…………………………………………..
ก. สภาพการณ์ก่อนตั้งวิหารหลักเมือง
สมัยก่อนบริเวณหนองทุ่งมนและวัดป่าดอนธาตุวิไลยริมหนองทุ่งมนมีเรื่องหลอนที่เล่าขานกันมากมาย เชื่อกันว่าน่าจะเป็นที่อยู่ของดวงวิญญาณ สัมภเวสี และภูติผีปิศาจทั้งหลาย ดังเรื่องเล่าต่อไปนี้
-ผอ.สุพิทย์ จุลราช เล่าว่าเมื่อเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2515 เพิ่งเป็นครูบรรจุใหม่เพื่อนครูชวนไปดูแสงประหลาดโตขนาดกำปั้นที่ลอยขึ้นลงในบริเวณก่อไผ่วัดป่าดอนธาตุวิลัยริมหนองทุ่งมน บ้านทุ่งมน พอตกดึกจะลอยขึ้นสูงข้ามหนองทุ่งมนแล้วหายลับไปทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันออก และจะกลับมาอีกครั้งก่อนฟ้าสาง ซึ่งมีให้เห็นทุกคืนวันพระใหญ่
-ผอ.เข็มเพชร กองแก้ว เล่าว่าเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2520 ขณะกำลังนั่งล้อมวงสังสรรค์กับเพื่อนครูบรรจุใหม่ด้วยกัน พอเมาได้ที่ก็ร้องเพลงตีเกราะเคาะถังกะละมังปีบกับเพื่อนครูอย่างสนุกสนานที่บริเวณข้างบ้านพักครูโรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา’โพธิ์คำอนุสรณ์’ ตั้งแต่หัวค่ำจนดึกดื่นเที่ยงคืน รู้สึกสะดุ้งเมื่อมีหญิงสาวผมยาวสลวย หน้าตาดี หุ่นฉอเลาะมาสะกิดสีข้างเบา ๆขอร้องให้พาเธอไปส่งบ้าน จึงรีบลุกขึ้นละจากวงสังสรรค์เดินตามเธอไปทันที เพื่อนร่วมวงสังสรรเข้าใจว่าท่านจะไปปลดทุกข์ ท่านเดินตามหญิงสาวคนนั้นไปตามคันคูหนองทุ่งมนประมาณสามกิโลเมตรจึงถึงหน้าบ้านของเธอซึ่งมองเห็นแสงไฟวับ ๆ แวม ๆ ลอดออกมาจากภายในตัวบ้านจึงชวนกันนั่งลงที่คันคูหนองคุยกันต่อ จนกระทั้งได้ยินเสียงไก่ขันบอกเวลาฟ้าสางจากหมู่บ้านทุ่งมน เธอจึงบอกลาเข้าบ้าน ท่านผอ.ตื่นจากภวังค์ พบว่าตัวเองนั่งอยู่คนเดียว บ้านและหญิงสาวหายวับไปกับความมืดสลัวหน้าวัดป่าดอนธาตุวิลัย รู้สึกตกใจและกลัวมากรีบลุกขึ้นเดินกึ่งวิ่งเข้าไปปลุกพี่ครูที่รู้จักคุ้นเคยหน้าโรงเรียนในหมู่บ้านทุ่งมนเพื่อขออาศัยนอนชั่วคราว ท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่กล้าย้อนกลับไปร่วมวงสังสรรค์ที่นั้นอีกเลย
-หลวงปู่กาเล่าว่า ตนเองเคยบวชเรียนเพียรธรรมมากว่าสิบปีก่อนสึกมามีครอบครัว พอลูกโตมีครอบครัวหมดแล้ว ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากก็เสียชีวิตไป จึงตัดสินใจบวชอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2521 ขณะจำพรรษาที่วัดป่าดอนธาตุวิลัย ถูกผีอีสิ้นเหี้ยนบุกขึ้นไปหลอกหลอนบนกุฏิตอนดึกทุกคืนวันพระ จนอยู่ไม่ได้ ต้องกราบลาท่านเจ้าอาวาสหนีไปอยู่วัดอื่นในกลางพรรษา
-ท่านอาจารย์วิเชียร พระราช อดีตผู้ช่วย ผอ.โรงเรียนบ้านทุ่งมนธาตุวิทยา เล่าว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2535 หลังขุดลอกหนองทุ่งมนตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวรัชกาลที่ 9 เสร็จใหม่ พอถึงฤดูฝนน้ำเต็มหนองทุ่งมนเนื้อที่ 1,2000 ไร่ ความลึกประมาณ 2.5 เมตร ประมงจังหวัดสกลนครได้นำกุ้งปลาตัวเล็กตัวใหญ่มาปล่อยจำนวนมาก คืนหนึ่งหัวหน้าผีได้มาเข้าฝันขอผูกเสี่ยวด้วย หัวหน้าผีเล่าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่าน้ำท่วมบ้านเรือนหมดแล้ว พวกเราคงต้องทยอยอพยพไปอยู่ที่คำชะโนดจนหมดในไม่ช้า คงเหลือแต่ผู้ที่อยู่ริมหนองและบนเกาะ ตอนนี้เรายังอยู่เฝ้าหนอง เพื่อนลงหาปลาในหนองได้เลยเราจะช่วย ท่านเล่าต่อไปว่า จากคืนนั้นเป็นต้นมาปลาติดมอง(ข่ายดักปลา)จำนวนมากเหลือกินจนได้ขายทุกวัน สามปีต่อมาหัวหน้าผีตนเดิมได้มาเข้าฝันอีกครั้งเพื่อบอกลาไปอยู่คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี นับจากวันนั้นมาปลาติดมองน้อยแทบไม่พอกิน
-อาจารย์วิสิทธิ์ พิมพิศาล ครูโรงเรียนบ้านทุ่งมนธาตุวิทยาเล่าว่า งานลอยกระทงแข่งเรือที่หนองทุ่งมนเมื่อปี พ.ศ. 2538 ขณะชาวบ้านกำลังกำลังแข่งเรือพายอย่างสนุกสนาน ท่านได้ร่วมวงก๊งสุราริมหนองทุ่งมนกับเพื่อน ๆเพื่อชมการแข่งขันเรือพาย มีหญิงสาวสวยอวบอั๋นใส่สิ้นสั้นนางหนึ่งมาดึงแขนให้ลุกขึ้นชักชวนลงเล่นน้ำ ท่านรีบตามเธอไปทันที ขณะที่กำลังจะจมน้ำตายเพราะน้ำลึกเท้าหยั่งไม่ถึงพื้น และตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น เพื่อน ๆ ในวงเหล้ากระโดดลงไปช่วยขึ้นมาได้รอดตายอย่างหวุดหวิด
ข.การตั้งวิหารหลักเมืองเจริญศิลป์
อำเภออื่นจังหวัดอื่นในประเทศไทยล้วนมีเสาหลักเมืองหรือศาลหลักเมืองทั้งสิ้น แต่อำเภอเจริญศิลป์ไม่ใช่ ดังเรื่องเล่าต่อไปนี้
หลังจากทางราชการมีคำสั่งตั้งอำเภอเจริญศิลป์ใหม่ ๆ นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ นายอำเภอเจริญศิลป์ในขณะนั้นได้เรียกประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาตั้งศาลหลักเมือง ข้าพเจ้าได้เสนอในที่ประชุมว่า การตั้งศาลหลักเมืองเพื่อเชิญดวงวิญญาณบรรพบุรุษและภูติผีบริวารมาปกป้องคุ้มครองก็เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราตั้งวิหารหลักเมืองเพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและปกป้องคุ้มครองชาวเมืองเจริญศิลป์ เพราะ ผู้คนในเขตเทศบาลตำบลเจริญศิลป์มากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นชาวพุทธ และแม้แต่ดวงวิญญาณ ผีบรรพบุรุษและผีอื่น ๆ ที่เราจะเชิญมาสิงสถิตที่ศาลหลักเมืองก็น่าจะเป็นดวงวิญญาณและภูติผีที่เป็นชาวพุทธเช่นเดียวกัน ท่านยังไม่สิ้นกิเลส ยังมีรักโลภโกรธหลงอยู่เช่นเดียวกันกับพวกเรา ซึ่งภายภาคหน้าถ้าลูกหลานของเราทำอะไรให้ไม่ถูกใจอาจถูกทำร้ายได้ ส่วนพระพุทธรูปไม่ใช่ผี ไม่มีชีวิตและไม่มีวิญญาณ เป็นเพียงรูปเคารพหรือสัญลักษณ์หรือตัวแทนของพระพุทธเจ้า ที่เต็มเปี่ยมด้วยพุทธคุณคือ ความบริสุทธิ์ ความมีปัญญา และความมีเมตตา เชื่อกันว่ามีอิทธิปาฏิหารย์มากมายที่ซ่อนอยู่ในองค์พระพุทธรูปนั้น สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธและผู้ที่เชื่อถือศรัทธาให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณความดีและมีความสุขความเจริญได้ไม่จำกัด และที่สำคัญคือไม่ทำร้ายใคร
เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมประชุมบางท่านไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นวิหารจึงตั้งข้อสงสัยว่า วิหารคืออะไร ข้าพเจ้าจึงต้องอธิบายให้สิ้นกระบวนความว่า กุฏิเป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ เว็จกุฎีเป็นที่ถ่ายอุจจาระของพระเณร ภาษาชาวบ้านเรียกว่าสุขาหรือส้วม โบสถ์หรืออุโบสถตั้งอยู่ในวัดทั่วไปแต่ถ้าตั้งอยู่ในวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคาสีมาหรือวัดหลวงเรียกว่าพระอุโบสถ เป็นที่ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์เช่นไหว้พระสวดมนต์ สวดปาฏิโมกข์ บรรพชาบวชเป็นเณร อุปสมบทบวชเป็นพระ ศาลาการเปรียญเป็นที่จัดกิจกรรมทำบุญของชาวบ้าน ส่วนวิหารเป็นที่ประดิษฐานหรือที่ตั้งหรือที่เก็บรวมพระพุทธรูป
-ที่ประชุมได้อภิปรายเรื่องนี้ไปในทางส่งเสริมสอดคล้องกันเช่น
-เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ดวงวิญญาณที่เราเชิญมานั้นเป็นดวงวิญญานของบรรพบุรุษของเราจริง อาจเป็นอสุรกาย ผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหังหรือผีกองก้นกองกอยก็ได้เพราะไม่มีใครมองเห็น เชิญสุ่มสี่สุ่มห้าได้ผีกองกอยมาขโมยกินตับลูกหลานจะทำอย่างไร
-ท่านจะอยู่เฝ้าศาลหลักเมืองนานแค่ไหน จะไม่ไปเกิดเลยหรืออย่างไร ?
-บางท่านอภิปรายด้วยความเป็นห่วงว่าถ้าเป็นดวงวิญญาณของบรรพบุรุษเราจริงยิ่งน่ากังวลเพราะท่านคงอยากไปเกิดใหม่ เป็นเทวดาหรือนางฟ้าบนสวรรค์มากกว่าเสียเวลามาเป็นผีอดอยากนั่งเฝ้าศาลหลักเมือง อาหารก็ได้กินเพียงปีละมื้อ หิวก็หิว ร้อนก็ร้อน แอร์ก็ไม่ติดตั้งให้ พัดลมก็ไม่มี
-ถ้าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษเราไปเกิดหมดแล้วศาลที่เราสร้างไว้คงเป็นศาลร้าง กลายเป็นที่อยู่ของสัมภเวสีผีเร่ร่อนหรือไม่ ?
-สุดท้ายได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าให้ตั้งวิหารหลักเมืองแทน เสาหลักเมืองหรือศาลหลักเมืองซึ่งไม่เหมือนเมืองอื่นใดในโลก
-นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ นายอำเภอเจริญศิลป์ในขณะนั้นรับอาสาดำเนินการจัดหางบประมาณและดำเนินการก่อสร้างวิหารหลักเมืองรวมทั้งไปจัดหาพระพุทธรูปที่เหมาะสมมาประดิษฐานไว้
เมื่อสร้างฐานของวิหารหลักเมืองเสร็จแล้ว นายอำเภอได้ไปติดต่อขอรับหลวงพ่อองค์ดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยหรือปางชนะมาร พุทธลักษณะนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลาหรือตัก พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุหรือเข่า ปลายพระหัตถ์ชี้ลงพื้น สีดำทั้งองค์และแท่น โดยจำลองมาจากหลวงพ่อองค์ดำแห่งมหาวิยาลัยนาลันทาประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเพียงหนึ่งเดียวที่รอดพ้นจากการบุกเผา ทุบทำลายของนักรบมุสลิมในศาสนาอิสลามจากเจ้าคณะอำเภอบ้านผือฝ่ายธรรมยุติ จังหวัดอุดรธานี โดยคุณสมจิต ใจหาญ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคสร้างไว้หลายองค์ เพื่อมอบให้แก่วัดและสถานที่ราชการ ที่แจ้งความจำนงขอไป
ค. อภินิหารหลวงพ่อองค์ดำ
-ตอนบ่ายของวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2538 ข้าพเจ้ากับ ผอ.สุพิทย์ จุลราช และคณะได้รับมอบหมายให้แต่งพราหมณ์ไปทำพิธีตั้งวิหารหลักเมืองเจริญศิลป์ในสถานที่ก่อสร้างวิหารหลักเมืองริมหนองทุ่งมนด้านทิศตะวันตก ขณะรอคณะนายอำเภอที่ไปอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำจากอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ในตอนบ่ายวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆ ไร้ลม อากาศร้อนมากและร้อนแล้งอย่างนี้มานานร่วมสามเดือนแล้ว แต่พอขบวนอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำเข้าเขตอำเภอเจริญศิลป์ ได้เกิดลมพายุพัดพาความเย็นและเมฆฝนบนท้องฟ้ามาปกคลุมเหนือบริเวณพิธี เมื่อขบวนอัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำมาถึงบริเวณงาน ผู้ร่วมพิธีต่างไชโยโห่ร้องด้วยความยินดีปรีดาและได้อัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำขึ้นประดิษฐานไว้บนแท่นที่ก่อสร้างวิหารหลักเมืองเจริญศิลป์เมื่อเวลาประมาณ 17 . 00 น.ของวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2538 ขณะที่อัญเชิญหลวงพ่อองค์ดำขึ้นประดิษฐานไว้บนแท่นวิหารหลักเมืองเจริญศิลป์นั้น ฝนได้โปรยปรายลงมาห่าใหญ่แต่ไม่นานนักก็แปรเปลี่ยนเป็นละอองฝน ทันใดนั้นได้เกิดปรากฏการณ์วงกลมรุ้งเจ็ดสีขนาดใหญ่ที่กลุ่มเมฆฝนบนท้องฟ้าแล้วแปรเปลี่ยนเป็นรุ้งกินน้ำเหนือบริเวณพิธีอย่างน่าอัศจรรย์ ผู้คนต่างตกตลึงและโห่ร้องด้วยความยินดีปรีดาอีกครั้ง ปรากฏการณ์ละอองฝน วงกลมรุ้งเจ็ดสีขนาดใหญ่ และรุ้งกินน้ำที่ก้อนเมฆบนท้องฟ้ากินเวลานานประมาณ 30 นาทีก็เลือนลางและจางหายไปพร้อมกับแสงแห่งตะวัน มันเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่ติดตาตรึงใจของชาวเมืองเจริญศิลป์ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ผู้ร่วมพิธีต่างเข้าไปก้มกราบหลวงพ่อองค์ดำที่ประทับนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนแท่นไม่มีหลังคาก่อนทยอยเดินทางกลับบ้าน แม้พื้นดินบริเวณพิธีจะเเปียกฝนและชุ่มน้ำแต่ใจที่เต็มเปี่ยมด้วยปิติและศรัทธานำพาให้ข้าพเจ้าเข้าไปนั่งคุกเข่าก้มกราบหลวงพ่อองค์ดำก่อนกลับบ้านด้วยความเบิกบานใจเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ เมื่อสร้างวิหารหลักเมืองเจริญศิลป์เสร็จสมบูรณ์แล้ว หน่วยงานรัฐทั้งอำเภอและเทศบาลรวมทั้งชาวเมืองเจริญศิลป์ได้ร่วมกันจัดงานสมโภชน์วิหารหลักเมืองเจริญศิลป์และหลวงพ่อองค์ดำอย่างยิ่งใหญ่ ต่อมาได้กำหนดให้วันที่ 9 เมษายนของทุกปีเป็นวันสมโภชน์วิหารหลักเมืองเจริญศิลป์และหลวงพ่อองค์ดำ และกำหนดให้เป็นวันผู้สูงอายุของชาวเมืองเจริญศิลป์ในวันเดียวกัน
-ชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธาหลั่งไหลไปกราบไหว้บูชา บนบานขอให้ท่านช่วยดลบันดาลให้ได้ มี เป็นโน่นนี่นั่นและบางคนก็กลับมาแก้บนด้วยวิธีตามความเชื่อของตนเมื่อประสบความสำเร็จได้ มี เป็นดังที่บนบานไว้
-วิหารหลักเมืองเจริญศิลป์และหลวงพ่อองค์ดำเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวเมืองเจริญศิลป์ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ละเว้นความชั่ว ทำแต่ความดีและทำใจให้ผ่องใสตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้ชีวิตตนเอง ครอบครัว ประสบแต่ความสุขความเจริญและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตราบเท่าทุกวันนี้
……………………………………………………………………………
กระแสเสี่ยแมน คะแนนเสี่ยโก้
การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านแทนตำแหน่งว่างของบ้านเจริญศิลป์หมู่ที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2566 เป็นการแข่งขันกันระหว่างเสี่ยแมนลานมันกับเสี่ยโก้รถไถ
เปรียบเทียบขุมกำลัง
เสี่ยแมนลานมัน อายุ 41 ปี เป็นคนหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย มาดสุขุมนุ่มลึก สาว ๆ เห็นกรี้ดกร๊าด ๆ ๆ ปีนี้เช่าที่ดินปลูกมัน 100 กว่าไร่ คาดว่าจะมีลานมันเป็นของตัวเองในไม่ช้า มีเสี่ยโชคผู้เป็นบิดาและเครือญาติพร้อมทีมงานอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนก่อนครึ่งหนึ่งให้การสนับสนุน
เสี่ยโก้รถไถ อายุ 55 ปี เป็นหนุ่มใหญ่ไฟกระพริบ พูดเสียงดังฟังชัด ใจถึงพึ่งได้ มีรถไถมือสองของตัวเองจำนวนสองคัน ซ่อมก่อนใช้แทบทุกครั้ง ซึ่งมีพ่อครูวิเศษ อดีตข้าราชการครูเกษียณผู้เป็นอา และเครือญาติพร้อมทีมงานอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนก่อนครึ่งหนึ่งให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน
แจกเงินไม่ผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ประกาศทางหอกระจายข่าวของหมู่บ้านว่า การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านครั้งนี้ ผู้สมัครสามารถแจกเงินซื้อเสียงได้เต็มที่ ไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีกฎหมายเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน และไม่มี ก.ก.ต. มากำกับดูแลการเลือกตั้ง แจกมากเท่าไหร่ยิ่งดี แจกหัวละสองพันสามพันยิ่งดีใหญ่ ชาวบ้านจะได้มีเงินจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจเฟื่องฟู
ก่อนถึงวันสมัครรับเลือกตั้งประมาณเดือนกว่า ๆ ข้าพเจ้าคิดว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ถ้าปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายสู้กันคงถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดสนิทสนมอยู่ชมชนเดียวกัน จึงตัดสินใจเข้าเจรจากับเสี่ยโชคผู้ให้การสนับสนุนเสี่ยแมนลานมัน และเสี่ยโก้รถไถอย่างลับ ๆ โดยการตั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่รวมกันโดยให้เสี่ยโก้รถไถเป็นก่อน เพราะเหลือเวลางานแค่ห้าปี และถ้าได้เป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วให้รีบดำเนินการแยกหมู่บ้านเป็นเรื่องแรก ส่วนเสี่ยแมนลานมันเหลือเวลางานตั้งสิบเก้าปี ให้อดทนรอแยกหมู่บ้านสำเร็จก่อนค่อยเป็น ซึ่งโดยวิธีนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้ไม่เปลืองแรงไม่เสียเหงื่อและเสียเงินจำนวนมาก แต่การเจรจาล้มเหลว เพราะแต่ละฝ่ายยืนกรานขอเป็นผู้ใหญ่บ้านก่อน
ทั้งสองฝ่ายต่างสร้างทีมงานของตนขึ้นมาและสะสมเสบียงเพื่อเตรียมสร้างกระแสและยิงกระสุน
ข้าพเจ้าตรวจดูลายมือของเสี่ยโก้รถไถเห็นเนินพฤหัสใต้ฐานนิ้วชี้ อวบนูนมีลายเส้นตั้งตรงบนเนินพฤหัส แสดงถึงช่วงชีวิตที่อำนาจวาสนากำลังรุ่งโรจน์ จึงตัดสินใจส่งลูกชายคนเล็กที่เรียนจบป.ตรีแล้วแต่ว่างงานมาหลายปี วัน ๆ ขลุกอยู่แต่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องซึ่งอาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ ให้เข้าร่วมทีมเสี่ยโก้รถไถเพื่อจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอก เรียนรู้วิถีชาวบ้านและอยู่ร่วมกับชาวบ้านชาวเมืองอย่างมีความสุขหลังจากพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว
ประชุมทีมงานครั้งแรก
ดิฉันตั้งใจมากอยากให้สามีได้เป็นผู้ใหญ่บ้านตามที่แกใฝ่ฝัน ครอบครัวเรามีเงินอยู่เท่านี้จะส่งสามีให้ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ก็ไม่รู้ ถ้าได้เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ให้ทำประโยชน์แก่บ้านเมืองตามหน้าที่ต่อไป หรือสอบตกไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ให้ขายรถไถทั้งหมดแล้วนอนอยู่บ้านเฉย ๆ เพราะแก่แล้ว ดิฉันจะหาเลี้ยงเอง
ที่ประชุมอภิปรายเรื่องนี้อย่างกว้างขวางและมีมติว่า
ให้ทีมงานไปตกลงกันว่า จะเดี่ยวหรือจับคู่
เหตุที่ต้องมีการลงหุ้นก็เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ที่ประสงค์จะลองเสี่ยงร่วมลงเลือกตั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะแพ้หรือชนะ เงินเดือนให้แบ่งกันตามหุ้น
มีผู้เสนอตัวเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตัวจริง 1 คน จ่าย 100,000 บาท
ทราบว่าทีมงานเสี่ยแมนลานมัน ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และมีการปล่อยข่าวเป็นระยะว่าทีมงานเข้มแข็ง ที่สำคัญมีการเตรียมกระสุนไว้ยิงหลายกระสอบพร้อมยิงทับเสี่ยโก้รถไถอย่างไม่อั้น
ก่อนวันรับสมัครประมาณสองเดือน เสี่ยโก้รถไถได้นัดประชุมทีมงานเพื่อขอคำชี้แนะในการหาเสียงเพื่อสร้างกระแส
พ่อครูวิเศษอภิปรายว่า การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน แพ้หรือชนะมักขึ้นอยู่กับจำนวนญาติพี่น้องของใครมากกว่ากัน บางหมู่บ้านชนะเลือกตั้งเพียง 1 คะแนน บางหมู่บ้านคะแนนเสียงเท่ากัน นายอำเภอต้องลงมาตัดสินโดยให้ผู้สมัครทั้งสองฝ่ายจับไม้สั้นไม้ยาว บางหมู่บ้านให้เล่นเป่ายิ่งสุ่ม ดังนั้นเราต้องใส่ใจทุกคะแนนเสียง เพราะมีความหมายต่อการแพ้หรือชนะ จึงอยากให้ทุกคนไปรวบรวมรายชื่อญาติพี่น้องและญาติสนิทมิตรสหายตลอดถึงผู้ที่เคารพนับถือที่น่าจะอยู่ข้างเรามาให้ได้มากที่สุดเพื่อมาคัดกรองจัดเกรด
ข้าพเจ้าเสนอว่า การหาเสียง อยากให้เดินตามแนวทางของหลวงปูแปเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเจริญศิลป์จนชนะเลือกตั้ง กล่าวคือให้เสี่ยโก้กับภรรยาไปเสนอตัวรับใช้ในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านกับเจ้าของบ้านทุกหลังคาเรือนในหมู่บ้านเพื่อสร้างกระแสเป็นลำดับแรก
ที่ประชุมอภิปรายเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง และมีมติว่า
ถึงวันรับสมัคร เสี่ยโก้รถไถถูกร้องเรียนเรื่องขาดคุณสมบัติเพราะเคยต้องคดีอาญาถึงสองคดี คือเมาแล้วขับและคดีปืนเมื่อสิบห้าปีก่อน ต้องเสียเวลา ไปเคลียเรื่องนี้ทั้งที่สถานีตำรวจ จังหวัดและศาลเป็นเวลาถึงสามวัน จึงได้หนังสือรับรองมายืนยันต่อคณะกรรมการผู้พิจารณาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
เสี่ยแมนลานมันไปสมัครก่อนได้เบอร์ 1 เสี่ยโก้รถไถไปสมัครทีหลังได้เบอร์ 2 ตามความประสงค์ แกให้เหตุผลว่า ที่ต้องการเบอร์ 2 เพราะเพื่อให้สอดคล้องกับการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2
สถานการณ์การหาเสียง
การหาเสียงสร้างกระแสของทั้งสองฝ่ายเข้มข้นขึ้นตามลำดับ ทีมงานฝ่ายเสี่ยแมนลานมันหาเสียงด้วยยุทธวิธี ด้อยค่า โจมตี และใส่ร้าย ฝ่ายเสี่ยโก้รถไถใช้ยุทธวิธีหมีกินผึ้ง กล่าวคือไม่ตอบโต้ ไม่แก้ตัว เดินหน้าพาภรรยาไปเสนอตัวรับใช้ชาวบ้านทุกครัวเรือนตามแผนอย่างเดียว ยกเว้นไม่ไปบ้านของทีมงานเสี่ยแมนลานมันเท่านั้น
ฝันประหลาด
หลังจากได้เบอร์มาแล้ว ตอนบ่าย ๆ เสี่ยโก้และภรรยามาหาที่บ้าน ข้าพเจ้าจึงแนะนำให้ทั้งสองนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อองค์ดำ ขณะข้าพเจ้านั่งเล่นคอมอยู่ จู่ ๆ ก็รู้สึกง่วงมากจึงล้มตัวลงนอนกับพื้นและหลับฝันไปว่ามีการจัดชนไก่ขึ้นในชุมชนตรงกึ่งกลางระหว่างบ้านข้าพเจ้ากับบ้านเสี่ยโชคชัย เสี่ยโชคชัยได้อุ้มไก่มาท้าชนกับไก่ของข้าพเจ้า ตกลงเดิมพันฝ่ายละสามพันบาท พอมือน้ำทั้งสองฝ่ายปล่อยไก่ลงสู้กันในสนาม ไก่ข้าพเจ้ากระโดดถีบทีเดียวไก่เสี่ยโชคชัยลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นสนาม เสี่ยโชคขอโอกาสอุ้มไก่ไปเข้าน้ำ พอนำกลับมาสู้กันอีกครั้ง ไก่เสี่ยโชคลงไปนอนชักดิ้นชักงอให้ไก่ข้าพเจ้าจิกลูกตาเล่นโดยไม่ยอมลุกขึ้นมาต่อสู้ กรรมการจึงจับไก่ข้าพเจ้าชูขึ้นให้เป็นฝ่ายชนะทันที ขณะข้าพเจ้าเดินไปเงินรับเดิมพันจากนายสนาม และผู้คนกำลังชุลมุนหาเก็บเงินที่พนันกันไว้ ข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่น จึงลุกขึ้นนั่งกดโทรศัพท์ดูเวลาขณะนั้น 17.30 น. ข้าพเจ้าเล่าความฝันนี้ให้แม่บ้าน และเสี่ยโก้กับภรรยาฟังหลังกลับจากไปไหว้ขอพรหลวงพ่อองค์ดำ ไปนมัสการหลวงพ่อและเซ่นไหว้สิ่งศักดิ๋สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ซึ่งทุกคนต่างหัวเราะด้วยความดีใจ ข้าพเจ้าคิดทำนายเองว่า ทีมเสี่ยโก้รถไถจะชนะ ทราบภายหลังว่ายายรอดซึ่งเป็นคุณแม่ของเสี่ยโก้ที่ร่วมเดินทางไปด้วยได้บนหลวงพ่อองค์ดำไว้ว่า ถ้าลูกชายได้เป็นผู้ใหญ่บ้านจะถวายรำกลองยาว
สามคืนต่อมาข้าพเจ้าฝันอีกครั้งว่า ณ สนามชนไก่ที่เดิม เห็นพ่อตู้ถ่อนซึ่งเสียชีวิตไปยี่สิบกว่าปีแล้วอุ้มไก่หนุ่มพันธุ์ไซ่ง่อนตัวเตี้ย ๆ เดือยยังไม่ขึ้น มานั่งรอท้าชนไก่ของข้าพเจ้าซึ่งทั้งสูงทั้งใหญ่และเดือยยาวอยู่ข้างสนาม ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นที่เห็นผีและไก่ผีจึงตื่นจากฝัน คิดทำนายเองว่า ทีมเสี่ยแมนลานมันคงสู้ไม่ถอย แต่คงแพ้ทีมเสี่ยโก้รถไถอย่างแน่นอน
ประชุมทีมงานก่อนลงคะแนนห้าวัน
ก่อนเลือกตั้งห้าวัน เสี่ยโก้รถไถนัดประชุมทีมงานเพื่อประเมินผลและเตรียมยิงกระสุน
ข้าพเจ้าเล่าความฝันที่สามให้ที่ประชุมฟังว่า เมื่อคืนก่อนผมฝันเห็นลูกไก่สีขาวตัวเล็ก ๆ จำนวนมากกำลังรุมจิกคอแมวสีเทาซึ่งกำลังนอนตะแคงตายในสนามหญ้า มีแผลเหวอะหวะที่ลำคอ เลือดไหลนองพื้นหญ้า แฟนเสี่ยโก้รถไถหัวเราะด้วยความดีใจ แกทำนายว่าเป็นฝันดีอย่างแน่นอนคะพ่อครู เพราะอ้ายโก้เกิดปีระกา
ข้าพเจ้าเสนอให้ยิงกระสุนก่อนวันเลือกตั้ง 4 วัน เพราะเกรงว่าจะยิงได้ไม่ทั่วถึง ยิงเฉพาะวันหมาเห่าเท่านั้นก็น่าจะทัน ให้เสี่ยโก้รถไถกับภรรยารับไปดำเนินการยิงด้วยตัวเอง
แม่ครูแตงเสนอว่า ในคืนหมาหอนให้ทีมงานใช้โทรศัพท์ประสานกับภรรยาเสี่ยโก้นั่งยิงนอนยิงอยู่ที่บ้านตัวเอง
มีผู้เสนอตัวเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเงา 4 คน ๆ ละ 25,000 บาท รวม 100,000 บาท
เสี่ยโก้รถไถเสนอจ้างทำสปอร์ตโฆษณาหาเสียงเหมือนเสี่ยแมนลานมัน
ที่ประชุมเห็นชอบและอนุมัติตามที่เสนอ
ปิดประชุมเวลา 23.00 น.
ประชุมทีมงานก่อนลงคะแนนหนึ่งวัน
ภรรยาเสี่ยโก้รถไถรายงานที่ประชุมว่า ขณะนี้เรายิงแล้วจนเกือบทุกหลังคาเรือนยกเว้นบ้านของทีมงานเสี่ยแมนลานมันแต่ยิงได้เพียง 976 แต้ม
พ่อครูวิเศษกล่าวว่า 976 แต้มเสี่ยงเกินไป เราต้องยิงให้ได้ครบ 1,200 แต้มตามเป้าหมายให้จงได้
ภรรยาเสี่ยโก้เล่าว่า อดีตผู้ใหญ่บ้านแจ้งทางหอกระจายข่าวว่าจะมีคนมาใช้สิทธ์เลือกตั้งประมาณไม่เกิน 1,300 คน
ข้าพเจ้าอภิปรายว่า ยิงได้ 976 แต้มน่าจะเพียงพอให้เราชนะได้แล้ว เพราะคนมาใช้สิทธ์เลือกตั้ง 1,300 คน ครึ่งหนึ่ง คือ 650 เรายิงไปตั้ง 976 แต้ม เกินครึ่งไป 324 แต้ม ซึ่งถ้าเราได้มาเพียง 651 แต้มก็ชนะ
นายแอทีมงานผู้ช่วยถามด้วยความเป็นห่วงว่า เขายิงทับเราหลายจุดแล้ว เรายิงนัดละ 500 บาทเขายิงนัดละ 600 บาท จะแก้ไขอย่างไร ?
ข้าพเจ้าตอบว่า เราจะไม่ยิงเท่าหรือยิงทับ ทราบว่าขณะนี้กระสุนของฝ่ายเราใกล้หมดเต็มทีแล้ว เราจะต้องไม่มีหนี้หลังเลือกตั้ง พวกเราทำเต็มที่แล้ว ชนะหรือแพ้ สุดแล้วแต่วาสนา
นายมนตรีทีมงานผู้ช่วยรายงานว่า ผมไปสืบทราบมาว่า ทีมงานเสี่ยแมนลานมันจะยิงกระสุนทับพวกเราในคืนนี้ จะทำอย่างไร
ข้าพเจ้าตอบว่า เราต้องไม่ตื่นเต้นตกใจ เพราะภรรยาเสี่ยโก้ยิงทั้งวันยังยิงได้แค่วันละ 200 กว่าแต้มเท่านั้น คืนหมาหอนมีเวลาจำกัด แถมบ้านเรือนผู้คนอยู่กระจัดกระจาย พื้นที่กว้างเกิน ต่อให้ยิงทับทั้งคืนก็คงยิงได้ไม่เกิน 600 แต้ม
พ่อครูวิเศษพูดด้วยความเป็นห่วงว่า ผมจะหากระสุนมาไว้รอยิงเพิ่มให้ได้ครบ 1,200 แต้มก่อนเปิดหีบบัตรลงคะแนนวันพรุ่งนี้ ขอเพียงให้ทีมงานช่วยกันไปเสาะหาคนมาให้ผมยิงก่อนถึงเวลาลงคะแนน
แม่ครูแตงเสนอว่า ขอรับอาสาเป็นคนยิงหน้าหน่วยเอง ขอเพียงจัดหากระสุนให้
ที่ประชุมมีมติว่า ให้ทีมงานที่หาคนยิงเพิ่มได้ประสานงานเรื่องกระสุนกับพ่อครูวิเศษและแม่บ้านเสี่ยโก้
ปิดประชุมเวลา 23.30 น.
บรรยากาศวันเปิดหีบบัตรลงคะแนน
ตอนเช้ากระแสเป็นของเสี่ยแมน
มีประชาชนไปยืนเข้าแถวรอหย่อนบัตรลงคะแนนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความเข้มแข็ง ทีมงานของเสี่ยแมนลานมันยืนรวมกลุ่มคุมเชิงอยู่หน้าหน่วยเลือกตั้งอย่างมั่นใจ เซียนพนันเอาเสี่ยแมนต่อ 5 – 4, 3 – 2, ส่วนทีมงานของเสี่ยโก้รถไถยืนปะปนอยู่กับผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเพื่อหลอยยิง
ตอนบ่ายคะแนนเป็นของเสี่ยโก้
หลังเปิดหีบนับคะแนน ข้าพเจ้ายืนปะปนอยู่ในกลุ่มกองเชียร์ของเสี่ยแมนลานมันโดยบังเอิญ หลังเจ้าหน้าที่หยิบบัตรใบแรกชูขึ้นมาอ่านว่า เบอร์ 1 เสียงเฮและเสียงปรบมือของกองเชียร์เสี่ยแมนลานมันดังกึกก้อง ส่วนกองเชียร์ของเสี่ยโก้รถไถหน้าจ๋อย ต่อจากนั้น คะแนนเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ผลัดกันนำผลัดกันตามอย่างคู่คี่สูสี เสี่ยโชคกับเซียนแหล่ผู้เป็นลูกชายเข้ามายืนขนาบข้างข้าพเจ้าเอาเบอร์ 1 ต่อ 3 – 2 ดึงมือข้าพเจ้าไปจับขะยั้นขะยอให้ข้าพเจ้ารอง 20,000 บาทหรือมากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ข้าพเจ้าหัวเราะพร้อมชักมือกลับบอกว่า ไม่เอา เลิกเล่นการพนันแล้ว ทั้งสองเห็นว่าข้าพเจ้าไม่เล่นด้วยก็เดินจากไป
เมื่อนับคะแนนมาถึงหลักร้อย คะแนนเสี่ยโก้รถไถเบอร์ 2 เริ่มทิ้งห่างและชนะไปในที่สุดด้วยคะแนน 650 ต่อ 512 ทิ้งห่างถึง 138 คะแนน รวมผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,164 คน บัตรเสีย 2 ใบ
เสียงปรบมือโห่ร้องของกองเชียร์เบอร์ 2 ดังกึกก้อง
กองเชียร์เสี่ยแมนลานมันเบอร์ 1 จ๋อย บางรายเก็บอาการไม่อยู่ถึงกับร้องไห้และก่นด่าชาวบ้านว่าโง่ดักดานก่อนขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน
ทราบภายหลังว่าเซียนแหล่เสียพนันเงินไม่พอจ่าย จะนำวัวควายไปขายแต่ลูกเมียไม่ยอมตีกันร้องไห้กระจองอแง เสี่ยโชคเก็บอาการไม่อยู่เดินไปต่อว่าเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่าคบไม่ได้ รับเงินเบอร์ 1 แล้วไปกาเบอร์ 2
เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าไปแสดงความยินดีกับว่าที่ผู้ใหญ่โก้และภรรยาพร้อมให้คำแนะนำสี่ข้อคือ
มหาหิงส์ นารีสนั่น ให้ข้อคิดว่า ผู้ใหญ่บ้านฟังดูยิ่งใหญ่เพราะได้ใส่ชุดโก้ ดูดีมีเสน่ห์เท่ระเบิด มีเกียรติยศมีศักดิ์ศรี จึงมีบางคนหลงใหลอยากจะเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นตำแหน่งงานที่เสียสละเพราะเงินเดือนน้อย รายได้อื่นก็ไม่มี แต่ต้องแบกรับภาระรับผิดชอบสารพันปัญหาของลูกบ้าน การหาเสียงเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเป็นกลอุบายของรัฐที่ชาญฉลาด เพราะทำให้ผู้สมัครเป็นผู้นำหมู่บ้านได้ไปพบเห็นปัญหาของหมู่บ้านและลูกบ้านเช่นถนนหนทาง แสงสว่างยามค่ำคืน ผู้ป่วยติดเตียง ครอบครัวที่ยากจน ลูกหลานติดยา ไม่มีไฟฟ้าใช้ ลูกหลานเป็นซอมบี้ หนีเที่ยวกลางคืน เป็นเด็กแว๊น เป็นต้น ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ต้องสอดส่องดูแลแก้ปัญหาเองและต้องประสานสิบทิศกับหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบให้มาดูแลแก้ไข
ตู้พา ดำเดียว กล่าวว่า เงินทำให้คนงงงัน การพนันทำให้คนจน
ยายสี ลำซิ่ง กล่าวว่า แพ้นอนสบาย ชนะไปต้องแบกต้องหาม
ยายหัน ศีลห้า กล่าวว่ายายถูกยิงนัดเดียวเอง แต่ต้องไปเลือกเขา ถ้าไม่ไปเลือกเขาก็กลัวเป็นบาปเป็นกรรม
เซียนกั้ง กินดิบ กล่าวว่าข้าถูกยิงสองนัดตายสนิท ไปเลือกตั้งไม่ได้ ขอโทษด้วย
ขุนดัน กินหรู กล่าวว่า ข้าถูกยิงสามนัดแต่แทนที่จะยิงแล้วยิงเลย กลับมาริบคืนหนึ่งนัด เสียอารมณ์มาก ไม่ไปเลือกตั้งแม่งมันเลย
ลุงหำ ลำตัด กล่าวว่า เฮ้ย ๆ ๆ ! ทำไมพวกเอ็งไม่ยิงข้าบ้างวะ ?