรสังขารของท่านมาตั้งบำเพ็ญกุศลและสร้างเมรุชั่วเผาศพของท่านข้างที่เผาศพพระอาจารย์คำแหง ชิตะมาโร อดีตเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระพี่ชายของท่านที่วัดศิริราษฎร์วัฒนาแห่งนี้ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการบำเพ็ญกุศลของญาติโยม
3. ฝากพระอาจารย์ราชวัตร ชุติปัญโญ พระวัดป่าบ้านหนองหว้า ที่มาเฝ้าไข้ท่านนานนับเดือนไว้กับญาติโยมชาวบ้านวังน้ำเย็นว่า เมื่อหลวงตาสิ้นแล้วให้นิมนต์พระอาจารย์ราชวัตร ชุติปัญโญ อยู่จำพรรษาและรักษาการเจ้าอาวาสแทน
4. มอบหมายให้คุณโยม ผอ. วิทิต ไชยวงศ์คต เร่งมือเรียบเรียงเขียนประวัติของท่านให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนวันงาน
อาทิตย์สุดท้ายก่อนมรณภาพ ท่านมีร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย ไม่สามารถเดินไกลได้ จึงต้องพักอยู่ที่กุฏิโดยมีญาติพี่น้องลูกหลานผลัดเปลี่ยนกันไปกางเต้นนอนเฝ้าไข้ที่ลานวัดทุกคืน ต่อมาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ท่านอาพาธหนักมาก ญาติโยมที่เฝ้าไข้จึงพาส่งโรงพยาบาลเจริญศิลป์ นายแพทย์และพยาบาลได้ช่วยกันรักษาอย่างเต็มที่ แต่อาการไม่ดีขึ้น และก่อนที่ท่านจะถึงแก่มรณภาพได้ฝากขอบใจครอบครัวคุณโยมวิเชียร –อารีรัตน์ คำภูแสน ซึ่งอุปัฏฐากส่งจังหันทุกเช้า ดูแลความเป็นอยู่ทุกอย่าง ขับรถพาท่านไปส่งโรงพยาบาลตลอดมา และนอนเฝ้าไข้ทุกคืน
พระอาจารย์หนูสินได้ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 1 นาฬิกา 1 นาที สิริอายุได้ 72 ปี ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้เกิดแก่พระสงฆ์สามเณรทุกรูปและญาติโยมทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
อกุศลกรรมใด ที่เป็นกรรมไม่ดี ซึ่งพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล(ศรีมงคล) ได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมนั้นแก่พระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล(ศรีมงคล) ด้วย เทอญ
กุศลกรรมใดที่เป็นคุณงามความดีที่พระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโลได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ขอได้โปรดดลบันดาล ให้ดวงวิญญาณของพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโลไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ขอเรียนเชิญทุกท่านยืนนั่งตามอัธยาศัย ตั้งใจสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล ไปสู่สุคติในสัมปรายภพเป็นครั้งสุดท้าย ขอกราบเรียนเชิญครับ
(ครบ 1 นาที อ่านบทกลอนไว้อาลัยหลวงตา)
อาลัยหลวงตา…
…ห้าสิบสอง พรรษาที่ พระรูปหนึ่ง
เกิดซาบซึ้ง หลักธรรม คำสั่งสอน
บวชเป็นสงฆ์ ทรงศีล จากถิ่นจร
สู่กรุงเทพ มหานคร อยู่วัดธรรม
มุ่งเป็นศิษย์ หลวงพ่อ ผู้ก่อเกิด
วิชาเลิศ พลังจิต แห่งสยาม
หลวงพ่อชื่อ วิริยังค์ ผู้ลือนาม
ทุกเขตคาม นับถือ ระบือไกล
หลวงตาเรียน จบแล้ว กลับคืนวัด
ฝึกปฏิบัติ อบรม บ่มนิสัย
มุ่งเผยแผ่ หลักธรรม อันอำไพ
สอนญาติโยม ทั้งหลาย มาเนิ่นนาน
หลายสิบปี ที่วิเวก อยู่วัดป่า
นามวัดว่า วังน้ำเย็น เห็นในฝัน
สมาธิ ฝึกจิต พิชิตมาร
หลายปีผ่าน กิเลสหาย สบายใจ
มาบัดนี้ หลวงตา มรณะแล้ว
เหมือนดวงแก้ว ส่องทาง สว่างไสว
ลอยละล่อง ส่องฟ้า สู่แดนไกล
สุดจะไขว่ คว้าถึง ดึงกลับคืน
เหลือเพียงหยด น้ำตา อาลัยรัก
เอ่อล้นจาก ดวงใจ ไร้แรงฝืน
ของญาติโยม ที่หวังใจ ให้กลับคืน
ลืมตาตื่น หงอยเหงา เศร้าโสกา
จึงกราบก้ม ประณมกร วิงวอนฟ้า
เทพเทวา บนสวรรค์ แดนหรรษา
ทราบข่าวแล้ว โปรดมารับ เอาหลวงตา
พาสู่ชั้น วิมานฟ้า พระนิพพาน
ญาติโยมอยู่ ข้างหลัง ขอตั้งจิต
น้อมอุทิศ กุศลไป ให้ไพศาล
ถึงหลวงตา ผู้ดับขันธ์ เมื่อวันวาน
จงพบพาน แต่ความสุข ทุกคืนวัน
ถ้าตกทุกข์ ขอให้พ้น ไปจากทุกข์
ได้ถึงสุข ปรีดิ์เปรม เกษมสันต์
มีสุขแล้ว สุขยิ่งขึ้น ทุกคืนวัน
ถึงนิพพาน บรมสุข หมดทุกข์เทอญ
ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง
จาก…พระสงฆ์สามเณร ญาติโยม ลูกหลาน และญาติพี่น้องทุกคน
พิธีกร…… ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ (อ่านว่า..เมน)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ…………………… ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 1 และกราบนิมนต์…………………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประณมมือร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ…………………………….. ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 2 และกราบนิมนต์…………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ…………………………….. ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 3 และกราบนิมนต์…………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอวานรนิวาส ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดใหญ่เป็นชุดสุดท้าย และกราบนิมนต์………………………………………………….ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ เป็นผู้พิจารณา ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล ไปสู่สุคติด้วยกันครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร….ลำดับสุดท้ายเป็นการวางดอกไม้จันทน์
ขอนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปได้โปรดขึ้นวางดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการโปรดพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโลไปสู่สุคติด้วยครับ …….-ขอกราบนิมนต์ครับและขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมวางดอกไม้จันทน์ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล ไปสู่สคติเป็นครั้งสุดท้ายครับ
พิธีกร…. ลำดับสุดท้าย เชิญทีมงานเจ้าภาพโปรยทานหว่านของที่ระลึกครับผม โปรยให้ทั่ว หว่านให้ถึงนะครับ พวกเราเก็บเอาไปเป็นเงินขวัญถุงคนละอันสองอัน ใครเก็บได้มากก็แบ่งปันกันนะครับ ใครเก็บไม่ทันเดี๋ยวเพื่อนก็แบ่งให้ ถ้าเพื่อนไม่แบ่งให้เดี๋ยวเพื่อนก็หำโปงครับพี่น้องครับ
(ขณะกำลังหว่านโปรยทาน)
พิธีกรหรือ ผู้ใหญ่บุญช่วย ศรีมงคล กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานขณะวางดอกไม้จันทน์ (ปรับใช้ตามเหมาะสม)
นมัสการ พระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรียน แขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
การจัดงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อยด้วยดี เนื่องจากได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากพระคุณเจ้า ท่านผู้มีเกียรติ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งบ้านใกล้บ้านไกล ซึ่งต่างเดินทางมาร่วมงานที่วัดแห่งนี้ด้วยความรักและศรัทธาอาลัย กระผม นายบุญช่วย ศรีมงคล ผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญศิลป์ หมู่ที่ 12 ซึ่งเป็นน้องชายพระอาจารย์หนูสิน ในนามเจ้าภาพรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่สุด ที่ได้เห็นท่านทั้งหลายมาร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์หนูสินไปสู่สุคติอย่างอบอุ่น ไม่มีอะไรจะมอบให้ท่านเป็นการตอบแทนนอกจากคำขอบคุณ
ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระ………………………..เจ้าคณะ………………………………ที่กรุณามาเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ในงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล ครั้งนี้เป็นอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณ ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร นายอำเภอวานรนิวาส ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานทอดไตรบังสุกุล
ขอบพระคุณคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเจริญศิลป์ โรงพยาบาลสกลนครและสถานพยาบาลทุกแห่ง ที่กรุณาดูแลรักษาพระอาจารย์หนูสิน ฉันทะสีโล จนสุดความสามารถ แม้สุดท้ายไม่อาจยื้อชีวิตพระอาจารย์หนูสิน เอาไว้ได้ แต่เป็นความประทับใจที่ชาวบ้านญาติโยมลูกหลานของพระอาจารย์หนูสิน จะจดจำไม่มีวันลืม
ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าทุกรูป และผู้มีส่วนร่วมในการสร้างเมรุชั่วคราวทุกท่าน ที่ช่วยกันก่อสร้างเมรุชั่วคาวเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้จนเสร็จเรียบร้อย
กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้า แม่ชีทุกท่าน และชาวบ้านทุกคนที่กรุณาสละเวลามาช่วยงาน ประดับตกแต่งเมรุชั่วคราวให้เป็นระเบียบ สวยงาม ร่วมทำบุญและอยู่ร่วมงานฌาปนกิจศพหลวงตาหนูสินในครั้งนี้
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร หน่วยกู้ชีพกู้ภัยที่ช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดงาน
ขอบคุณแม่ครัวทุกท่านที่กรุณาจัดอาหารถวายพระคุณเจ้า จัดบริการอาหารและเครื่องดื่มบริการแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมทำบุญครั้งนี้จนเสร็จงาน
ขาดตกบกพร่องประการใด ต้องขอกราบอภัยเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงคุณความดีที่เราทั้งหลายได้มาร่วมคิดร่วมทำในครั้งนี้ ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ
สวัสดีครับ
…………………………………………………………………………………………….
2. สคริปต์พิธีกรงานฌาปนกิจศพ คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย
………………………………………………………………………………
หลังจากวางหีบศพไว้บนเมรุเรียบร้อยแล้ว
พิธีกร : นมัสการพระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง
เรียนคุณ ……………………………….ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย และแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
กระผม …………………..ตำแหน่ง…………..………………… ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้ทำหน้าที่พิธีกรงานฌาปนกิจศพคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ก่อนอื่นกระผมขอแจ้งกำหนดงานฌาปนกิจให้ท่านที่เคารพที่กรุณามาเดินทางมาร่วมงานศพครั้งนี้ได้รับทราบร่วมกันดังนี้
1. ไหว้พระรับศีล
2. พระสงฆ์สวดมาติกา
3. ทอดผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์
4. พระสงฆ์สวดบังสุกุลและอนุโมทนา
5. อ่านประวัติผู้ตาย
6. ทอดผ้าไตรบังสุกุลหน้าหีบศพบนเมรุ
7. ผู้ร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์บนหีบศพ
8. โปรยทานแจกของที่ระลึก
บัดนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขอเรียนเชิญคุณพ่อ…………………………. มรรคนายกเป็นผู้นำด้านศาสนพิธีต่อไป ขอเรียนเชิญครับ
หลังจากพระสงฆ์สวดมาติกาจบ
พิธีกร : ขอเรียนเชิญญาติพี่น้องนำผ้าบังสุกุลไปทอดถวายแด่พระสงฆ์บนอาสนะ ถวายให้ครบทุกรูปนะครับ (อาจจะระบุชื่อให้ไปถวายก็ได้แล้วแต่เจ้าภาพจะเห็นสมควร)
หลังจากญาติพี่น้องวางผ้าบังสุกุลต่อหน้าพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว
พิธีกร : ขอเรียนเชิญทุกท่านประนมมือร่วมพิธี กรวดน้ำรับพรครับ
หลังจากพระสงฆ์อนุโมทนาให้พรจบแล้ว
พิธีกร..ลำดับต่อไปเป็นการนำเรียนประวัติผู้ตาย งานนี้เจ้าภาพได้รับเกียรติจากนางสาวณัฐกาญจน์ กาญจนกัณโห หลานสาวคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ตัวแทนลูกหลานและญาติพี่น้องสกุลกาญจน์ เป็นผู้นำเรียนประวัติของผู้ตาย ขอเรียนเชิญครับผม
พิธีกร…..รอให้ผู้อ่านประวัติดำเนินการ อ่านประวัติและอ่านบทกลอนไว้อาลัยจนจบ
ควรเปิดเพลงธรณีกรรแสงเบา ๆ หลังสงบนิ่งและคลอเบาสุด ๆ ขณะเริ่มต้นอ่านบทกลอน และปิดเพลงเมื่ออ่านบทกลอนไปได้สักเล็กน้อย
ผู้อ่านประวัติ(ณัฐกาญจน์)…กราบนมัสการพระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรียนคุณพ่อ……………………………….ประธานพิธีงานฌาปนกิจศพคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย และแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
ดิฉัน นางสาวณัฐกาญจน์ กาญจนกัณโห หลานสาวคุณแม่สมานใจ แก้วน้อยได้รับมอบหมายจากลูกหลานและญาติพี่น้องผู้ร่วมสกุลกาญจน์แก้วน้อยเป็นต้นให้เป็นตัวแทนนำเรียนประวัติของคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย โดยสังเขป เพื่อเป็นเกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ผู้วายชนม์
ประวัติคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย โดยสังเขป
ชาติกำเนิด
คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย เกิดเมื่อ วันที่ 28 เดือนสิงหาคม พ. ศ. 2489 ที่ บ้านโนนสูง ตำบลม่วงไข่ อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ปัจจุบันเป็นตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร คุณพ่อชื่อ อาจารย์คำไข กาญจนกัณโห คุณแม่ชื่อ ปิ่น กาญจนกัณโห สกุลเดิม จูงไทย มีพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน 9 คน ดังนี้
1. คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ผู้วายชนม์
2. คุณพ่อ สุวิทย์ กาญจนกัณโห อดีตข้าราชการบำนาญครูโรงเรียนบ้านดอนตาลโนนสูง ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
3. คุณพ่อสุพล กาญจนกัณโห เสียชีวิตแล้ว
4. ผอ.พูนศักดิ์ กาญจนกัณโห ข้าราชการบำนาญครู มีครอบครัวอยู่ที่บ้านสงเปลือย ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
5. นางเพ็ญศิลป์ ไชยวงศ์คต ข้าราชการบำนาญครู มีครอบครัว อยู่ที่บ้านเจริญศิลป์ หมู่ที่ 2 ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร
6. ดร.พจน์ กาญจนกัณโห ข้าราชการบำนาญครู มีครอบครัวอยู่ที่บ้านพังโคน ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
7. นางสมภพ ศรีภัทรนันท์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านธาตุตาลเดี่ยว มีครอบครัวอยู่ที่บ้านธาตุตาลเดี่ยว ตำบลธาตุ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร
8. นายประภาส กาญจนกัณโห ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านกุดนาขาม มีครอบครัว อยู่ที่บ้านเจริญศิลป์ หมู่ที่ 2 ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร
9. นางสาวทิพาวรรณ กาญจนกัณโห ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 มีครอบครัวอยู่ที่บ้านโนนสูง หมู่ที่ 4 ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
ประวัติการศึกษา
ประวัติการครองรักครองเรือน
คุณแม่สมานใจ สมรสกับคุณพ่อสุรินทร์ แก้วน้อย เจ้าหน้าที่มาลาเรีย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ต่อมาได้ย้ายติดตามสามีมาอยู่ที่บ้านหนองหิ้ง อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ หลังจากสามีเกษียณอายุราชการแล้วได้พากันย้ายมาสร้างบ้านเรือนอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านโนนสูง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร มีลูกชายด้วยกัน 3 คน ดังนี้
1. นายจักรพงษ์ แก้วน้อย ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นพนักงาน Safety personal (เซฟตี้ เพอซันแนล ) มีครอบครัวอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี สมรสแล้ว มีลูกชาย 2 คน
2. ดาบตำรวจบันลือชัย แก้วน้อย ปัจจุบันรับราชการตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ สมรสกับนางสาวคะนึงนิตย์ ผาสุข เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนครเขต 3 มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน
3. นายอัครชัย แก้วน้อย เสียชีวิตแล้ว
4. นายภูธเรศ แก้วน้อย ประกอบอาชีพส่วนตัว อยู่ที่บ้านโนนสูง หมู่ที่ 4 ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร สมรสกับนางสาวชลิตา ปังอินทร์ ครูพี่เลี้ยงเด็กที่โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร มีลูกชายด้วยกัน 2 คน
อุปนิสัย
คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย เป็นคนใจดี มีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คุยสนุกเป็นกันเอง ขยัน อดทนเป็นเลิศ แม้เจ็บป่วยอย่างหนัก ผิดหวังอย่างแรงก็ทำใจได้ไม่บ่น ไม่ดุด่าว่ากล่าวให้ใครได้ยิน จึงเป็นที่เคารพรักนับถือของลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคน
วาระสุดท้าย
พ.ศ. 2543 คุณพ่อสุรินทร์ แก้วน้อย ผู้เป็นสามีถึงแก่กรรม จึงอาศัยอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้เรื่อยมา จนปีพ.ศ. 2558 คุณแม่สมานใจ ไม่สบายมาก จึงไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร แพทย์วินิจฉัยว่าคุณแม่สมานใจ เป็นโรคมะเร็งในถุงน้ำดี จึงต้องเทียวไปเข้ารับการรักษาด้วยการเข้าคีโมที่โรงพยาบาลสกลนครจนครบคอร์ด อาการดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ แต่ต้องเข้ารับการรักษาและตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลพังโคนและโรงพยาบาลสกลนครเป็นครั้งคราวจนเวลาล่วงเลยมาประมาณ 4 ปี กลางปี พ.ศ. 2562 คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย เริ่มป่วยอีกครั้ง ลูก ๆ ได้นำส่งโรงพยาบาลสกลนครแต่อาการไม่ดีขึ้น คุณแม่สมานใจ แก้วน้อยได้จากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.15 น. สิริอายุได้ 73 ปี ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้เกิดแก่ลูกหลานและญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
อกุศลกรรม คือกรรมไม่ดี ซึ่งคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมนั้นแก่คุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ด้วย เทอญ
กุศลกรรม คือกรรมดี ซึ่งคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ขอให้กรรมดีนั้นได้โปรด มาเป็นพลังปัจจัย อำนวยผล ดลบันดาล ให้ดวงวิญญาณของคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ขอเรียนเชิญทุกท่านยืน-นั่งตามอัธยาศัย ตั้งใจสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ไปสู่สุคติในสัมปรายภพเป็นครั้งสุดท้าย ขอเรียนเชิญค่ะ
ครบ 1 นาที ผู้อ่านประวัติ(คะนึงนิตย์ ผาสุข)อ่านบทกลอนต่อไปนี้
(อ่าน)….อาลัยคุณแม่
ชีวิตแม่ มีแต่ให้ ไม่รู้จบ รักเคารพ ด้วยใจ ไม่หวั่นไหว
กราบวันทา ศพแม่ ด้วยอาลัย น้อมกายใจ สำนึก ระลึกคุณ
แม่เลี้ยงลูก ทุกคน ด้วยความรัก ลูกลำบาก แม่โอบเอื้อ คอยเกื้อหนุน
ลูกคนไหน ขัดสน จนเกื้อกูล ชี้นำหนุน ลูกให้ ไปถูกทาง
ลูกมีภัย แม่ปกป้อง ด้วยชีวิต ลูกทำผิด คุณแม่ช่วย ด้วยความหวัง
คอยปกป้อง ประครองลูก ไปถูกทาง ส่งถึงฝั่ง แห่งฝัน กันทุกคน
แม่จึงเป็น แบบอย่าง ทางชีวิต เป็นมิ่งมิตร จริงใจ ในทุกหน
ลูกลำบาก ตรากตรำ แม่จำทน ลูกขัดสน ท้อถอย คอยปลอบใจ
มาบัดนี้ คุณแม่จาก ลูกไปแล้ว ไร้วี่แวว ลูกไม่รู้ แม่อยู่ไหน
เห็นเพียงร่าง ที่รอเข้า เมรุเผาไฟ ส่วนตัวจริง คุณแม่ไป อยู่ไหนกัน
ยิ่งคิดไป ใจหาย อาลัยรัก สุดจะหัก ห้ามใจ ไม่โศกศัลย์
ลูกไม่อาจ ช่วยแม่ฟื้น คืนชีวัน ปรับทุกข์กัน สุดฝืน กลืนน้ำตา
จึงกราบก้ม ประณมกร วิงวอนฟ้า เทพเทวา บนสวรรค์ แดนหรรษา
โปรดมารับ แม่กลับ ไปเทวา เสวยสุข บนชั้นฟ้า ให้แสนนาน
ลูกหลานอยู่ ข้างหลัง ขอตั้งจิต น้อมอุทิศ กุศลไป ให้ไพศาล
ส่งถึงแม่ ผู้จากไป ให้เบิกบาน แสนสำราญ เปี่ยมสุข ทุกคืนวัน
ถ้าตกทุกข์ ขอให้พ้น ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข ปรีดิ์เปรม เกษมสันต์
มีสุขแล้ว สุขยิ่งขึ้น ทุกคืนวัน ตราบนิรันดร์ ในภพใหม่ ชาติใหม่เทอญ
ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง
จาก…ลูกหลาน และญาติพี่น้องทุกคน
พิธีกร…… ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ (อ่านว่า..เมน)
ขอเรียนเชิญ…………………… ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 1 และกราบนิมนต์…………………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 1 ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์เจ้า ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านหันหน้าไปทางเมรุ ประณมมือร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ…………………………….. ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 2 และกราบนิมนต์…………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุลชุดที่ 2 ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ……………………………………………………ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุลชุดใหญ่ และกราบนิมนต์…………………………………………………. เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรบังสุกุลชุดใหญ่ ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณคุณคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ไปสู่สุคติด้วยกันครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร….ลำดับสุดท้ายเป็นการวางดอกไม้จันทน์
ขอกราบนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปได้โปรดวางดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการโปรดคุณโยมสมานใจ แก้วน้อย ไปสู่สุคติด้วยครับ …….-ขอกราบนิมนต์ครับ
และขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมวางดอกไม้จันทน์ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย เป็นครั้งสุดท้ายครับ
พิธีกร…. ลำดับสุดท้าย เชิญทีมงานเจ้าภาพโปรยทานหว่านของที่ระลึกครับผม โปรยให้ทั่ว หว่านให้ถึงนะครับ พวกเราเก็บเอาไปเป็นเงินขวัญถุงคนละอันสองอัน ใครเก็บได้มากก็แบ่งปันกันนะครับ ใครเก็บไม่ทันเดี๋ยวเพื่อนก็แบ่งให้ ถ้าเพื่อนไม่แบ่งให้เดี๋ยวเพื่อนก็หำโปงครับพี่น้องครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกรกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานขณะวางดอกไม้จันทน์
กราบเรียน ท่านผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
การจัดงานฌาปนกิจศพคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อยด้วยดี เนื่องจากได้รับความความร่วมแรงร่วมใจจากท่านผู้มีเกียรติ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งบ้านใกล้บ้านไกล ซึ่งต่างเดินทางมาร่วมงานทั้งที่บ้าน และที่วัดแห่งนี้ด้วยความรักและความอาลัย กระผมในนามเจ้าภาพขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอย่างสูงยิ่งไว้ ณ โอกาสนี้ … ขอบพระคุณ ………………….. ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานทอดผ้ามหาบังสุกุล …………. ขอบพระคุณคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลพังโคน โรงพยาบาลสกลนคร ที่กรุณาดูแลรักษาคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย อย่างอบอุ่นจริงใจและสุดความสามารถ แม้ไม่อาจยื้อชีวิตคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย เอาไว้ได้ แต่เป็นความประทับใจที่ลูกหลานของคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ไม่มีวันลืม ขอบพระคุณคณะครูอาจารย์ทุกท่าน และญาติพี่น้องมิตรสหายของคุณแม่สมานใจ แก้วน้อย ทุกท่านที่กรุณาสละเวลามาร่วมงานครั้งนี้ ขอบคุณคณะแม่บ้านบ้านดอนตาลโนนสูงทุกท่านที่กรุณาช่วยจัดหาพวงหรีด และจัดดอกไม้ประดับตกแต่งหีบศพให้สวยงามรวมทั้งมาร่วมงานในวันนี้ …ขอบพระคุณแม่ครัวทุกท่านที่กรุณาจัดอาหารและเครื่องดื่มบริการแขกผู้มีเกียรติจนเสร็จงาน ขาดตกบกพร่องประการใด ในนามเจ้าภาพขอกราบอภัยเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงคุณความดีที่เราทั้งหลายได้มาร่วมกระทำบำเพ็ญในวันนี้ ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ………………………………………สวัสดีครับ
กลอนขอบคุณ(ผญา/กลอนอีสาน) …..พิธีกรพิจารณาก่อนอ่านหรือไม่อ่านตามเหมาะสม
ขอขอบคุณทุกท่าน ที่มางานเผาแม่ใหญ่
ทั้งบ้านเหนือบ้านใต้ ไกลใกล้ที่หลั่งมา
สุดสิหาคำเว้า เอามากล่าวได้ทั้งเมิด
ได้แต่เพียงกลั่นกรอง จากใจเอามาเว้า
ขอบพระคุณหมู่เจ้า หลาย ๆ อีกร้อยเทือ
เผาแม่ใหญ่แล้วเมือ ให่เจ้าได้สมใจเจ้าคู่สู่อัน
การงานให่ก้าวหน่า การเงินกะให่ค่อง
การทองกะให่ได้ การบ้านให่ม่วนมัน
การอันใด๋กะให่ได้ สมดังมะโนหมาย
สุขสำบายปานพระยา อยู่ดีอย่ามีฮ้อน
นั่งนอนมีแต่โชค โฉลกดีขี่ถืกป่อง
สองโตถืกคู่เรื่อย รางวัลที่หนึ่งนั้นถืกคู่ปี คู่คนเด้อ…พี่น้องเอย
สำบายดีครับ
……………………………………………………………………………………………..
3. สคริปต์พิธีกรงานฌาปนกิจศพ พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร
…………………………………………………………………………………………..
เกริ่นนำก่อนเริ่มพิธี
พิธีกร……..เลือกอ่านบทกลอนต่อไปนี้ตามเหมาะสมแก่เวลา….
โคลง…
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนเสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
……………
ผญา…
อันว่างัวควายช้าง วางขันธ์มรณาต
ยังมีเขางากระดูกเนื้อ เหลือไว้ฝากคน
สกนธ์กายคนนี้ ยามตายสูญเปล่า แท้นา
เหลือแต่ดีชั่วฮ้าย พอยค้างโลกคน พี่น้องเอย
กลอน….
อันคำสั่ง มัจจุราช เด็ดขาดแท้ ไม่อาจแก้ เปลี่ยนแปร ไปทางไหน
ถึงเวลา มารับ ก็ต้องไป จะเป็นใคร ใหญ่แค่ไหน ไม่สำคัญ
ถึงร้องไห้ วิงวอน ออดอ้อนขอ ไม่รีรอ ถึงวอนขอ ก็ไม่ให้
ขอสั่งเสีย ญาติพี่น้อง ก่อนจากไป ให้ไม่ได้ จะเป็นใคร ต้องทำตาม
สิ่งที่ทำ ลงไป นั้นได้แน่ ดีหรือแย่ มันเที่ยงแท้ ไม่ต้องถาม
จะติดตาม ตัวไป ในทุกยาม อีกกี่ปี ก็ตาม หมั่นทำดี
กลอน…….
เจ้าเกิดมา มีอะไร มากับเจ้า ไยมัวเมา โลภลาภ ทำบาปใหญ่
เมื่อเจ้าตาย เจ้าไม่ได้ อะไรไป เจ้าก็ไป ตัวเปล่า เหมือนเจ้ามา
กลอน…….
ยามมาเกิด เราก็มา แต่ตัวเปล่า ใครบ้างเล่า ใส่เสื้อผ้า มาเกิดบ้าง
เกิดมาแล้ว หาทรัพย์สิน จนวายวาง ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างกันไป
แต่เมื่อตาย วายวาง สังขารแล้ว คนมีแก้ว แหวนทอง เงินกองใหญ่
กับคนจน ยากไร้ ไม่มีอะไร ต่างก็ไป ตัวเปล่า เท่าเทียมกัน
เงินเหรียญบาท ที่อมไว้ คราตายนั้น พวกลูกหลาน ยังเอาคืน เป็นเงินขวัญ
ตายไปแล้ว หมดสิ้น ทุกสิ่งอัน เหลือผูกพัน เพียงบุญกรรม ที่ทำมา
ว่าจะส่ง วิญญาณเรา ไปไหนบ้าง ส่งไปเกิด เป็นลิงค่าง อนาถา
ส่งไปเกิด เป็นนาคครุฑ เทวดา หรือส่งมา เกิดหล่อสวย รวยเงินทอง
หรือส่งไป รับใช้ ในนรก ถูกสับโขลก ใช้งาน สยดสยอง
ให้ถีบสัตว์ นรกลง กระทะทอง หรือถูกถอง ถีบลง กระทะเอง
หากกรรมดี เราทำ เอาไว้มาก ไม่ยุ่งยาก เพราะกรรมดี มีชื่อเสียง
ยมทูต จดไว้ ไม่ลำเอียง เมื่อเราเพียง ขาดใจ ก็ไปดี
ได้ไปสู่ สรวงสวรรค์ บนชั้นฟ้า เป็นเทวา เสวยสุข เกษมศรี
เพราะกุศล ผลบุญ คุณความดี ดลให้มี เป็นได้ ดั่งใจเรา
ถ้าเราทำ กรรมดี ทีละน้อย ทำบ่อยบ่อย จะสดชื่น ไม่อับเฉา
เพราะผลกรรม นำลิขิต ชีวิตเรา กรรมคือเงา ติดตามตน จนวันตาย
กรรมจะตาม เราไป ไม่ลดละ ไม่ว่าจะ ไปแห่งหน ตำบลไหน
จะไปอยู่ อาณาเขต ประเทศใด กรรมจะไป เกาะประชิด เฝ้าติดตาม
จะกี่ภพ กี่ชาติ กี่ศตวรรษ กรรมจะมัด เราไว้ ให้แบกหาม
ถ้ากรรมดี เกาะประชิด เฝ้าติดตาม จะแห่หาม ส่งเราไป ให้ได้ดี
ถ้ากรรมชั่ว ตามทัน ผูกพันไว้ เรื่องเลวร้าย จะรุมรุก ทุกวิถี
จะยืนเดิน นอนนั่ง ยังราวี รุมต่อยตี ให้ลำบาก ทุกข์ยากจน
ทำกรรมดี เอาไว้ให้ ตัวเองบ้าง ด้วยการสร้าง สะสมทุน บุญกุศล
เพราะผลกรรม นำลิขิต ชีวิตคน ที่หมุนวน เวียนว่าย ตายเกิดตาย
…………………………
เข้าสู่พิธีการ
พิธีกร : นมัสการ………………………… ประธานฝ่ายสงฆ์ และพระคุณเจ้าที่เคารพอย่างสูง
เรียน ………………………………………………….. ประธานฝ่ายฆราวาสและแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
กระผม…………………………………..ตำแหน่ง………………… ได้รับฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้ทำหน้าที่พิธีกรงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์สุนทร ปะภัสสะโร หรือ หลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ก่อนอื่นกระผมขอแจ้งกำหนดงานฌาปนกิจศพให้ท่านที่เคารพได้รับทราบร่วมกันดังนี้
1. ไหว้พระรับศีล
2. พระสงฆ์สวดมาติกา
3. อ่านประวัติ
4. อ่านกลอนไว้อาลัย
5. ทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุ
6. ทอดผ้าไตรรองบังสุกุลหน้าหีบศพบนเมรุ
7. ทอดผ้าไตรเอกบังสุกุลหน้าหีบศพบนเมรุ
8. เจ้าภาพถวายจตุปัจจัย
9. พระสงฆ์อนุโมทนา(ให้พร)
10. พระสงฆ์และผู้ร่วมพิธีวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ
11. โปรยทาน
12.เจ้าภาพขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
13. ฌาปนกิจศพ
บัดนี้ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขอเรียนเชิญคุณพ่อ…………………………. มรรคนายกเป็นผู้นำด้านศาสนพิธีต่อไป ขอเรียนเชิญครับ
หลังจากพระสงฆ์สวดมาติกาจบ
พิธีกร…ลำดับต่อไปเป็นการนำเรียนประวัติพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ผู้ถึงแก่มรณภาพ งานนี้เจ้าภาพได้รับเกียรติจาก……………………………………….เป็นผู้อ่านประวัติ ขอเรียนเชิญครับ
ผู้อ่านประวัติ…..นมัสการพระ…………………….ประธานฝ่ายสงฆ์และพระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรียน………………………………..ประธานฝ่ายฆราวาส และแขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
กระผม…………………………………………….. ได้รับเกียรติและฉันทานุมัติจากเจ้าภาพให้เป็นผู้นำเรียนประวัติของพระอาจารย์สุนทร ปะภัสสะโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม โดยสังเขป เพื่อเป็นเกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ผู้ถึงแก่มรณภาพ
ประวัติโดยสังเขป
ชื่อ สุนทร สิงห์งาม เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2484 ตรงกับวันอังคาร แรม 7 ค่ำเดือน 8 ปีมะเส็ง บิดาชื่อหอม สิงห์งาม มารดาชื่อ ช้อน สิงห์งาม (สกุลเดิม………………) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน …….. คนดังนี้
1……………………………………………………………………………….2……………………………………………………………………………….
3……………………………………………………………………………….4……………………………………………………………………………….
5……………………………………………………………………………….6……………………………………………………………………………….
2. ประวัติการศึกษา
1. การศึกษาภาคบังคับ
พ.ศ. 2495 เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านดอนตาลโนนสูง ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
2. การศึกษาทางพุทธศาสนา
พ.ศ. 2496 บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสายแก้ว สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักเรียนวัดสายแก้ว บ้านดอนตาลโนนสูง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ. 2497 สอบได้นักธรรมชั้นโท จากสำนักเรียนวัดสายแก้ว บ้านดอนตาลโนนสูง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ. 2499 สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดบ้านโนนกลุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
3. ประวัติการครองรักครองเรือน
พ.ศ. 2500 ลาสิกขาบท ได้พบรักและแต่งงานกับนางเขียน สิงห์งาม สกุลเดิม…………. ประกอบอาชีพทำนาและสร้างครอบครัวอยู่ที่บ้านโนนกลุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีบุตรสาว 3 คนดังนี้
1. นางแขก ………สมรสแล้ว ประกอบอาชีพค้าขายสร้างครอบครัวอยู่ที่บ้านโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
2. นางอมรรัตน์ กาญจนกันโห ประกอบอาชีพแม่บ้านโรงพยาบาลเจริญศิลป์อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร สมรสกับคุณครูประภาสน์ กาญจนกันโห ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านพรเจริญ อำเภอพรเจริญ จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญครู โรงเรียนบ้านกุดนาขาม อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร
3. นาง……สมรสแล้ว ประกอบอาชีพค้าขายสร้างครอบครัวอยู่ที่บ้านโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
4. ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2500 -2516 พาครอบครัวประกอบอาชีพทำนาอยู่ที่บ้านโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. 2517 – 2540 เดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 23 ปี
วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2545 อายุครบ 60 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดวิไล ตำบลม่วงไข่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยมีพระครูวิมลปัญโญภาส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทานนุวัตร สุวัฑฒโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระเดือน นรินโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปภัสสโร แปลว่า ผู้มีความรุ่งเรือง หรือผู้มีความผ่องใส
พ.ศ. 2546 – 2547 จำพรรษาที่วัดสายแก้ว บ้านดอนตาลโนนสูง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
พ.ศ. 2548 – 2566 จำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ้านดอนตาล ได้ชักชวนพระเณรลูกหลานชาวบ้านที่บวชจำพรรษาด้วยกันและญาติโยมชาวบ้านดอนตาลโนนสูงพัฒนาสำนักสงฆ์บ้านดอนตาลให้สะอาดสวยงามร่มรื่นน่าอยู่อาศัยเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมกรรมฐานทุกปี เป็นเวลานานถึง 18 พรรษา หลังออกพรรษาทุกปีได้ออกจาริกแสวงบุญและสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ตามวัดและสำนักปฏิบัติธรรมต่าง ๆ เรื่อยมา
5. วาระสุดท้าย
พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ป่วยด้วยโรคคนชราหรือโรคสี่สหายได้แก่ 1. เบาหวาน 2. ความดัน 3. หัวใจ และ 4. ต่อมลูกหมากโต ลูกหลานญาติโยมพาไปเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลหลายแห่ง แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงต้องกลับวัดกินยาหมอรอความตายเรื่อยมา แต่พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม เป็นพระที่เข้มแข็งอดทน ไม่เคยปริปากบ่นให้ใครฟัง ยังคงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างเข้มแข็งเหมือนปกติ เช่นปัดกวาดลานวัดทุกวันและออกเดินบิณฑบาตทุกเช้า
อาทิตย์สุดท้ายก่อนมรณภาพ ท่านมีร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย ไม่สามารถเดินทางไกลได้ จึงต้องพักอยู่ที่กุฏิโดยมีญาติโยมลูกหลานญาติพี่น้องผลัดเปลี่ยนกันไปนอนเฝ้าไข้ที่กุฏิท่านทุกคืน ต่อมาวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลา 7 โมงเช้าโยมน้องชายที่เฝ้าไข้อยู่ข้างนอกห้องไม่เห็นท่านลุกออกมาปฏิบัติกิจวัตรของสงฆ์ตามปกติจึงส่องดูทางหน้าต่างห้อง พบว่าพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ได้ถึงแก่มรณภาพอยู่ในมุ้งอย่างสงบ สิริอายุได้ 82 ปี ยังความเศร้าโศกเสียใจ ให้เกิดแก่พระสงฆ์สามเณรทุกรูปและลูกหลานญาติโยมทุกคนเป็นอย่างยิ่ง
อกุศลกรรมใด ที่เป็นกรรมไม่ดี ซึ่งพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งโดยเจตนาและไม่ได้เจตนา ขอท่านทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมนั้นแก่พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ด้วย เทอญ
กุศลกรรมใดที่เป็นคุณงามความดีที่พระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ได้ทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ขอได้โปรดดลบันดาล ให้ดวงวิญญาณของพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ได้ไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ขอเรียนเชิญทุกท่านยืนนั่งตามอัธยาศัย ตั้งใจสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ไปสู่สุคติในสัมปรายภพเป็นครั้งสุดท้าย ขอกราบเรียนเชิญครับ
(ครบ 1 นาทีแล้ว ) ประธาน….ขอบคุณครับ
พิธีกร……อ่านบทกลอนไว้อาลัยพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร หรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ดังนี้..
อาลัยพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโร
แปดสิบสอง ปีที่ท่าน ผ่านชีวิต ไปทุกทิศ เพื่อตามล่า หาความฝัน
บวชเป็นเณร หลายปี ที่ฝ่าฟัน สึกแต่งงาน มีลูกสาว ถึงสามคน
ทำงานหนัก เงินน้อย นั่งสร้อยเศร้า คนอื่นเขา ไปแดนไกล แล้วได้ผล
ได้เงินมา ใช้หนี้ หนีความจน เราก็คน เหมือนกัน ไม่พรั่นพรึง
ตัดสินใจ จำนองที่ หนีจากบ้าน ไปทำงาน แดนไกล ใจต้องถึง
ขายแรงงาน เหนื่อยแค่ไหน ไม่คำนึง หลายปีจึง กลับมา หาลูกเมีย
แต่ทุกอย่าง ไม่เป็น เช่นที่คิด เพราะชีวิต ติดพนัน การได้เสีย
ไม่มีเงิน ส่งมา ให้ลูกเมีย จึงต้องเสีย ที่ให้เขา แสนเศร้าใจ
กลับบ้านมา มือเปล่า แสนเศร้าสร้อย เห็นลูกน้อย เมินหน้า น้ำตาไหล
เมียไม่ยอม คืนดีด้วย ซวยบรรลัย เพราะหลงไป มัวเมาเล่น เห็นแก่ตัว
ตัดสินใจ เข้าวัด ตัดกิเลส ตัดสาเหตุ แห่งทุกข์ ขมุกขมัว
บวชอีกครั้ง หวังดับทุกข์ ที่ติดตัว นิพพานชัวร์ หวังใจ ได้แน่นอน
มาบัดนี้ หลวงตา มรณะแล้ว เหลือเพียงแนว หลักธรรม คำสั่งสอน
ฝากลูกหลาน ญาติโยมให้ ไม่สั่นคลอน นั่งยืนนอน สุขสงบ พบนิพพาน
จึงกราบก้ม ประณมกร วิงวอนฟ้า เทพเทวา บนแคว้น แดนสวรรค์
โปรดมารับ หลวงตากลับ ไปด้วยกัน พาสู่ชั้น วิมานฟ้า พระนิพพาน
ญาติโยมอยู่ ข้างหลัง ขอตั้งจิต น้อมอุทิศ กุศลไป ให้ไพศาล
ส่งไปถึง หลวงตาให้ ใจเบิกบาน แสนสำราญ เปี่ยมสุข ทุกคืนวัน
ถ้าตกทุกข์ ขอให้พ้น ไปจากทุกข์ ได้ถึงสุข ปรีดิ์เปรม เกษมสันต์
มีสุขแล้ว สุขยิ่งขึ้น ทุกคืนวัน ถึงนิพพาน บรมสุข หมดทุกข์เทอญ
ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง
จากพระสงฆ์สามเณร ญาติโยม ลูกหลาน และญาติพี่น้องทุกคน
พิธีกร…… ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าบังสุกุลหน้าเมรุ
พิธีกร……เจ้าภาพได้จัดผู้จะถวายผ้าบังสุกุลหน้าเมรุไว้ 3 ชุด ๆ ละ 8 ท่านดังนี้ชุดที่ 1. 1. คุณ…………………………………2. คุณ…………………………………….3. คุณ…………………………………………..4. คุณ…………………………………… 5. คุณ………………………………………..6. คุณ………………………………………..7. คุณ………………………………………….8. คุณ……………………………………….
ชุดที่ 2. 1. คุณ……………………………..2. คุณ………………………………………..3. คุณ………………………………………..4. คุณ……………………………………… 5. คุณ…………………………………….. …6. คุณ……………………………………… 7. คุณ………………………………………….8. คุณ……………………………………….
ชุดที่ 3.1. คุณ………………………………2. คุณ………………………………………..3. คุณ……………………………………….4. คุณ………………………………………. 5. คุณ………………………………………..6. คุณ………………………………………. 7. คุณ………………………………………….8. คุณ……………………………………….
พิธีกร….ลำดับต่อไป ขอเรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลชุดที่ 1
1. คุณ………………………………………….2. คุณ……………………………………. 3. คุณ………………………………………….4. คุณ………………………………………. 5. คุณ………………………………………….6. คุณ………………………………..…… 7. คุณ………………………………………….8. คุณ………………………………………..
รับผ้าบังสุกุลจากเจ้าหน้าที่ไปวางทับสายสิญจน์บนโต๊ะที่จัดไว้หน้าเมรุแล้วยืนรอเพื่อนนะครับ และกราบนิมนต์
1.พระอาจารย์………………………………2. พระอาจารย์…………………………….. 3. พระอาจารย์……………………. …….. 4..พระอาจารย์……………………………..5.พระอาจารย์………………………………. 6.. พระอาจารย์…………………………… 7.พระอาจารย์………………………………. 8.. พระอาจารย์……………………………เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุล ขอกราบนิมนต์ ครับ …….และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ประณมมือร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันครับ
พิธีกร…ลำดับต่อไป เรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลชุดที่ 2 ครับ
1. คุณ……………………………………………2. คุณ…………………………………….3. คุณ…………………………………………..4. คุณ…………………………………… 5. คุณ…………………………………………..6. คุณ……………………………………. 7. คุณ…………………………………………8. คุณ………………………………………..
และกราบนิมนต์
1.พระอาจารย์………………………………2. พระอาจารย์…………………………….. 3. พระอาจารย์……………………. …….. 4..พระอาจารย์……………………………..5.พระอาจารย์………………………………. 6.. พระอาจารย์…………………………… 7.พระอาจารย์………………………………. 8.. พระอาจารย์……………………………เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุล ….กราบนิมนต์ครับ
พิธีกร….ลำดับต่อไปขอเรียนเชิญผู้ให้เกียรติทอดผ้าบังสุกุลชุดที่ 3 ครับ
1. คุณ……………………………………………2. คุณ…………………………………….3. คุณ…………………………………………..4. คุณ…………………………………… 5. คุณ…………………………………………..6. คุณ……………………………………. 7. คุณ…………………………………….. 8. คุณ……………………………………. ……กราบนิมนต์
1.พระอาจารย์………………………………2. พระอาจารย์…………………………….. 3. พระอาจารย์……………………. …….. 4..พระอาจารย์……………………………..5.พระอาจารย์………………………………. 6.. พระอาจารย์…………………………… 7.พระอาจารย์………………………………. 8.. พระอาจารย์……………………………เป็นผู้พิจารณาชักผ้าบังสุกุล …….กราบนิมนต์ ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร….ลำดับต่อไปเป็นการทอดผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ
ขอเรียนเชิญ…………………………….. ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรรองบังสุกุลชุดที่ 1 และกราบนิมนต์………………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรรองบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ…………………………….. ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรรองบังสุกุลชุดที่ 2 และกราบนิมนต์…………………………… เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรรองบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญ………………………………………………. ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ให้เกียรติเป็นผู้ทอดผ้าไตรเอกบังสุกุลเป็นชุดสุดท้าย และกราบนิมนต์………………………………………………….ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ เป็นผู้พิจารณาชักผ้าไตรเอกบังสุกุล ขอเรียนเชิญ และขอกราบนิมนต์ครับ และเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประนมมือร่วมอนุโมทนาบุญ ตั้งจิตอธิษฐานส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ไปสู่สุคติด้วยกันครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร…..เชิญเจ้าภาพนำจตุปัจจัยไทยธรรมไปถวายแด่พระสงฆ์บนศาลาพิธีครับ
พระสงฆ์….อนุโมทนา(ให้พร)
พิธีกร……ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านประณมมือรับพรจากพระคุณเจ้าบนศาลาพิธีครับ
(เสร็จแล้ว)
พิธีกร….ลำดับสุดท้ายเป็นการวางดอกไม้จันทน์
ขอนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปได้โปรดขึ้นวางดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการโปรดพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ไปสู่สุคติด้วยครับ …….-ขอกราบนิมนต์ครับและขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมวางดอกไม้จันทน์ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ไปสู่สคติเป็นครั้งสุดท้ายต่อแถวพระอาจารย์เลยครับ
พิธีกร…ลำดับสุดท้าย เชิญทีมงานเจ้าภาพโปรยทานหว่านของที่ระลึกครับผม โปรยให้ทั่ว หว่านให้ถึงนะครับ พวกเราเก็บเอาไปเป็นเงินขวัญถุงคนละอันสองอัน ใครเก็บได้มากก็แบ่งปันกันนะครับ ใครเก็บไม่ทันเดี๋ยวเพื่อนก็แบ่งให้ ถ้าเพื่อนไม่แบ่งให้เดี๋ยวเพื่อนก็หำโปงครับ
(ขณะกำลังหว่านโปรยทาน)
พิธีกร….. กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานขณะวางดอกไม้จันทน์ (ปรับใช้ตามเหมาะสม)ดังนี้….
นมัสการ พระคุณเจ้า ที่เคารพอย่างสูง เรียน แขกผู้มีเกียรติ ที่เคารพรักทุกท่าน
การจัดงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อยด้วยดี เนื่องจากได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากพระคุณเจ้า ท่านผู้มีเกียรติ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งบ้านใกล้บ้านไกล ซึ่งต่างเดินทางมาร่วมงานที่วัดแห่งนี้ด้วยความรักและศรัทธาอาลัย กระผม นาย …………………… ในนามเจ้าภาพรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่สุด ที่ได้เห็นท่านทั้งหลายมาร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ไปสู่สุคติอย่างอบอุ่น ไม่มีอะไรจะมอบให้ท่านเป็นการตอบแทนนอกจากคำขอบพระคุณอย่างสูงยิ่ง
ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระ………………………..เจ้าคณะ……………………………………………ที่กรุณามาเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ในงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ครั้งนี้เป็นอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณ……………………………….ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสทอดไตรบังสุกุลในงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ครั้งนี้เป็นอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลพัง โรงพยาบาลสกลนครและสถานพยาบาลทุกแห่ง ที่กรุณาดูแลรักษาพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม จนสุดความสามารถ แม้สุดท้ายไม่อาจยื้อชีวิตพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม เอาไว้ได้ แต่เป็นความประทับใจที่ชาวบ้านญาติโยมลูกหลานของพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม จะจดจำและทับใจไม่มีวันลืม
ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าทุกรูป และผู้มีส่วนร่วมในการสร้างเมรุชั่วคราวทุกท่าน ที่ช่วยกันก่อสร้างเมรุชั่วคาวเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้จนเสร็จเรียบร้อย
กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าทุกรูป แม่ชีทุกท่าน และชาวบ้านทุกคนที่กรุณาสละเวลามาช่วยงาน ประดับตกแต่งเมรุชั่วคราวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม ร่วมทำบุญและอยู่ร่วมงานฌาปนกิจศพพระอาจารย์สุนทร ปภัสสโรหรือหลวงตาอู๊ด สิงห์งาม ในครั้งนี้อย่างสูงยิ่ง
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร หน่วยกู้ชีพกู้ภัยที่ช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดงาน
ขอบคุณแม่ครัวทุกท่านเป็นอย่างยิ่งที่กรุณาจัดอาหารถวายพระคุณเจ้า จัดบริการอาหารและเครื่องดื่มบริการแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมทำบุญครั้งนี้จนเสร็จงาน
ขาดตกบกพร่องประการใด ต้องขอกราบอภัยเป็นอย่างมากไว้ ณ โอกาสนี้
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงคุณความดีที่เราทั้งหลายได้มาร่วมคิดร่วมทำในครั้งนี้ ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ
สวัสดีครับ