นายวิทิต ไชยวงศ์คต
หนังสือที่ระลึกก่อนตาย
นายวิทิต ไขยวงศ์คต
ชาตะ 6 สิงหาคม 2487
มรณะ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
คำนำ
หนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้าเขียนไว้เพื่อแจกแฟนเว็บไซด์พ่อครูดอทคอม มีอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นข้อเขียนใหม่ และข้อเขียนบางส่วนของข้าพเจ้าใน www porkru.com
ขณะเขียนและทบทวนเรื่องนี้ข้าพเจ้าอายุย่างเข้า 73 ปี มีโรคประจำตัว 2 อย่างคือโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งมีโอกาสตายได้ทุกเวลา และโรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งต้องกินยาตามหมอสั่งทุกวันเพื่อบรรเทามิให้อาการกำเริบ ซึ่งน่าจะหายไปพร้อมกับความตาย
หวังว่าเมื่อข้าพเจ้าตายแล้วก็ยังมีผู้คนรู้ว่า กาลครั้งหนึ่งเคยมีคนชื่อนายวิทิต ไชยวงศ์คต อาศัยอยู่บนโลกนี้
วิทิต ไชยวงศ์คต
1 ก.ค. 2560
…………………………………………………………………………………
สารบัญ
เรื่อง หน้า
1. ประวัติโดยสังเขป
2. สั่งลา(กลอนตลาด)
3. สั่งลา(กลอนอีสาน)
4. สอนหลาน(ผญา)
5. คติธรรม(กลอนอีสาน)
6. คติธรรม(กลอนตลาด)
7. ขอบคุณ(กลอนตลาด)
8. ขอบคุณ(กลอนอีสาน)
9. เกร็ดความรู้สำหรับพิธีกร
…………………………
ประวัติโดยสังเขป
…………………………..
ชาติกำเหนิด
ชื่อนายวิทิต นามสกุล ไชยวงศ์คต บิดาชื่อทอน มารดาชื่อทุม เกิดวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2487 ที่บ้านด่านม่วงคำ ตำบลด่านม่วงคำ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร มีพี่น้อง 10 คน ดังนี้
การศึกษา
เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านด่านม่วงคำ นักธรรมชั้นโทที่สำนักวัดบ้านด่านม่วงคำ ตำบลด่านม่วงคำ ตำบลด่านม่วงคำ อำเภอโคศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร นักธรรมชั้นเอกที่สำนักวัดศรีสุมังค์ ในเมืองสกลนคร เปรียญธรรม 4 ประโยคที่สำนักวัดศรีชมชื่น จังหวัดหนองคาย ปริญญาตรีพุทธศาสตร์บัณฑิต สาขามานุษยสงเคราะศาสตร์ (พธ.บ.) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และปริญญาตรีครุศาสตร์บัณฑิต สาขาบริหารโรงเรียน(ค.บ.) จากวิทยาลัยครูสกลนคร
การทำงาน
เป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาอังกฤษที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต บางนา กรุงเทพมหานคร 1 ปี เป็นครูผู้สอนและผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเจริญศิลป์วิทยา 2 ปี เป็นครูใหญ่/อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านหนองฮังแหลว 23 ปี เป็นอาจารย์ใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมนธาตุวิทยา 4 ปี เป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลเจริญศิลป์ 3 ปี เป็นประธานโครงการ SML บ้านเจริญศิลป์ หมู่ที่ 2 สามสมัย เป็นกรรมการที่ปรึกษาชุมชนเจริญศิลป์ ติดต่อกันหลายสมัย เป็นรองประธานกรรมการศูนย์วัฒนธรรมอำเภอเจริญศิลป์ 2 สมัย เป็นรองประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา”โพธิ์คำอนุสรณ์” 2 สมัย
ชีวิตครอบครัว
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 ขณะดำรงค์ตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนอนุบาลเจริญศิลป์ ได้แต่งงานกับคุณเพ็ญศิลป์ กาญจนกัณโห ข้าราชการครูโรงเรียนเดียวกัน ได้ช่วยกันสร้างครอบครัวจนมีฐานะมั่นคงแต่ยังไม่มั่งคั่ง มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ
1. นายวรวิทย์ ไชยวงศ์คต วุฒิการศึกษา ปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม รับราชการครูโรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา”โพธิ์คำอนุสรณ์” ยังไม่มีครอบครัว
2. นายกิตติชัย ไชยวงศ์คต วุฒิการศึกษา ปริญญาตรีคอมพิวเตอร์ศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวที่อำเภอเจริญศิลป์ ปัจจุบันยังไม่มีครอบครัว
อุปนิสัย
พูดจาตลกขบขัน ชอบเล่นกีฬาแบดมินตัน ชอบดูหนังฟังเพลง ชอบเล่นการพนันไก่ชนและมวยตู้แต่ไม่ชอบเล่นหวย ช่างคิดชอบเขียน ชอบศิลปและวาทศิลป์
ประวัติการเจ็บป่วย
เมื่อประมาณปี 2527 ได้ไปบริจาคเลือด 1 ถุงให้ท่านอาจารย์สมอก เดชภูมี ที่โรงพยาบาลเอกอุดร คุณหมอแจ้งว่าเป็นไวรัส บี จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเจริญศิลป์ โรงพยาบาลสว่างแดนดินและโรงพยาบาลหมอสมบูรณ์ ได้รับแจ้งตรงกันว่าเป็นไวรัส บี ไม่มียารักษา อีกสามปีต่อมาได้ต้มต้นผลใต้ใบดื่มตามคำแนะนำของคุณสนิท คำภูแสน ดื่มน้ำต้มผลใต้ใบสี่แก้ว เมื่อไปรับการตรวจอีกครั้งหลายโรงพยาบาลปรากฏว่าเลือดไม่มีไวรัสบี ต่อมาปี 2547 ได้ไปรับการตรวจสุขภาพประจำปีพบว่าต่อมลูกหมากโต หมอแนะนำให้ไปรับการผ่าตัดกับหมอเฉพาะทางแต่ไม่ได้ไป ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 แพ้กลิ่นน้ำหอมมีอาการแน่นหน้าอก เหงื่อออกท่วมตัว พยาบาลและญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญศิลป์ แพทย์และพยาบาลช่วยกันดูแลรักษาจนปลอดภัย นอนโรงพยาบาล 1 คืน วันที่ 4 เมษายน 2557 แพ้กลิ่นควันไฟไหม้หม้อมีอาการแน่นหน้าอก เหงื่อออกท่วมตัวเหมือนเดิม ลูกชาย นำส่งโรงพยาบาลเจริญศิลป์ หมอช่วยดูแลรักษาจนสุดความสามารถแต่หัวใจยังคงเต้นเร็วมาก จึงนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร แพทย์และพยาบาลช่วยกันดูแลรักษาจนปลอดภัย นอนโรงพยาบาล 2 คืน แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะให้ไปรักษาต่อที่ศูนย์โรคหัวใจสิริกิติโรงพยาบาลศรีนัครินทร์ จังหวัดขอนแก่น
เนื่องจากเป็นโรคต่อมลูกหมากโตและโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในเวลาเดียวกัน จึงตัดสินใจไปหาหมอต่อมลูกหมากที่จังหวัดอุดรธานีก่อน หมอแนะนำว่า อายุมากแล้ว เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผ่าตัดอันตราย ควรกลับไปกินยาโรงพยาบาลเหมือนเดิม หมอหัวใจที่ศูนย์โรคหัวใจสิริกิติโรงพยาบาลศรีนัครินทร์ จังหวัดขอนแก่น แนะนำให้กลับมาเอาผลการตรวจรักษาเบื้องต้นจากโรงพยาบาลเจริญศิลป์ไปให้ดูเพื่อประกอบการวินิจฉัยว่าควรช็อตด้วยไฟฟ้าหรือไม่
กินยารักษาโรคไตอักเสบสองเดือนกว่าอาการน่าจะหายเป็นปกติแล้ว โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะกลับมาเต้นเป็นปกติ แต่ต้องกินยาหัวใจวันเม็ดสองเม็ดไปตลอดชีวิต ส่วนโรคต่อมลูกหมากโต รักษาโดยกินยาลดขนาดต่อมลูกหมากตามคำแนะนำของหมอทางอินเทอร์เน็ต (นายแพทย์เปรมสันติ์ สังฆ์คุ้ม โรงพยาบาลรามาธิบดี ) และดื่มน้ำทับทิมตามคำแนะนำของเภสัชกรประจำร้านอุดรโอสถ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งน่าจะหายเป็นปกติได้ภายในหนึ่งปี ถ้าทุกอย่างเข้าที่น่าจะอยู่ยาวถึง 150 ปีเป็นแน่
ภารกิจประจำวัน
ยังคงตื่นนอนตอนตีสี่ เปิดประตูหน้าบ้าน ปลุกแม่บ้านขึ้นมาออกกำลังกายด้วยการรำเซิ้งประกอบดนตรีโปงลางด้วยกัน บางวันเปิดไฟสนามพากันเล่นแบดมินตันประมาณ 30 นาที แล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ ข้าพเจ้าไปเปิดมุ้งลูกไก่ ปล่อยลูกไก่ออกจากสุ่ม กวาดขี้ไก่นำไปใส่ต้นไม้ ให้อาหารไก่ กวาดบริเวณบ้าน รดน้ำต้นไม้ อาบน้ำ ทานข้าว แปรงฟัน ซักผ้า นอนหนึ่งชั่วโมง ไปเที่ยวตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทานมื้อกลางวัน เที่ยวต่อจนถึงบ่ายสามโมงจึงกลับบ้าน ถ้าเป็นวันโกนวันพระก็ขับรถพาแม่บ้านและคณะไปทำบุญที่วัดตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตามความประสงค์ของแม่บ้าน บางวันมีแขกมาหาก็ให้ลูกชายคนเล็กขับรถไปแทน ตอนเย็นให้อาหารไก่ เล่นหมากฮอสและเล่นกีฬาแบดมินตันกับลูกหลานและภรรยา ปูที่นอนให้ลูกไก่ เอาลูกไก่กับแม่ไก่เข้าสุ่ม กางมุ้งให้เพื่อกันยุงกัด อาบน้ำ ปะแป้ง ทานข้าว กินยา แปรงฟัน ดูข่าว เข้าเน็ต เขียน ๆ ๆ จนถึงสี่ทุ่ม ไหว้พระสวดมนต์ นอนหาทางไปสวรรค์และนิพพาน พอตื่นนอนก็ต้องทำแบบเดิม ทั้งหมดที่เล่าคือชีวิตของนายวิทิต ไชยวงศ์คต ในวัยชรา อายุจะครบ 73 ปีในวันที่ 6 สิงหาคม 2560
ขณะที่นั่งนอนรอความตาย ข้าพเจ้าได้พยายามเดินทางหาประสบการณ์เพื่อนำมาเขียนถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งในแบบร้อยแก้วและร้อยกรองฝากแฟนเว็บไซด์พ่อครูดอทคอม ซึ่งคงจะจบบริบูรณ์เมื่อร่างกายขาดสภาพคล่องหรือความตายมาถึง
………………………..
2. สั่งลา(กลอนตลาด)
……………………….
ถ้าเราตาย หลายคน คงคึดถึง
หลายท่านจึง มาส่งเรา เข้าเมรุเผา
ส่วนบางท่าน คงไม่ คิดถึงเรา
จึงไม่เข้า มาส่งเรา มาเผาเรา
แต่บางท่าน คงมี ธุระเยอะ
ช่างท่านเถอะ มันเป็นเรื่อง ประเทืองเขา
ต่อนี้ไป ให้เป็นเรื่อง ประเทืองเรา
ส่งเราเข้า เมรุเผา แล้วเผาเรา
เราจะรีบ ไปเกิดใหม่ ในภพหน้า
ขืนชักช้า หาที่เกิด ไม่ทันเขา
ขอบพระคุณ ทุกท่านที่ มางานเรา
มาร่วมเผา ร่างเรา จนเสร็จงาน
ขออำนาจ บุญกุศล เราท่านสร้าง
เป็นพลัง ส่งท่านไป ให้ถึงฝัน
ได้มีเป็น เช่นหวังไว้ ทุกประการ
หมู่ภัยมาร จงห่างหาย มลายไป
ให้มีเงิน เต็มห้อง ทองเต็มบ้าน
สารพัน ทรัพย์สินได้ ดั่งใจหมาย
มีชื่อเสียง กึกก้อง ขจรไกล
แสนสบาย แสนสนุก ทุกท่านเทอญ
ลาก่อนทุกคน
จาก…ผู้วายชนม์
………………………
3. สั่งลา(กลอนอีสาน)
…………………….
ขอลาเด้อทุกท่าน ที่มางานเผาพ่อใหญ่
พ่อสิไปโลกหน้า ขอลาแล้วคู่สู่คน
หมู่เคยโฮจ้นจ้น นำบ่อนไก่บ่อนกา
หมู่เคยพาไปเสียเงิน ส่งให้สาวลาวใช้
หมู่จังไฮหากินเล่น สร้างเวรกรรมบ่ซ้ำเก่า
มาส่งเฮาในมื้อนี้ หรือหนีหน้าบ่มา
ขออำลาทุกถ้วนหน้า ไปหากินทางโลกใหม่
ห่าเทือไคกว่าโลกนี้ มีเป็นได้ดั่งฝัน
สิผันผายมาเอิ้น เชิญทุกคนไปเป็นหมู่
อยู่นำกันในโลกหน้า หากินเล่นม่วนมัน
ขออำลาทุกท่าน อ้ายน้องเฮาทางบ้านด่าน
ลาน้องแข่นอั้นตั้น น้องวรณ์พร้อมน้องเท็จทอง
น้องจองหองผู้ใหญ่บ้าน เว้าบ่หวานทรงสง่า
ลาอาต๋อยน้องหล่า ผู้หาเลี้ยงแม่เฮา
คันบ่เว้าลาเขยหล่า ผู้อาสาซ่อยเลี้ยงแม่
ลาบ่แล้วแท้แท้ ต้องแวเว้ากล่าวลา
ขอลาเด้อน้องเขยหล่า ปัติโชติชัยประเสริฐอุ่น
บุญคุณเลี้ยงแม่ให่ ไปชาติหน่าจั่งสิแทน
ลาขุนแผนหัวล้าน น้องชาญชัยเมียงามคู่
ลาเมิดหมู่พี่น้อง ทุกหนห่องบ้านด่านเฮา
ขอกราบลาพระคุณเจ้า สามเณรเฮาวัดบ้านด่าน
ครูอาจารย์ทุกถ่วนหน่า ขอลาแล้วคู่สู่คน
จนใจมาบ่ได้ ป่วยหลายมาบ่ฮอด
ต้อดไปได้แค่หน่าบ้าน คันฝันพ้อกะแม่นบุญ
ขอกราบลาคุณอ้าย ญาสนิททางกรุงเทพ
ได้เสพสุขมีมื้อนี้ ย้อนมีอ้ายให่เพิงพา
บุญคุณญาอ้ายนั้น ทะเลหลวงกะบ่ส่ำ
ท้องฟ้าเพินว่ากว้าง บ่เคิงเสี่ยวอ้ายใหญ่เฮา
สุดสิหาคำเว้า เอามากล่าวได้ทั้งเมิด
ได้แต่เพียงกลั่นกรอง จากใจเอามาเว้า
ที่เคยชวนน้องเข่า เป็นสมาชิกชมรม
ยืนร้อยห่าสิบปี ชีวีสุขสันต์นั้น
บ่ได้การดอกเด้ออ้าย ขอเลื่อนไปไว้ชาติใหม่
ชาตินี้ยืนได้ส่ำนี้ มีชาติหน้าจั่งว่ากัน
ขอลาเด้อทุกท่าน สหายเผจแฟนเว็บ
ที่หลั่งไหลเข่ามาเก็บ กอบกำเอาความฮู้
เอาไปปูเสริมสร้าง ทางเจ้าของให่มันคล่อง
เพื่อซ่อยมวลอ้ายน้อง ผู้คองถ่าให่ซ่อยเหลือ
พ่อสิลาเมือบ้าน แต่ก่อนเก่าคราวหลัง
บ้านแต่ครั้งเป็นผี จั๊กชั่วคราวตามเรื่อง
บ่ทันโดนกะสิเตื้อง คืนมาหาหม่องอยู่
หาเข้าฮูแม่บ้าน ผู้มานท้องเกิดใหม่มา
ขอลาเด้อเมียแก้ว เพ็ญศิลป์แม่เนื้ออุ่น
บุญอ้ายมีส่ำนี้ มีชาติหน่าห่าพ้อกัน
อ้ายสิพัวพันไว้ บ่ปันใจไปเป็นอื่น
อ้ายสิยืนคองถ่าเจ้า แม่นสิเถ่ากะบ่ตาย
อยู่เป็นตายายเถ่า เกาหลังกันยามแก่
ดูแลกันจนฮอดมื้อ มายม้างตายจากกัน
คันอ้ายตายไปแล้ว อย่าลืมแนวลูกสองหน่อ
ให้ตั้งต่อลูกเต้า ซ่อยเขาให่ใหญ่สูง
นายทีมกะให่มุ่ง ปรับปรุงแต่งผลงาน
ให่ได้เป็นอาจารย์สาม ดีงามตามเรื่อง
แตงไทยกะให่เตื้อง ตั้งต่อการงาน
ตั้งหลักฐานให่มั่นคง ฮักแพงกันยืนหมั่น
ความสัมพันธ์แม่ลูก ปลูกฝังให่หมั่นแก่น
ผู้ใด๋ทุกข์ยากแค้น ให่โฮมตุ้มซ่อยกัน
ขออภัยทุกท่าน ที่เคยผิดพลั้งไป
โดยตั้งใจบ่ตั้งใจ ขออภัยแน่เด้อท่าน
ให่การจากเทื่อนี้ บ่มีใด๋สิเป็นห่วง
ได้ไปควงหมู่นางฟ้า หาเลาะเล่นอยู่สวรรค์
คันได้การสิมาเอิ้น เชิญทุกคนไปเป็นหมู่
ผู้มางานพ่อมื้อนี้ เชิญล่วงหน่าคู่สู่คน
ได้ไปโฮจ้นจ้น บนสวรรค์ชั้นม่วน
อยู่โด้นโดนจนฮอดมื้อ สวรรค์ล่มจั่งต่าวลง
คันพ่อตายแล้วโงโค้ง ลงนารกบ่เอิ้นไผ
สิไปใช้เวรกรรม ตามกระบวนจนเมิดสิ้น
สิปิ้งกินอีกาฮ้าย ซบเหล็กทองให่เมิดก่อน
ตอนลูกหลานอ้ายน้อง ลงนารกบ้างจั่งปลอดภัย
สิปิ้งกาห่อมาให่ ไผอยากกินให่จองก่อน
ตอนพ่อกลับสู่โลกนี้ สิฝากต้อนคู่สู่คน
ขอบพระคุณอย่างเหลือล้น ที่มางานเผาพ่อใหญ่
ทั้งบ้านเหนือบ้านใต้ ทั้งไกลใกล้ที่หลั่งมา
สุดสิหาคำเว้า เอามากล่าวได้ทั้งเมิด
ได้แต่เพียงกลั่นกรอง จากใจเอามาเว้า
ขอบพระคุณหมู่เจ้า หลายหลายอีกร้อยเทือ
เผาพ่อใหญ่แล้วเมือให่เจ้าได้ สมใจเจ้าปราถนา
การงานให้ก้าวหน้า การเงินกะให้คล่อง
การทองกะให่ได้ การบ้านให่ม่วนมัน
การอันใดกะให่ได้ สมดั่งมโนหมาย
สุขสำบายปานพระยา อยู่ดีบ่มีฮ้อน
นั่งนอนมีแต่โชค โฉลกดีขี่ถืกป่อง
สองโตถืกคู่งวด รางวัลที่หนึ่งนั้นถืกคู่ปี เด้อพี่น้องเอย
ลาก่อนคู่คน
จาก..พ่อใหญ่ครู
………………………………………….
4. สอนหลาน(ผญา / กลอนอีสาน)
……………………………………………….
อย่าสิก่นดินลง มันสิฝังโตเจ้า
ให่เจ้าก่นทางขึ่น เหยียบยืนปีนป่าย
จั่งสิขึ่นจากหลุมได้ ให่จื่อไว้อย่าสิลืม เด้อ หลานเอย
โตเองเป็นกบยักษ์ คับกะลาใหญ่สุดแล้ว
แนวบ่เคยเห็นฟ้า เห็นแต่กะลาว่ายิ่งใหญ่
ต่อมื้อออกจากกะลาได้ จั่งได้ฮู้หยังเป็นหยัง หลานเอย
คันหลายแหนงมัดโฮมกัน สิหมั่นแข็งหักบ่ได้
ใจของคนเฮานั้น กะคือกันบ่แตกต่าง
สามัคคีบ่แตกม้าง ไผงัดง้างกะบ่ติง หลานเอย
อย่าสิเอาเป็นของโต แม่นหิวโซให่อดไว้
ไปทางหน่า โชคชะตาสิเฮืองฮูง
เทพเบื้องสูงเพินฮับฮู้ สิอวยให่เจ้าโชคหมาน หลานเอย
ไผผู้ยอแยงพบ หากสิเฮืองไปหน่า
ไผผู้วาจาต้าน ให่สองเขือน้ำตาหลั่ง
บาปท่อฟ้า เวรนั้นท่อแผ่นดิน
หลานมีกินมีอยู่ย้อน มีพ่อแม่พาหา
มีพ่อแม่ให้เพิงพา ตั้งแต่เนาว์อยู่ในท้อง
มีพ่อแม่คอยปกป้อง แต่เกิดมาจนเติบใหญ่
หลานมีเป็นนั้นนี่ได้ ย้อนพ่อแม่ให้ซอยหนุน
หลานยังเป็นวัยรุ่น พวมคะนองขึ่นใหม่
พ่อแม่หวังได้เพิงเจ้า ยามเถ่าได้ซอยแฮง
เถิงยามแลงอย่าไปเล่น แซะซำแต่นำหมู่
ครูเพิ่นให่การบ้าน ให่หลานฟ้าวเฮ็ดส่งครู
หมู่พวกนั้น ชั่วกะมีดีกะมาก
จักสิเพิงได้บ่ได้ ไปหน่าจั่งสิเห็น
ให่หลานคอยหลีกเว้น หมู่พวกพาหนีเฮียน
บ่เพียรอ่านหนังสือ โทรเอิ้นหาพาไปเล่น
ยามกลางเว็นดมกาววื้น ยามกลางคืนหาลักไก่
เอาไปต้มแก้มเหล้า เมาแล้วไล่ฆ่ากัน
มีเพศสัมพันธ์มั่ว บ่มีผัวแต่มีลูก
หมู่พาทุกข์ยากไฮ้ มีหนึ่งให่คึดว่าหลาย
คันแม่นได้หมู่พวก พาขีดเขียนเฮียนอ่าน
พาเฮาเฮ็ดการบ้าน งานบ่ค้างส่งครู
ดูหนังสือยามว่าง หาทางไปเฮียนต่อ
ได้พ้อหมู่จั่งสี้ มีเป็นร้อยกะแฮงดี
แต่ก่อนกี้ บ่อนถางไฮ่ไม้ยังหนา
บ่อนเฮ็ดนา ที่ดินกะยังก้วง
ปูปลาบ่อึดอยาก หาได้มาเทือละต่า
เอามาปันพี่น้อง คนซื้อบ่มี
สู่มื้อนี้ บ่อนถางไฮ่ไม้บ่หนา
บ่อนเฮ็ดนา ที่ดินกะเหลือหน่อย
แบ่งซอยขายเมิ้ดสิ้น บ่มีดินว่างเปล่า
กบเขียดโลละร้อย หาซื้อกะบ่มี
สู่มื้อนี้ ไผบ่เฮียนเขียนอ่าน
สิได้งานต่ำต้อย เงินเดือนหน่อยใช้บ่พอ
เถ่าแก่เพิ่นบ่ง้อ คนหางานมีมาก
มาจากลาวเขมรพม่า ค่าแฮงถืกกว่าหมู่เฮา
หลานควรเอาใจตั้ง เฮียนต่อให่มันสูง
ให่ได้เป็นนายเขา หมู่ลาวเขมรพม่า
การศึกษาสิซอยให่ ได้งานดีมีตำแหน่ง
เงินเดือนแพงก้าวหน่า พาเจ้าให้ฮ่างมี
กว่าสิดีกว่าสิได้นั้น ต้องฟันฝ่าอุปสรรค
สิหนักเบาส่ำใด ฝ่าฟันไปอย่าได้ท้อ
สาวสวยรออยู่ข้างหน้า ผู้บ่าวเก่งดีทั้งรูปหร่อ
นั่งนอนรอถ่าหมู่เจ้า หวังเข้าฮ่วมแต่งงาน
ให่หลานอดทนสู้ ฝ่าฟันอย่าได้หวั่น
คันแม่นเฮ็ดแม่นสร่าง สิรวยขึ่นแน่นอน
ฟังคำสอนพ่อครูเว้า นำเอาไปคึดต่อ เบิ่งแนเด้อ
บ่อนใดพอเฮ็ดได้ ปรับใช้ให่คล่องคือ..หลานเอย
…………………..
ผญาก้อม
………………….
1. เห็นผีบ้าถือมีด ให่หลีกไกลไปให่ห่าง
ย่างนำทางพ้อหมาว้อ ให่แวลี้อย่าสิขวาง หลานเอย
2. คันเกรงใจลูกน้อง สิปกครองเขาลำบาก
เกรงใจคนรอบข่าง ทางข่างหน่ายุ่งแน่นอน หลานเอย
3. ปีกยังบ่มีขนขึ่น อย่าฟ้าวล่วงบินบน
คันยังจนเงินทอง อย่าฟ้าวหองมีเมียน้อย หลานเอย
4. เห็นดาวเต็มท้องฟ้า อย่าฟ้าวว่าบ่มีฝน
คันยังจนมีเมียสาว อย่าเชื่อใจแม่เถ่า หลานเอย
5. การยอมแพ้ เป็นอุบายให้เติบใหญ่
คันเฮาตายมื้อนี้ สิใหญ่ได้บ่อนใด๋ หลานเอย
6. การยอมแพ้ เป็นอุบายเอาโตรอด
ปลอดภัยไปมื้อนี้ มื้อหน่าค่อยว่ากัน หลานเอย
7. อ่านหนังสือได้ความฮู้ ดูหนังได้มันม่วน
เอาเมียได้ลูกเต้า กินข้าวได้อิ่มพี หลานเอย
8. ยอมเสียเปรียบมื้อนี้ เพื่อมื้ออื่นมื้อฮือ
มื้อเฮามีมือตีน เติบโตไปภายหน้า หลานเอย
9. คันยังมีป่าไม้ ต้องหาฟืนได้คักแน่
คันชีวิตยังอยู่ยั้ง เฮ็ดหยังกะได้หลากหลาย หลานเอย
10. สายน้ำไหลอ่อนพลิ้ว แทรกซึมเซาะเก๊าะแก่ง
ภูเขาหินแข็งกระด้าง ทลายล้มบ่ยัง หลานเอย
11. คันให่เงินเสี่ยวใช้ สิได้คืนทั้งเงินเสี่ยว
คันให่เสี่ยวกู้ยืม เสี่ยวสิหายทั้งเงินพร้อม หลานเอย
12. ฮู้ว่าโตเป็นแหล่ง อย่าฝอยหลายนายสิหน่าย
ให่สุภาพอ่อนน้อมไว้ นายสิจ้างให่อยู่นำ หลานเอย
13. ศัตรูถอยอย่าไล่บี้ อย่าผลีผลามเป็นอันขาด
ความประมาทเป็นเหตุให้ ตายได้คู่ยาม หลานเอย
14. เฮาได้หน่า หมู่เขาเอิ้นว่าเสี่ย
แต่เสียเปรียบเขาคู่ด้าน ประโยชน์ได้บ่อนใด หลานเอย
15. คนอ่อนน้อม ไปทางใดคนถามไถ่
มีคนฮักทั่วบ้าน คนอยากฮู้ทั่วแผ่นดิน หลานเอย
16. ชิงชังความชั่วฮ้าย ต้องหมางใจกับผู้อื่น
ถ่าแม่นฝืนบ่ได้ ให้หนีหน่าอย่าใกล้มัน หลานเอย
17. ชนะโตเองได้ ประเสริฐศรีดีกว่าหมู่
ชนะผู้อื่นบ่กี่มื้อ กลับเป็นแพ้พลิกผัน หลานเอย
18. คันแม่นทำผิดหน่อย สิสำเร็จดังหมาย
คันแม่นทำผิดหลาย สิล้มเหลวไปเรื่อย หลานเอย
19. คนสิเด่นดังได้ พวกผู้ใหญ่ต้องซอยดึง
พวกผู้น้อยต้องซอยดัน เสี่ยวกันต้องซอยค้ำ หลานเอย
20. ข่อใดดีนำมาใช้ ข่อใดเสียให่ถิ่มปล่อย
ปรับปรุงโตเทือละหน่อย สิดีขึ้นบ่โดน หลานเอย
21. มีหมู่ดีหนึ่งร้อย หน่อยไปบ่พอป่น
มีศัตรูหนึ่งคน จั่งแม่นหลายเป็นตาย้าน หลานเอย
22. หวานคำเว้า เมามายไข่บ่ส่วง
หวานน้ำเหล้า เมาแล้วกะส่วงหาย หลานเอย
23. สงบอารมณ์ได้ ภัยบ่มีดีคู่อย่าง
เคราะห์บ่เห็นเวรบ่ข่อง มวลพี่น้องกะหุ่มหอม หลานเอย
24. อย่าสงสารคนเจ้าเล่ห์ เสเพลเอาเปรียบหมู่
มันคืองูเห่าก้อม มีพิษฮ้ายตอดตาย หลานเอย
25. คันแม่นมีสติแล้ว สตางค์หามาได้ง่าย
สตางค์หลายสติล่ม สตางค์สิ้นคู่สตางค์ หลานเอย
26. แกล้งทำทีเป็นแพ้ ดีกับเขาไปสาก่อน
ตอนหลังเฮาจั่งเมี้ยน คันยังแค้นบ่หาย หลานเอย
27. ย้องให่มันแล่นเล่น ชกลมไปสาก่อน
ตอนที่มันเมื่อยล้า จั่งค่อยเมี้ยนแม่มัน หลานเอย
28. เก็บอารมณ์เอาไว้ ในใจอย่าให่โผล่
ทำเป็นโง่บ่ฮู้เรื่อง ยิ้มเข่าไว้สิดีเอง หลานเอย
29. อย่าสิหลงคารมณ์ย้อง เป็นนายค้ำประกันเขา
มันสิคาคอเฮา ยามเขาหนีศาลเอิ้น หลานเอย
30. ทุกข์ยากย้อน เป็นคนดีเขาให่ซ่อย
เดิ้กดื่นลุกนั่งป้อย เป็นลูกหนี่บ่ได้ยืม หลานเอย
31. หินแตกแล้ว บ่คงคืนคือเก่า
ดินที่มุ่นแตกม้าง ยังคืนได้ดังเดิม หลานเอย
32. แก้วแตกร้าว บ่คงคืนคือเก่า
ใจที่มุ่นแตกม้าง ผสานได้กะบ่โดน หลานเอย
33. มีความแค้น ให่ทำลืมสาก่อน
ไปแก้แค้นชาติหน่า กะยังได้บ่สาย หลานเอย
34. ชนะเมิดทุกเรื่อง สิเคืองตาผู้แนมเบิ่ง
ยอมแพ้เรื่องเล็กน้อย เรื่องใหญ่นั้นจั่งค่อยเอา หลานเอย
35. ฟังให่หลายเว้าหน่อย หน่าหงึกหงักแนจักนอย
ให่เพินฝอยเพินเว้า เฮาเอาซิ้นต่อนมัน หลานเอย
36. อย่าเปิดใจให่คนฮู้ ความในใจปิดไว้แน
ตีแผ่เสียทุกเรื่อง หมาจอกเถ่าสิเห่าหอน หลานเอย
37. ขี่ถี่หลายหมู่หนีหน่า หาซุมแซวหม่องใหม่
เซอะหลายเงินทองสิ้น หมู่กินถิ่มดังเดิม หลานเอย
38. คันหูหนวกเป็นบางครั้ง ใบ้บอดบางเวลา
สินำพาเฮาหนี พ้นภัยทั้งผองได้ หลานเอย
39. ทนให่เขางอยบ่าขึ่น ยืนสูงไปสาก่อน
ตอนหลังเฮาจ่ังขึ้่น ยืนสูงได้ดั่งกัน หลานเอย
40. คันแม่นตายไปแล้ว บ่มีแนวสิคึดต่อ
มันก็สุดจุดปุด ปานจ๊กครกแน่นนอน หลานเอย
41. คนหัวปู้ ดูหนังสือบ่ยอมห่าง
ว่างมื้อใดอ่านมื้อนั้น เฮียนเก่งได้ส่ำหัวดี หลานเอย
42. หัวดีแล้ว หนังสือกะบ่อ่าน
การบ้านบ่ส่งพร้อม คันสอบได้ให่ขี่หลัง หลานเอย
43. มีหมู่ดีแล้ว ฮั้วบ่มีกะตามซ่าง
ศัตรูมาหมู่อ้อมข่าง ศัตรูย้านแล่นหนี หลานเอย
44. ยามอยากกู้ ดอกท่อใดกะบ่เกี่ยง
บาดเถิงยามชดใช้ เงินต้นกะว่าแพง หลานเอย
45. หวังให่สูงสุดไว้ เพียรไปให่มันฮอด
แม่นสิจอดบ่ฮอดหม่อง ได้เคิงเสี่ยวกะว่าดี หลานเอย
46. คันบ่ตายด่าวดิ้น แผ่นดินยังพอได้ย่าง
ลมหายใจยังอยู่ยั้ง ความหวังนั้นอย่าสิเซา หลานเอย
47. ขี่ย้านล่วงหน้า กล้าโพดเหลือปานเสือใหญ่
ทั้งสองอย่างใช้บ่ได้ ให่ไลถิ่มอย่ากระทำ หลานเอย
48. คันเขาติเตียนต้าน ให่ตรวจตราตนเบิ่ง
เอาคำติ๊เซิงหม่อง มาตั้งต้นแต่งโต หลานเอย
49. คันเฮาเป็นผู้ให้ สิภูมิใจได้ซอยหมู่
เป็นผู้ขอผู้กู้ หมู่ซังฮ้ายหน่ายแหนง หลานเอย
50. นอนหัวค่ำตื่นเช้า เฮ็ดให้เฮาสดชื่น
อายุยืนฉลาดล้ำ เงินคำแก้วกะหลั่งโฮม หลานเอย
51. ยามเมื่อเฮาทุกข์ยาก ลำบากสุดชีวิต
พิศูจน์น้ำใจมิตร เสี่ยวสหายเมียแก้ว ซั่นแหล่ว หลานเอย
52. ยามเฮาเจ็บป่วยไข้ ไปนอนอยู่โรงบาล
พิศูจน์ใจบริวาร พี่น้องเฮาทั้งค่าย หลานเอย
53. จงรักษาความถืกต้องไว้ ให่คงอยู่ยืนยาว
ความถืกใจไว้คราวหลัง จั่งรักษากะยังได้ หลานเอย
54. ขี่เฮือฮั่วไปกลางน้ำ ยามกลางคืนมืดค่ำ
เมียชั่วนำนายซังฮ้าย ไผถืกเข่าจั่งแม่นซวย หลานเอย
55. ถึงสิเป็นพี่น้อง ยืมเงินทองจดไว้แน
เฮ็ดสัญญาให่ถืกต้อง เทือได้ฟ้องจั่งได้คืน หลานเอย
56. คันบ่ได้ด้วยเล่ห์ เพทุบายแต่งกลใส่
คันแม่นยังบ่ได้ ใช้มนต์พร้อมเป่าคาถา หลานเอย
57. ให่เจ้าอดทนไว้ ไฟแดงยังเปิดอยู่
ไฟเหลืองให้เตรียมพร้อม ไฟเขียวขึ่นจังค่อยไป หลานเอย
58. มื้อนี้เฮ็ดบ่แล้ว มื้ออื่นกะยังมี
เวลายังหลายปี มันต้องมีมื้อแล้ว หลานเอย
59. อดกลั้นไว้ อดทนแถมตื่ม
อดออมเงินอีกพร้อม สามอดนี้แม่นดีหลาย หลานเอย
60. ความจริงนั้น เว้าหลายมันกะล่าย
ความจริงหลายเว้าหน่อย มันบ่ฮู้เรื่องราว หลานเอย
61. ความสุขนั้น มีแล้วสูญเสียได้ง่าย
ส่วนความทุกข์ยากไฮ้ ได้มาแล้วอยู่บ่หนี หลานเอย
62. ความสุขนั้น คันอยากได้กะเป็นทุกข์
ให่ทำใจว่าซ่างมัน สุขสิลอยมาโลด หลานเอย
63. บ้านใด๋เมียด่าป้อย หมาฮ้ายเห่ากัดคน
บ้านนั้นจนทนทุกข์ สุขแล่นหนีไปสิ้น หลานเอย
64. การเลือกผัวเมียนั้น ให่เจ้าเลือกด้วยสองหู
คันเลือกดูด้วยสองตา อาจสิพาเพได้ หลานเอย
65. แต่งงานแล้ว มีตาเดียวมันจั่งแม่น
ตาข่างหนึ่งให่หลับไว้ หูกะด้ามดังกัน หลานเอย
66. ได้เมียฮูปฮ่างฮ้าย แต่ใจดีเป็นที่หนึ่ง
ดีกว่างามบูดบึ้ง มือชี้ใช้แต่ผัว หลานเอย
67. แต่งงานแล้ว สันดานเดิมสิออกย่าง
ลายข้างหลังสิออกวิ่ง ความจริงแท้สิออกลาย หลานเอย
68. ผู้ที่รวยล้นฟ้า ขาสิย่างคุงดิน
หากินเทิงเดือนดาว สาวไหมอยู่เทิงฟ้า หลานเอย
69. ผู้ที่ทุกข์ยากไฮ้ ขาย่างบ่คุงดิน
หากินแต่ของเมา สาวขาย่างเลาะบ้าน หลานเอย
70. เจ้าเกิดมาจนนั้น มันบ่แม่นความผิด
เกิดมาจนแล้วยังจน เป็นความผิดของเจ้า หลานเอย
71. เจ้าเกิดมารวยแล้ว รวยต่อไปมันจั่งแม่น
เกิดมารวยแล้วยากแค้น แม่นความผิดเจ้าแน่นอน หลานเอย
72. รวยย้อนเก็บกำได้ สิเติบใหญ่เป็นเศรษฐี
รวยย้อนพ่อแม่มี บ่แน่นอนแล้วแต่เจ้า หลานเอย
73. คันเจ้าอ่อนแอนั้น ใบกล้วยกะเป็นยักษ์
คันแม่นเจ้าเข้มแข็ง ยักษ์สิกลายเป็นใบกล้วย หลานเอย
74. ไทยสิเข่าอาเซียนแล้ว เป็นแนวใด๋เฮาพร้อมบ่
ความฮู้พอสู่เขาได้ เป็นนายจ้างหรือแหล่งเขา หลานเอย
75. โกงผู้อื่นนั้น มันเสี่ยงตายบ่คุ้มค่า
ได้ทรัพย์มาแต่เดือดฮ้อน ได้นอนลี้ย้านลูกปืน หลานเอย
76. คอรัปชั่น บ้านเมืองบ่เฮืองฮูง
โทษทัณฑ์สูงได้เงินหน่อย มันบ่คุ้มค่าเสี่ยงตาย หลานเอย
77. อย่าสิลักยักยอก หลอกเอาเงินของท่าน
ยมบาลเพิ่นสิฮู้ กรรมฮ้ายสิไล่นำ หลานเอย
78. อย่าสิเป็นโขมยน้อย จอบหลอยเอาของเพิน
เดินทางไปเส้นนี้ มันล่วงเข้าคุกตราง หลานเอย
79. อย่าสิมัวเมาเหล่น การพนันขันต่อ
ม้นสิเหลือข่อหล่อ แต่ตีนเจ้าเกิบบ่ยัง หลานเอย
80. เป็นขโมยลักของท่าน บ่ทันโดนถืกจับจ่อง
แบกถังขี้ไงง่อง อยู่คุกพุ้นเมื่อยเหม็น หลานเอย
81. อย่าสิยับหลักฮั้ว ตั๊วเอาดินของหมู่เพิน
ทางเดินมันสิสั้น เมืองบ้านสิกล่าวขวัญ หลานเอย
…………………………….
6. คติธรรม(กลอนตลาด)
………………………
6.1 ตายเพราะปาก
………………………..
ถ้าพูดดี ก็จะมี ศรีที่ปาก
หากพูดมาก ปากก็อาจ จะมีสี
ปลาหมอตาย เพราะปากตน พ่นวารี
มนุษย์นี้ ตายเพราะปาก อยากกวนตีน
……………………….
6.2 กำขี้ดีกว่ากำตด
………………………
กำเอาขี้ ดีกว่า กำเอาตด
กลิ่นเหม็นหมด ก็ยังมี ขี้หลงหลือ
ประโยชน์ขี้ มีมาก หลากเหลือเฟือ
กำตดเหลือ มือเปล่า ไม่เข้าที
…………………….
6.3 การพนัน
……………….
ถ้าเล่นมาก ได้เสียมาก ฝากให้คิด
เล่นเพียงนิด ได้เสียน้อย บ่อยเป็นหลาย
เหมือนจิบเหล้า ทีละน้อย ค่อยละลาย
จิบนานไป เหล้าลด หมดเป็นกลม
…………………..
6.4 อะไรเอ่ย
………………….
อะไรเอ่ย ยิ้มงาม นามไพเราะ
เสียงเสนาะ เหมือนมีมนต์ ดลให้หลง
สวยใสซื่อ ประทับใจ ให้งวยงง
รักลุ่มหลง เพียงใด ได้แค่มอง
(เฉลย……น้องสาวเมีย)
……………………
6.5 อะไรเอ่ย
……………………
อะไรเอ่ย ยามยิ้ม เหมือนผีหลอก
ส่วนยามหยอก เหมือนกัน กับข่มขู่
ถึงยามนอน แก้ผ้า ให้เราดู
ชอบข่มขู่ ดุเรา ทุกเช้าเย็น
(เฉลย……เมีย)
……………….
6.6 มันหายาก
………………..
มันอะไร หายาก มากที่สุด
จะค้นขุด หาไหน ก็ไม่เห็น
หาทุกแห่ง ตั้งแต่เช้า จนถึงเย็น
ที่แท้เป็น มันหาย ไปไหนว๊ะ
……………………..
6.7 ระวังไม่ทัน
…………………….
เปิดแล้วแทง คืออะไร ใครตอบได้
สนุ้กเก้อร์ นั้นยังไง ถามโง่โง่
แทงแล้วเปิด ก็ตอบได้ คือไฮโล
ที่น่ากลัว แทงข้างหลัง ระวังไม่ทัน
……………………
6.8 ผู้นำที่ดี
…………………..
ยามยิ้มแย้ม เยือกเย็น อยู่ยืนหยัด
สารพัด ปัญหารุม ยืดหยุ่นได้
ยกย่องเป็น เห็นปัญหา นำพาไป
นโยบาย เด่นชัด กล้าตัดสินใจ
……………………
6.9 นายเลว
…………………….
ชอบชี้นิ้ว หิ้วอีหนู กู้ลูกน้อง
ทำจองหอง อวดเบ่ง นักเลงใหญ่
ทั้งหูเบา เจ้าอารมณ์ ข่มใครใคร
ไม่ยอมให้ ลูกน้องเป็น คนเด่นเกิน
……………………….
6.10 เก่งคนละด้าน
……………………..
เรื่องการค้า คนจีน คัาขายเก่ง
เรื่องนักเลง คนไทย อยู่แถวหน้า
ฝรั่งเก่ง ทางค้นคว้า พัฒนา
ดอกเบี้ยจ๋า อยู่ไหน ยกให้บัง
………………………
6.11 การเป็นนายที่ดี
………………………
การเป็นนาย ที่ดี นี้เป็นยาก
พระคุณมาก เสียวินัย งานไร้ผล
พระเดชมาก ถูกด่า ว่าเดนคน
ควรวางตน ให้เหมาะแก่ แต่ละงาน
………………
6.12 การวางตัว
………………
คนรักเมีย กลัวเมีย มักเสียเพื่อน
คนรักเพื่อน มักเสีย การเมียผัว
คนฉลาด ปราชญ์เปรื่อง เรื่องครอบครัว
ต้องวางตัว ให้ถูกกาล ถูกเรื่องราว
………………………..
6.13 สตรีกับสตางค์
…………………………
สตางค์มี สตรีมา อย่าสงสัย
สตรีไป เพราะสตางค์ หนีห่างเหิน
ถ้าอยากได้ สตรีมา พาเพลิดเพลิน
ต้องหาเงิน มาแจกจ่าย ให้สตรี
……………………………
6.14 หลักการประสานงาน
…………………………..
ปากเป็นเอก เลขแม่น วางแผนเหมาะ
มุ่งมั่นเจาะ ลงลึก เพียรฝึกฝน
ยิงตรงเป้า เข้าถึง ตรึงใจคน
ยึดเหตุผล หาญแก้ แพ้ให้เป็น
……………………
6.15 งานเสี่ยง
…………………..
กำไรมาก เสี่ยงมาก ฝากให้คิด
เช่นงานผิด กฎหมาย ขายยาบ้า
กำไรมาก หากถูกจับ รับอาญา
ตายเหมือนหมา ข้างถนน คนประณาม
…………………….
6.16 การวางตัว
…………………….
ถ้าแคบนัก มักคับ ขยับยาก
ถ้ากว้างมาก เกินไป ก็โหรงเหรง
ถ้าสูงนัก มักได้ โหนโตงเตง
ถ้าต่ำนัก มักถูกเฉ่ง จมบาดาล
…………………….
6.17 ความระแวง
……………………
ความระแวง สงสัย เข้าใจผิด
เป็นยาพิษ มิตรไมตรี ที่สดใส
ถ้ารักกัน ชอบกัน จงมั่นใจ
เลิกสงสัย เลิกระแวง รู้แบ่งปัน
…………………..
6.18 ทุกข์
…………………..
ทุกข์กายนั้น พออยู่ได้ ไม่แตกดับ
ยังพอรับ หลบลี้ หลีกหนีได้
ปัจจัยสี่ มีพร้อมแล้ว อยู่สบาย
แต่ทุกข์ใจ สุดจะลี้ หลีกหนีเอย
…………………..
6.19 ความสุข
…………………..
อยากมีสุข ดับทุกข์ใจ ให้ได้ก่อน
เลิกอาวรณ์ รูปรสกลิ่น สัมผัสเสียง
ดับอารมณ์ ข่มใจ ไม่ลำเอียง
จะสุขเที่ยง แท้จริง อิงนิพพาน
……………………
6.20 การคบคน
……………….…..
คนผู้ดี มีอยู่ ทุกหย่อมหญ้า
คนชั่วช้า มีอยู่ ทุกแห่งหน
ทุกประเทศ ยังมี ขโมยโจร
จะคบคน ประเภทไหน ให้ไตร่ตรอง
…………………..
6.21 สอนไปเลย
…………………..
ถ้ารอให้ ตัวดีก่อน ค่อยสอนเขา
ชาตินี้เจ้า คงสอน ใครไม่ได้
ปุถุชน ความชั่วดี มีทุกราย
จะสอนใคร ต้องสอนก่อน เข้านอนโลง
……………………………..…
6.22 จงทำตามที่ฉันสอน
………………………………..
จงทำตาม ที่ฉันสอน ไปก่อนเถิด
อย่าเตลิด ไปตาม ฉันทำอยู่
ฉันสอนตาม คำสั่งสอน บรมครู
ฉันทำอยู่ คุกถาม บาปกรรมรอ
…………………
6.23 คิดถึงกัน
……………….
คิดอะไร ไม่สนิท เท่าคิดถึง
มันซาบซึ้ง ตรึงใจ หาใดเหมือน
ภาพก่อนเก่า คราวหลัง ยังติดเตือน
คิดยิ่งเหมือน เราใกล้ชิด สนิทกัน
………………..…
6.24 งาน
………………..…
งานยิ่งมาก ยิ่งดี บารมีเกิด
ทำไปเถิด ไม่นานนัก จักเห็นผล
ไม่ต้องง้อ งอนใคร ให้ช่วยดล
รอให้ผล งานออก บอกเราเอง
………………
6.25 รอ
…………………..
ถ้าทำดี ดีไม่ได้ ให้รอก่อน
อย่าใจร้อน โวยวาย ทำขายหน้า
ดีบางอย่าง ให้ผล เห็นทันตา
ดีบางอย่าง ให้ผลช้า ต้องรอนาน
……………………
6.26 คนเราต่างกัน
…………………..
คนฉลาด เปลี่ยนใจ ได้ทุกเมื่อ
ถ้าเปลี่ยนเพื่อ สิ่งดีดี ที่เหมาะสม
แต่จิตใจ ของคน โง่งายงม
ถึงล่มจม ก็จะไม่ เปลี่ยนใจตน
…………………
6.27 ผัวเมีย
……………….
ถ้าผัวดี เมียดี นั้นดีแน่
ถ้าเมียดี ผัวแย่ พอแก้ไข
ถ้าผัวแย่ เมียดี มีทางไป
ถ้าเมียแย่ ผัวไม่เอาไหน ไปคนละทาง
……………….
6.28 เพื่อนแท้
……………….
ยามยากจน ข้นแค้น แสนสาหัส
สารพัด ย่ำแย่ สุดแก้ไข
ถ้ามีใคร มาช่วย ด้วยจริงใจ
จดจำไว้ คนนั้นแหละ เพื่อนแท้เรา
……………………
6.29 เพื่อน
………………….
มีเพื่อนดี หนึ่งร้อย น้อยไปนิด
อาจช่วยกิจ การใหญ่ ไม่ได้ผล
มีศัตรู คู่อาฆาต เพียงหนึ่งคน
ก็มากล้น ด่วนแก้ไข อย่าให้มี
……………..
6.30 ศัตรู
……………..
มืศัตรู แม้เพียงหนึ่ง ถึงน้อยนิด
แต่มีพิษ มากมาย ร้ายนักหนา
อาจทำร้าย เราได้ ทุกเวลา
ควรเสาะหา ทางแก้ไข ในทันที
………………
6.31 หลังอาน
……………
ไม่ประหยัด เงินไว้ ใช้ยามยาก
ต้องลำบาก กราบกราน กู้เงินเขา
ดอกยี่สิบ สามสิบ ก็ต้องเอา
เป็นทาสเขา ใช้ดอกต้น จนหลังอาน
………………..
6.32 ติ
……………….
ถ้าเขาติ ให้เราตรอง มองที่ติ
แล้วเริ่มริ ดูแล คอยแก้ไข
ตัดแต่งเติม เสริมที่ ขาดหายไป
ปรับแต่งใหม่ ให้เข้าท่า ดีกว่าเดิม
…………………………..
6.33 วิธีดูรถ
…………………………
จะดูรถ มอร์ไซด์ ให้ดูรุ่น
ดูแม่คุณ ที่จะซ้อน ออนซอนไหม
จะให้แน่ ต้องดูถึง ซึ่งข้างใน
ยี่ห้อไหน กี่ซีซี ฟรีเงินดาวน์
…………………………
6.34 โกรธกันเป็นยักษ์
………………………
โกรธกันนั้น ไม่ดี มีเจ็บปวด
เพราะความโกรธ แผดเผา ให้เศร้าหมอง
โกรธครั้งใด หน้าตา ไม่น่ามอง
เคยผุดผ่อง ก็พลันเปลี่ยน เป็นยักษ์มาร
…………………………
6.35 รักกันเป็นนางฟ้า
………………………..
หน้าเหมือนยักษ์ กลั้นตด ซดน้ำร้อน
อรชร เหมือนตุ่ม ที่ต่อขา
แต่รักใคร่ ใจดี มีเมตตา
คือนางฟ้า ที่สดใส ในใจเรา
………………….………
6.36 แยกกันเราอยู่
…………………..…….
ถ้ารวมกัน แล้วสบาย ให้รวมเถิด
แต่ถ้าเกิด รวมกัน แล้วเสียหาย
หรือรวมกัน แล้วไม่ ทำอะไร
แยกกันไป ดีกว่า มารวมกัน
…………………………….
6.37 อายครูไม่รู้วิชา
……………………………
ถ้าอายครู ก็จะไม่ รู้วิชา
อายภรรยา ก็จะ ไม่่มีบุตร
ถ้าได้ครู มาเป็นคู่ สับปะยุทธ
ก็จะได้ ทั้งบุตร และวิชา
…………………….
6.38 เงินมากาได้
……………………
เงินไม่มา กาไม่เป็น เส้นกระตุก
จะนั่งลุก ก็ไม่ไหว ไปไม่ถึง
ถ้าเงินมา ไกลใกล้ ไม่คำนึง
จะไปถึง ก่อนเวลา กาคะแนน
…………………..
6.39 สมัยใหม่
………………….
อันนารี มีค่า ที่สามารถ
ทั้งฉลาด ปราชญ์เปรื่อง เรื่องเมียผัว
ทั้งการเงิน การงาน การแต่งตัว
ส่วนการครัว ทอดไข่เป็น เห็นจะพอ
…………………….
6.40 สมัยเก่า
………….………
อันนารี มีค่า ที่ความสาว
ถ้ามีคาว โลกีย์ ที่มัวหมอง
จะไม่มี ชายดีใด ที่หมายปอง
ต้องเป็นของ ให้ชายแห่ จนแก่ตาย
………………..…….
6.41 สวยกับรวย
………………..…..
สวยกับรวย อย่างไหน จะดีกว่า
บ้างก็ว่า สวยดีกว่า อย่าสงสัย
บ้างก็ว่า รวยดีกว่า ว่ากันไป
แต่อย่าให้ ถึงชกกัน นั่นแหละดี
……………………
6.42 ยิ้มดีกว่าไหม
…………………..
ยิ้มให้กัน วันละนิด จิตแจ่มใส
ยิ้มช่วยให้ เริงรื่น ชื่นหรรษา
ยิ้มช่วยให้ ใกล้ชิด ติดตรึงตา
ยิ้มเสริมค่า หุ่นขี้เหร่ ให้เท่ห์งาม
………………………..
6.43 ความรักต้องพอดี
……………………….
อันความรัก มากไป ก็หน่ายง่าย
ถ้าน้อยไป ก็ไม่ดี มีสลาย
ต้องปรับแต่ง ให้พอดี มีน้ำใจ
ให้อภัย กันได้ ไม่ตัดรอน
………………….
6.44 ทำวันนี้ดีกว่า
………………….
วันพรุ่งนี้ อยู่ไกล อย่าไปคิด
ทำชีวิต วันนี้ ให้ดีกว่า
วันวานนี้ ผ่านไป ไม่คืนมา
แก้ปัญหา วันนี้ได้ สบายเอย
…………………………..…..
6.45 สามประสาน
……………………..…………..
ประสานงาน ติดต่อ ตั้งแต่ต้น
ประสานคน ผูกใจไว้ ไม่ให้หนี
ประสานกิจ ร่วมทำงาน กันด้วยดี
ทั้งสามนี้ ประสานกัน งานเสร็จเอย
……………………………
6.46 เทคนิกการสนทนา
…………………………………
ถึงรู้แล้ว ก็ทำที เป็นไม่รู้
เพื่อให้คู่ สนทนา ได้เล่าต่อ
ถ้าเราฟัง เขาเล่า เราเออออ
อดทนรอ ฟังเขาเล่า เราได้ใจ
………………………
6.47 ประชาสัมพันธ์
……………………..
จงยิ้มรับ กับผูู้ที่ มาติดต่อ
อย่าหน้างอ ตวาดใส่ ไล่แขกหนี
จงพูดจา ถามไถ่ ด้วยไมตรี
ส่งวจี หวานเสนาะ เพราะจับใจ
………………….
6.48 สำเร็จ
………………….
ถ้าต่างคน ต่างทำ ต่างความคิด
ผลสัมฤทธิ์ คงไม่ได้ ดั่งใจหมาย
ถ้าเห็นต่าง แต่หาทาง ร่วมแรงใจ
กิจน้อยใหญ่ สำเร็จได้ ดังใจเอย
…………………………..……
6.49 ผู้ชายพายเรือ
………………………..……..
เป็นผู้ชาย พายเรือ เหลือลำบาก
เรือก็มาก เฉียดชนกัน นึกหวั่นไหว
แต่ความอยาก ได้คู่ครอง ที่ต้องใจ
เหนื่อยเพียงใด ต้องไม่ท้อ เรื่องถ่อพาย
………………………
6.50 ผู้หญิงยิงเรือ
………………………
เป็นผู้หญิง ยิงเรือ เหลือลำบาก
เรือก็มาก ผ่านไปมา น่าเวียนหัว
จะลงเรือ ลำไหน ให้นึกกลัว
จะได้ผัว ไม่เอาไหน ไร้น้ำยา
………………………………
6.51 คอยจนขึ้นคาน
…………………………..…..
เป็นผู้หญิง ยิงเรือ เพื่อหาคู่
เฝ้ามองดู เรือผู้ชาย ที่หมายมั่น
ตั้งแต่สาว จนเลยวัย ได้ขึ้นคาน
เรือมาดมั่น หมายใจไว้ ยังไม่มา
เห็นหนุ่มน้อย ลอยเรือ เข้ามาใกล้
นึกดีใจ ไม่เสียที ที่โหยหา
ถึงช้าหน่อย ก็ยังดี มีเรือมา
อนิจจา เรือลำนั้น หลานเธอเอง
……………..
6.52 โลกธรรม
…………….
ยามดวงดี ขายขี้ ก็ยังรวย
ยามดวงซวย ขายหวย ก็เจ๊งเขา
พระท่านว่า วาสนา ของคนเรา
ติดตามเฝ้า ให้ผลตาม เคยทำมา
ถ้าทำดี เอาไว้ ได้ดีแน่
ดีเผื่อแผ่ ให้สมหวัง ดังปรารถนา
ทำชั่วไว้ ผิดหวัง ทุกครั้งครา
แม้แต่หมา ของเรา ยังเห่าเอย
………………………
6.53 ดูนางให้ดูใกล้
……………………..
จะดูม้า ดูช้าง ดูห่างไว้
ถ้าดูใกล้ อาจถูกถีบ กระเด็นหงาย
แต่ดูนาง ให้ดูใกล้ ชิดติดกาย
ถ้ากอดได้ คลำได้ สบายเอย
……………………………….
6.54 ความรู้คู่ความดี
………………………………
มีความรู้ หากไม่มี ดีกำกับ
จะตกอับ ไร้ค่า หมดราศรี
มีความรู้ ไม่มีศีล ก็สิ้นดี
ความรู้มี ขาดธรรม ก็ต่ำทราม
………………….
6.55 ยังไม่จน
…………………
แม้ยากจน ข้นแค้น แสนสาหัส
เป็นจรจัด ขอเขากิน สิ้นศักดิ์ศรี
ถ้ามือตีน ยังอยู่ คู่ชีวี
ยังจะมี โอกาสฟื้น ทรัพย์คืนมา
…………………………….
6.56 แต่ละก้าว
…………………………..
จงอดทน ต่อสิ่ง ที่เลวร้าย
จงมุ่งหมาย ต่อสิ่ง ที่ดีกว่า
จงมุ่งมั่น ต่อการ พัฒนา
จงค้นคว้า ทุกเรื่องราว ก่อนก้าวเดิน
.……………………….
6.57 ทางชีวิต
……………………….
ยังไม่ถึง ที่ตาย แม้วายวอด
ยังไม่ถึง ที่จอด แม้ฉุกเฉิน
ยังเป็นทาง ที่เรา ต้องก้าวเดิน
มีเพลิดเพลิน โศกเศร้าบ้าง ก็ช่างมัน
ต้องประครอง ป้องชีวิต ให้ถึงฝั่ง
ระไววัง ทุกก้าวเดิน อย่าเพลินฝัน
ถ้าแม้นเรา ไม่ตาย วายชีวัน
ต้องฝ่าฟัน ถึงฝั่ง ดั่งฝันเรา
………………………..……
6.58 กรรมของเรา
……………………………..
ตอนจะเกิด ก็สุดแสน จะลำบาก
พ่อแม่อยาก จะไปให้ เขาทำแท้ง
ตอนเป็นเด็ก ร่างกายก็ ไม่แข็งแรง
เพราะพยาธิ รุมยื้อแย่ง แบ่งของกิน
ตอนเกิดมา แม่พ่อ ก็ลำบาก
ท่านต้องฝาก คนอื่นเลี้ยง เป็นนิจศีล
พอเติบใหญ่ พาไป ทั่วแดนดิน
เพื่อหากิน รับจ้างเขา เอาทุกทาง
ตอนเรียนก็ ไม่ดี มีสอบตก
เพราะระหก ไปทุกที่ มีงานจ้าง
ตอนมีงาน มากมาย มาหลายทาง
ก็นอนย่าง ขี้หมาแห้ง แรงไม่มี
ทำอะไร ก็ล้วนมี ที่ติดขัด
สารพัด ต่ำต้อย ด้อยศักดิ์ศรี
พระท่านว่า กรรมเก่า เราไม่ดี
ตามราวี ไม่รู้จบ พบแต่ซวย
…………………………………
6.59 สูตรสำเร็จ
……………………………….
เล่นพนัน ทุกที มีได้เสีย
ต้องบอกเมีย ทุกที ว่าเล่นได้
ถ้าขืนบอก เล่นเสีย เมียเอาตาย
บอกเล่นได้ ทุกครั้ง แบ่งตังค์เมีย
เมียจะไม่ ห้ามเล่น ถ้าเห็นได้
แถมยังให้ ตังค์ไป เล่นได้เสีย
จำเป็นสูตร สำเร็จไว้ ให้ตังค์เมีย
ถึงเล่นเสีย ก็ต้องให้ เมียได้ตังค์
………………………….
6.60 การใช้ปาก
………………………….
มีปากไว้ ใช้พูดจา ให้คนรัก
พูดเป็นหลัก การให้ คนนับถิอ
อย่ามีปาก ถากถาง หาตีนมือ
ปากซื่อบื้อ หุบไว้ ไม่เจรจา
……………………
6.61 การใช้ตา
………………..
มีตาไว้ ใช้ดู ให้รู้ชัด
สารพัด รูปคน สัตว์สิ่งของ
คนที่เขา ไม่ให้ดู อย่าถ้ำมอง
อาจถูกส่อง ถูกสอย ลอยซังเต
……………………
6.62 การใช้หู
………………..
มีหูไว้ ใช้ฟังเสียง ให้รู้ชัด
แยกแยะคัด เสียงดีร้าย ให้ใจสั่ง
ถ้าเสียงร้าย รีบหนี อยู่เป็นพัง
เสียงดีนั่ง ฟังต่อ ก็ตามใจ
………………………
6.63 การใช้จมูก
………………………
มีจมูก เอาไว้ ใช้ดมกลิ่น
หอมเหม็นสิ้น รู้ไว้ ไม่เสียหาย
ถ้ากลิ่นเหม็น เวียนหัว ให้ห่างไกล
กลิ่นหอมไซร้ ดมดอม หอมตามใจ
………………………
6.64 การใช้มือ
………………………
มีมือไว้ ใช้หยิบจับ รับส่งของ
กำหมัดถอง บนเวที มีรายได้
ถ้ากำหมัด ซัดปาก ใครต่อใคร
มีหวังได้ นั่งจับเจ่า เข้าซังเต
………………………
6.65 การใช้เท้า
………………………
มีเท้าไว้ ใช้เดิน ไปมาได้
ยามมีภัย ใช้เตะถีบ หรือวิ่งหนี
ยามสนุก สุขสันติ์ งานบุญมี
ใช้เท้านี้ เต้นสบาย ส่ายโยกมัน
…………………………………………..
6.65 เทคนิคการครองใจเมีย
………………………………………….
มีเมียไว้ ใช้งานได้ สารพัด
แต่ต้องหัด ยกยอ ต่อหน้าหลัง
ถ้าเมียเรา เอะอะ มะเทิ้งดัง
ต้องหัดนั่ง นิ่งไว้ ไม่ตอแย
ถ้าเมียเฉย เราแหย่ ตอแยได้
เมียร้องไห้ ไม่หยุด ให้ตอแหล
เมียออกงาน หาเรื่องฝอย คอยเทคแคร์
เมียเป็นแม่ คอยเกาะข้าง ไม่ห่างตัว
ถ้าเมียร้อน เราเย็น หรือเผ่นก่อน
รอถึงตอน เมียเย็น จึงเล่นหัว
ถ้าเมียขว้าง สากกะเบือ เสือก้นครัว
จงเตรียมตัว ชูครกรับ ให้ฉับไว
…………………………………………..
6.66 เทคนิคการครองใจผัว
………………………………………….
มีผัวไว้ เป็นคู่คิด มิตรคู่บ้าน
ผัวเกียจคร้าน ต้องหมั่นใช้ ให้ช่วยเหลือ
ผัวขยัน ต้องอุดหนุน คอยจุนเจือ
ถ้าผัวเบื่อ ต้องเอาใจ ให้รางวัล
ถ้าผัวหลง มนต์เสน่ห์ เล่ห์แม่หม้าย
เลิกเป็นยาย เขียนหน้าตา ทาสังขาร
ส่วนใดที่ เหี่ยวแห้ง ห้อยหย่อนยาน
ต้องจัดการ แปลงโฉมใหม่ ให้เต่งตึง
ปรับวาจา พาที มีจ๊ะจ๋า
เล่ห์มารยา มีเท่าไร ใช้ให้ถึง
เติมความรัก ให้เร้าใจ ไม่บึ้งตึง
มารยาถึง ผัวกลับใจ มาตายรัง
……………………………………………..
6.67 เทคนิคการครองใจพ่อตา
……………………………………………..
ถ้าอยากให้ พ่อตารัก ต้องหนักแน่น
หนึ่งรักแฟน ลูกพ่อตา ไม่พาหนี
สองพาแฟน ไปกราบกราน ท่านทุกปี
สามต้องมี ลูกหลาน ให้ท่านชม
สี่หาทาง ตอบแทน บุญคุณท่าน
ด้วยการหมั่น ไปเยี่ยม ตามเหมาะสม
มีของฝาก ให้ท่าน ได้ชื่นชม
ทำตัวสม กับที่ท่าน ให้ภรรยา
……………………………………………..
6.68 เทคนิคการครองใจแม่ยาย
…………………………………………….
แม่ยายดี ครองใจ ง่ายยิ่งนัก
เคารพรัก เหมือนแม่เรา เท่านั้นจบ
แต่ถ้าได้ แม่ยายร้าย ต้องเตรียมรบ
ขุดหลุมหลบ ขุดรูอยู่ เหมือนหนูนา
แต่ถ้าอยาก ครองใจ แม่ยายร้าย
ก็ทำได้ เหมือนกัน นั่นแหละหนา
หนึ่งก็ต้อง สำรวม กายวาจา
แม่ยายด่า ก็ให้ฟัง อย่างตั้งใจ
สองพูดดี มีสัมมา คาระวะ
ไม่เกะกะ เกเร ทำเฉไฉ
สามขยัน ทำความดี มีน้ำใจ
สี่เร็วไว ผลิตหลาน ให้ท่านชม
……………………………………………..
6.69 เทคนิคการครองใจนาย
…………………………………………….
การครองใจ นายดี นี่ทำง่าย
เพียงตั้งใจ ทำงาน ที่ท่านสั่ง
รับผิดชอบ หน้าที่ อย่างจริงจัง
แม้ลับหลัง ก็ปกป้อง คุ้มครองนาย
การครองใจ นายไม่ดี นี่ก็ง่าย
เพียงรู้ใจ ว่านายเรา ชอบสิ่งไหน
เรารีบหา สิ่งนั้น มาทันใด
เอาไปให้ นายท่าน ในทันที
เมื่อครองใจ นายได้แล้ว แจ๋วทุกอย่าง
ผิดพลาดพลั้ง ได้อภัย ไม่ต้องหนี
มีนายช่วย อยู่ข้างหลัง ทุกอย่างดี
เพราะนายมี ชื่อเรา เข้าครอบงำ
…………………………….
7. ขอบคุณ(กลอนตลาด)
……………………………
ขอขอบคุณ ทุกท่าน ที่เคารพ
มางานศพ ของกระผม ในวันนี้
ขอขอบคุณ ทุกนำ้ใจ ทุกไมตรี
ไม่รู้ที่ หาสิ่งใด มาตอบแทน
จึงเรียงร้อย ถ้อยคำ ก่อนจำจาก
เป็นของฝาก จากใจ คนไกลแสน
จากคนที่ ห่างหาย ไปต่างแดน
เพื่อตอบแทน ทุกท่านที่ มีพระคุณ
ขอเดชะ พระไตรยรัตน์ บุญฤทธิ์
โปรดประสิทธิ์ พรให้ อวยชัยหนุน
ขอเทพไท้ เทวัญ ประทานคุณ
โปรดอวยหนุน ให้ทุกท่าน เบิกบานใจ
ให้อยู่ดี มีสุข ไม่ทุกข์ร้อน
นั่งกินนอน สุขสม อารมณ์หมาย
ได้มีเป็น เช่นที่หวัง ทุกอย่างไป
แสนสบาย หล่อสวยใส ดั่งวัยทีน
ให้มีเงิน เต็มห้อง ทองเต็มบ้าน
ทุกคืนวัน หล่อสวย รวยทรัพย์สิน
เกียรติปรากฎ ก้องหล้า คู่ฟ้าดิน
ประสบสิน ภิญโญสุข ทุกท่านเทอญ
ลาก่อนทุกคน
จาก..ผู้วายชนม์
………………………..
8. ขอบคุณ(กลอนอีสาน)
……………………….
ขอบพระคุณทุกท่าน ที่มางานเผาพ่อใหญ่
ทั้งบ้านเหนือบ้านใต้ ทั้งไกลใกล้หลั่งมา
บ่ได้จาบ่ได้เอิ้น เพินกะบ่สนใจ
เพียงได้ยินพ่อครูตาย กะแล่นมาไวฟ้าว
ซ่อยกันซาวซ่อยกันคั้น ซ่อยกันพันซ่อยกันแต่ง
ผู้แข็งแฮงซอยกันอุ้ม ศพพ่อครูเข้าใส่โลง
มาฟังพระสงฆ์สวดให้ ยามมื้อแลงบ่ได้ขาด
จนฮอดมื้อประกาศไว้ ย้ายศพเข้าใส่เมรุ
ซ่อยเหลือกันกางเต้น ซ่อยกันหามซ่อยกันแห่
ซ่อยดูแลแขกเหรื่อ ซ่อยเหลือสิ้นสู่อัน
ซ่อยเหลือกันจนฮอดมื้อ แห่หามมาฮอดป่า
ฮอดศาลาฮอดเมรุแล้ว ฮ่วมกันทอดถวายทาน
ถิ่มการงานทางบ้าน มาซ่อยงานเผาพ่อใหญ่
บ่มีใดสิตอบแทนหมู่เจ้า นอกจากคำเว้ากลั่นจากใจ
ขอบพระคุณหลายหล้ายเด้ออ้ายน้อง ขอบพระคุณอีกร้อยเทือ
เผาพ่อใหญ่แล้วเมือให้พบพ้อ ห่อคำแก้วและห่อเงิน
ให้เจ้าเพลินนำกินเล่น ได้มีเป็นเช่นฝันใฝ่
สุขสดใสซาบซ่า หูตาแจ้งส่องใส
ประสงค์ใดกะให้ได้ สมดังมโนหมาย
สุขสำบายปานพระยา อยู่ดีบ่มีฮ้อน
สมดังพรที่ผู้ข้า สาธยายทุกสิ่งอย่าง
สุขสมหวังคู่ด้าน เงินงานพร้อมคู่สู่อัน เด้อ
ลาก่อนสู่คน
จาก พ่อใหญ่ครู
9. เกร็ดความรู้สำหรับพิธีกร
1. คำว่าพระคุณเจ้า เป็นคำสรรพนามบุรุษที่ 2 หมายถึงภิกษุที่เคารพนับถือ
2. ไม่ควรใช้กราบอาราธนา เพราะคำว่า อาราธนา ใช้กับอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริต เป็นต้น ซึ่งมีคำอาราธนาเป็นภาษาบาลีโดยเฉพาะอยู่แล้ว
3. ไม่ควรใช้คำเฝือ (คำเฝือคือคำที่มีความหมายซ้ำกัน) เพราะทำให้ภาษาที่ใช้รกรุงรังเช่น กราบอาราธนานิมนต์ ใคร่ขอเรียนเชิญ ให้ใช้ว่า กราบนิมนต์ เรียนเชิญ
4. การให้พระทำนั้นทำนี้ให้ใช้คำว่า นิมนต์ หรือ กราบนิมนต์
5. ไม่ควรใช้คำว่า พระเดชพระคุณเจ้า เพราะฟังดูตลกและไม่มีในพจนานุกรม
6. พระเดชพระคุณให้ใช้กับพระราชาคณะชั้นเจ้าคุณขึ้นไปถึงสูงสุด เช่น พระเดชพระคุณ แล้วตามด้วยชื่อสมณศักดิ์ของท่านเช่น พระเดชพระคุณพระศรีสกลกิจ พระเดชพระคุณพระราชกวีวรญาณ พระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธิเมธี หรือเพิ่มคำว่าท่านเจ้าคุณด้วยก็ได้เช่น พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระศรีสกลกิจ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชกวีวรญาณ เป็นต้น ถ้า เป็นพระราชาคณะชั้นสมเด็จให้ใช้ว่า พระเดชพระคุณท่านเจ้าพระคุณสมเด็จ แล้วตามด้วยชื่อสมณศํกดิ์ของท่าน เช่น พระเดชพระคุณท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรานุวัตร พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฑฒาจารย์ (ใช้ว่า เจ้าพระคุณ หรือ เจ้าประคุณ ก็ได้) เป็นต้น
7. พระราชาคณะ แปลว่าพระภิกษุที่เป็นคณะของพระราชา หมายถึงพระภิกษุที่ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้มียศและตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือ พระราชาในการปกครองประเทศ พระแต่งตั้งกันเองไม่ได้เพราะพระพุทธเจ้าบัญญัตไว้ว่า คนที่มาบวชเป็นพระต้องสละชนชั้นวรรณะยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งและทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด เมื่อบวชแล้วให้เคารพกันตามลำดับอาวุโส กล่าวคือผู้บวชทีหลังต้องเคารพผู้บวชก่อน ในครั้งพุทธกาลจึงไม่มีท่านพระครูหรือท่านเจ้าคุณให้ญาติโยมเรียกผิดเรียก ถูกอย่างในเมืองไทยทุกวันนี้
8. ควรใช้คำว่า พระคุณเจ้า กับพระภิกษุที่มีสมณศักดิ์ต่ำกว่าพระราชาคณะ เช่นสามเณร พระภิกษุ พระครู พระครูปลัด พระครูใบฎีกา ฯลฯ
9. คำว่า พระคุณท่าน ไม่มีในพจนานุกรม เคยได้ยินพระใช้เรียกขานกันเองเท่านั้น จึงไม่ควรนำมาใช้กับพระ เพราะดูเป็นการตีตนเสมอพระอะไรประมาณนั้น
10. การใช้คำสรรพนามเรียกชื่อคนอื่นในงานต่าง ๆ ไม่ควรใช้คำว่า นาย หรือนาง แต่ควรใช้คำว่า คุณ………. คุณพ่อ… คุณแม่…คุณตา… คุณยาย….ฯลฯ เพราะสุภาพและเป็นการให้เกียรติเจ้าของชื่อมากกว่า
11. คำว่า ผ้าบังสุกุล เดิมหมายถึงผ้าที่ไม่มีเจ้าของ หรือผ้าที่เจ้าของเขาทิ้งแล้ว ประเทศอินเดียสมัย พุทธกาลผ้าทำจีวรหายากมาก เพราะชาวบ้านต้องทอผ้าใช้เองด้วยความยากลำบากจึงไม่ค่อยมีใครนำผ้ามาถวาย แต่เมื่อมีคนในครอบครัวตายพวกเขาจำต้องหาผ้าขาวผืนใหญ่มาห่อศพแล้วนำไปทิ้ง ที่ป่าช้านอกเมือง หรือนอกหมู่บ้านเพื่อให้เป็นอาหารของสุนัข อีกา อีแร้ง ฯลฯ ศพถูกสัตว์กัดกินหมดแล้วแต่ยังเหลือผ้าผืนเล็กบ้างใหญ่บ้าง(ผืนเล็กน่าจะเป็นผ้าห่อศพเด็กหรือทารก) ผ้าเหล่านี้ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ และเป็นผ้าที่เจ้าของทิ้งแล้วตามพุทธานุญาต ผู้ประสงค์จะบวชเป็นภิกษุและภิกษุที่จีวรขาดจึงต้องไปแสวงหาผ้าเหล่านี้มาตัดเย็บต่อกันเป็นผ้าสบง ผ้าอังสะ และผ้าประคตเอวตามรูปแบบที่กำหนดไว้ แล้วย้อมด้วยเปลือกไม้ แก่นไม้ขนุน หรือดินสีเหลืองสำหรับย้อมผ้า สมัยปัจจุบันผ้าบังสุกุลที่เจ้าภาพซื้อหานำมาถวายในงานศพประกอบด้วย ผ้าสบง 1 ผืน ผ้าอังสะ 1 ผืน เทียนและดอกไม้อย่างละคู่ และใบปวารณา 1 แผ่น เจ้าภาพต้องเตรียมผ้าบังสุกุลไว้ถวายพระสงฆ์ทุกรูปที่นิมนต์มาในงาน
12. คำ ว่า ผ้ามหาบังสุกุล มีที่มาเช่นเดียวกับผ้าบังสุกุล แต่เป็นผ้าห่อศพผืนใหญ่(น่าจะเป็นผ้าห่อศพผู้ใหญ่) สามารถนำมาตัดเย็บเป็นจีวรตามรูปแบบที่กำหนดได้ ปัจจุบันหมายถึง ผ้าบังสุกุลชุดใหญ่ ประกอบด้วย ผ้าจีวร 1 ผืน ผ้าสบง 1 ผืน และผ้าอังสะ 1 ผืน และอาจจะเพิ่ม ผ้าสังฆาฏิ 1 ผืน ประคตเอว 1 เส้น ฯลฯ เทียน 1 คู่ ดอกไม้ 1 คู่ และใบปวารณา 1 แผ่น เจ้าภาพอาจมีศรัทธาเตรียมผ้ามหาบังสุกุลถวายในงานศพชุดเดียวหรือหลายชุดก็ ได้
มีคำที่ใช้ใกล้เคียงกับคำว่าผ้ามหาบังสุกุลอยู่คำหนึ่งคือคำว่า ผ้ามหากฐิน แปลว่าผ้ากฐินชุดใหญ่ กล่าวคือนอกจากมีผ้าไตรแล้วยังมีของบริวารอย่างอื่นด้วยเช่นเดียวกัน
13. คำว่า ผ้าไตรบังสุกุล เป็นคำศัพท์ที่ท่านผู้รู้บัญญัติขึ้นใช้แทนคำว่า ผ้ามหาบังสุกุล หมาย ถึงผ้านุ่งห่มชุดเดียวมีสามผืน ประกอบด้วย ผ้าจีวร 1 ผืน ผ้าสบง 1 ผืน ผ้าอังสะ 1 ผืน ดอกไม้และเทียนอย่างละคู่ ใบปวารณา 1 แผ่น เจ้าภาพอาจมีศรัทธาเตรียมผ้าไตรบังสุกุลถวายในงานศพชุดเดียวหรือหลายชุดก็ ได้
พิธีกร มีคำศัพท์ให้เลือกใช้ในเรื่องนี้ถึง 2 คำ คือคำว่า ผ้ามหาบังสุกุล ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล กับคำว่า ผ้าไตรบังสุกุล ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่บัญญัติขึ้นมาใหม่ พิธีกรสามารถเลือกใช้ให้ถูกใจตัวเอง ถูกใจเจ้าภาพ หรือถูกใจชุมชนที่ท่านเป็นพิธีกรนั้นเทอญ
14. คำว่า ผ้าไตรเอก และคำว่า ผ้าไตรรอง น่าจะเป็นคำศัพท์ที่พิธีกรบัญญัติขึ้นใช้เอง เพราะไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎกหรือพจนานุกรม
2 Comments
สุดยอดมนุษย์ อัจฉริยะ ห้ามต๋ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องนี่หละสิต๋ายก่อนอ้าย
ต๋อย น้องรัก
ต้องตายตามลำดับเกิดก่อนเกิดหลัง ห้ามแซงคิว