………………………
กลอนที่ 1
…………………….
เกิดมานาน เกือบร้อยปี ก็เลยแก่
สังขารแย่ ทุกส่วน จวนสลาย
นัยน์ตาพร่า เห็นไม่ชัด ทั้งใกล้ไกล
หูก็ไป นอนนา อย่าถามเลย
ส่วนจมูก ยังพอมี ดีอยู่บ้าง
คนเคียงข้าง ตดหรือไม่ ให้เฉลย
ยังพอชี้ ตัวให้ ได้อย่างเคย
ตดแล้วเฉย เพียงใด ก็รู้ทัน
ส่วนฟันหลุด ร่วงหล่น จนหมดแล้ว
เหลือเพียงแนว เหงือกง้ำ พอขำขัน
ใช้ขบเคี้ยว อาหาร ทดแทนฟัน
ได้แต่ฝัน ถึงฟันดี ที่ผ่านมา
ส่วนหัวเข่า ก็ชำรุด สุดทางแก้
เดินยักแย่ ยามลุกยื้อ มือยันฝา
ใช้ไม้เท้า ถ่อเดิน ไร้เงินตรา
หมอให้ยา กินแก้ปวด ไม่ตรวจเลย
ผมก็ร่วง หลุดหล่น จนหมดแล้ว
ไร้วี่แวว ผมเคยมี หนีไปเฉย
ส่องกระจก นกตะกรุม โผล่มาเลย
ชายที่เคย หล่อสุด ไม่ผุดมา
นอนชันเข่า ในมุ้ง หนียุงร้าย
ที่มุ่งหมาย บินล้อมวง ตรงเข้าหา
ช่องมุ้งขาด เพื่อเล็ดลอด ดอดเข้ามา
เกาะแข้งขา ดูดเลือดกิน ก่อนบินไป
ชีวิตชาย วัยชรา ช่างน่าเศร้า
ลูกไม่เอา หลานหลบลี้ หนีห่างหาย
ยายก็แก่ ป่วยร่อแร่ รอวันตาย
ไม่มีใคร ช่วยเหลือ คอยเจือจุน
ได้อาศัย เงินคนแก่ พอแก้ขัด
สารพัด รายจ่าย ไร้เงินหมุน
เงินคนแก่ เท่านั้น เป็นต้นทุน
พอเกื้อหนุน ได้ดื่มกิน ก่อนสิ้นใจ
……………………..
กลอนที่ 2
…………………….
แก่มานาน หลายสิบปี แต่มีทรัพย์
เมียเคยนับ ทรัพย์สิน สิ้นเสียแล้ว
เหลือเพียงเรา นั่งจับเจ่า เป็นเฒ่าแนว
ของนับแล้ว ลืมหลง เป็นงงมึน
ทั้งไร่นา เรือนชาน บ้านเช่าอยู่
สัญญากู้ ดูทีไร ก็ของขึ้น
ใช้ต้นแล้ว ดอกเราขอ ก็ตีมึน
ยังส่งขึ้น ศาลเร่งรัด ให้จัดการ
สมุดฝาก มีมาก ตั้งสองเล่ม
เงินฝากเต็ม เล่มละร้อย มีหลักฐาน
ถ้าเราตาย ใครหนอ จะจัดการ
จะแจกหลาน ก็ใจหาย เสียดายมัน
ค้นหาทรัพย์ มากอง นั่งมองนับ
แต่ละทรัพย์ นับแล้ว ก็นึกขัน
ทั้งรองเท้า กระเป๋าหนัง ตั้งสองอัน
เมียของฉัน ซื้อทำไม ตั้งมากมาย
จักรยาน สองคัน เท่านั้นแหละ
ถือว่าแยะ เกินไป ใจอยากขาย
อยู่คนเดียว รถสองคัน มันมากไป
ประกาศขาย ใครไม่เอา มันเก่าเกิน
จะหาเมีย วัยรุ่น หุ่นฉอเลาะ
ก็ไม่เหมาะ เพราะเราปู่ ดูขัดเขิน
เมียวัยดึก รุ่นเดียวกัน ก็แก่เกิน
ข่าวใช้เงิน ซื้อรัก มักถูกลวง
ได้แต่นั่ง จับเจ่า เป็นเจ้าทุกข์
หมดสนุก เพราะเงินทอง ของที่หวง
นึกหวั่นไหว กลัวใครเขา เข้ามาลวง
นั่งมึนงง หลงไม่รู้ กูเป็นใคร
………………………………….